กับการกลับมา ดิเอ็นออฟเดอะสตรอมสารคดีเบื้องหน้าเบื้องหลังการบรรลุเป้าหมายสู่แชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ของหงส์แดง
กับการกลับมา ได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอีกทีในรอบ 30 ปี ภายหลังที่ยอดกลุ่มจากเขตเมอร์ซีย์ไซด์ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดู 2019-20 มาครอบครองได้เสร็จ ซึ่งทั้งทีมแล้วก็แฟนบอลต่างจะต้องฝ่าฟันขวากหนามที่มากมายและก็การคอยอย่างทรหดอดทนจนกระทั่งกลับมาทวงความใหญ่โตที่สุดในแวดวงลูกหนังเมืองผู้ดีอีกรอบ
และก็เพื่อสืบต่อการบรรลุผลของกลุ่มหงส์แดงบนหน้าจอใหญ่ ก็เลยเป็นต้นเหตุของภาพยนตร์สารคดี ‘ดิเอ็นออฟเดอะสตรอม’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของการดิ้นรนฟันฝ่าปัญหาของลิเวอร์พูลสู่การบรรลุผลที่แฟนทั่วทั้งโลกรอ ด้วยการเจาะลึกเบื้องหน้าเบื้องหลังการบรรลุเป้าหมายสู่แชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ อัดแน่นไปด้วยบทสัมภาษณ์และก็ฟุตเทจ
เบื้องหน้าเบื้องหลังสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่เคยเผยแพร่ที่แหน่งใดมาก่อน เก็บเหตุในขณะที่ทั้งโลกหยุดชะงัก แม้กระนั้นความมุ่งมาดแล้วก็ความฝันของกลุ่มยังคงไปต่อ ฝ่าขวากหนามจนถึงไปถึงการเป็นแชมเปี้ยนท่ามกลางวิกฤต ขึ้นรถคดีประเด็นนี้ได้ เจอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล และก็ เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานชมรมเป็นหัวหน้าเสนอเรื่องราว
ที่ไม่เคยมีใครกันแน่ทราบ ร่วมด้วยการสัมภาษณ์สุดพิเศษจากนักฟุตบอลชุดใหญ่ของกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ซาดิโอ มาเน, โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และก็ อลิสชอน เบ็คเกอร์ รวมถึงบรรดา เดอะค็อป แฟนคลับผู้ลุ่มหลงจากรอบโลก ภาพยนตร์ประเด็นนี้ ได้ความสามารถของผู้กำกับ เจมส์ เออร์สคีน ที่เคยควบคุม ข่าวหนังใหม่
ราชาน้ำแข็ง, บิลลี, วันไนท์อินตูริน, เลอมังส์ เรซซิ่ง อิส เอเวอรี่ติง มาช่วยประดิษฐ์ผลงาน ซึ่งเขาได้ไอเดียมาจากเรื่องราวของชมรม วันด้า เรด ที่เป็นการรวมกลุ่มของแฟนบอลหงส์แดงในเมืองคิกาลี สาธารณรัฐรวันดา กับการที่พวกเขาใช้บอลเพื่อแก้ไขรอยแผลจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปี 1994 โดยโปรเจคต์นี้เริ่มถ่ายทำท่ามกลางหายนะจาก
โรคระบาด ปัญหาต่างๆพร้อมกับความลังเลใจที่ไม่ทราบด้วยซํ้าว่ากลุ่มจะได้แชมป์ได้มาไหม
กับการกลับมา สำหรับดิเอ็นออฟเดอะสตรอม จะเข้าฉายในโรงหนังในวันที่ 14 ม.ค.นี้
กับการกลับมา ถ้าหากเอ่ยถึงเรื่องราวในแวดวงลูกหนังทั่วทั้งโลก หนึ่งในสตอรี่ที่คนจำต้องรำลึกถึงสูงที่สุดในรอบปีให้หลัง อาจจะหนีไม่พ้น การหวนคืนมาได้แชมป์ลีกสูงสุดของ ‘ลิเวอร์พูล’ หงส์แดง ได้เสร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ แถมยังเป็นการสร้างสถิติใหม่ทำคะแนนในลีกไปได้ถึง 99 แต้มอีกด้วย ซึ่งไม่มีข้อสงสัยว่า หงส์แดง สมัย เจอร์เกน คล็อปป์
เป็นหนึ่งในทีมชุดที่ดีเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของสโมสรดิเอ็นออฟเดอะสตรอม สารคดีที่จะพาผู้ชมหวนนึกถึงฤดู 2019/2020 กับเส้นทางสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกของ ‘ลิเวอร์พูล’ แบบเจาะลึก ผ่านไอเดียของ เจมส์ เอ้อร์สคีน ผู้กำกับงานสารคดีเยี่ยมๆหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบิลลี หรือราชาน้ำแข็ง ที่เขาเอาเรื่องราวของมนุษย์มาร้อยเรียงแล้วมาเล่าได้สนุกสนาน
จับอารมณ์ผู้ชมเก่ง แล้วคุมเวลาได้พอเหมาะพอดี ความทรมานและเป็นทุกข์ที่มีสาเหตุมาจากการรอคอย หนังอธิบายสั้นๆปูถึงประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของสโมสร การบรรลุเป้าหมายในสมัยก่อนที่ทำให้พวกเขาเคยมีชื่อเสียงว่าเป็น ‘เครื่องจักรสีแดง’ หนึ่งในทีมที่มีฐานแฟนๆบอลเยอะที่สุดอยู่ทั่วทุกแห่งหนบนโลก แต่ห่างหายจากแชมป์ลีกสูงสุด
ของอังกฤษมาแล้ว 30 ปี หรือเฉลี่ยเกือบจะครึ่งชีวิตของคนคนหนึ่ง ตั้งแต่แมื่อสมัยของ ‘คิงเคนนี่’ เคนนี่ ดัลกลิช และก็แนวรุกสามทหารเสือ เอียน รัช, ปีเตอร์ เบียดสลีย์ และก็ จอห์น บาร์นส์ หนังร้อยเรียงเรื่องราว ความหมดหวังแล้วก็รอยน้ำตา ปีแล้วปีเล่าที่ผ่านไป ที่พวกเขาทำเป็นเพียงแค่เฉียดฉิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพลาดแชมป์ในปี 2014
สมัยของ เบรนดินแดน รอดพบร์ส ก่อนที่จะการมาของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในปี 2017 ชายผู้พา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย จะเป็นจุดเริ่มแรกของแผนสร้างกลุ่มเพื่อปลุกยักษ์ที่บริเวณลุ่มน้ำเมอร์ซีย์ไซด์กลับสู่เบอร์ 1 ของเกาะอังกฤษอีกที จุดเริ่มแรกของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ตัวหนังได้บันทึกฟุตเทจตั้งแต่คล็อปป์ เชื้อไวรัสล้างโลก
เข้ามาเปิดตัววันแรกกับชมรม คุมกลุ่มครั้งแรก ความแพ้พ่ายย่อยยับที่ทำให้เขาเริ่มผ่าตัดทีม ตั้งแต่การซื้อนักฟุตบอลใหม่ๆที่เป็นแกนหลักของกลุ่มเข้ามา ประกอบร่างจนถึงมาเป็นกลุ่มที่บรรลุผลสำเร็จอย่างมากใหญ่ในปัจจุบัน โดยหนังจะเดินด้วยคลิปวีดีโอของเหตุการณ์สำคัญในช่วงฤดูกาล ตัดสลับกับบทสัมภาษณ์ของ เจอร์เกน คล็อปป์
พร้อมนักฟุตบอลแกนหลักของกลุ่มอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และก็ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ซึ่งหนังใส่เรื่องราวนอกสนาม แรงผลักดัน เงื่อนต่างๆของนักฟุตบอลมาผูกเข้าได้พอดีมาก
สำหรับแฟนหงส์แล้ว ดิเอ็นออฟเดอะสตรอมคงจะเป็นหนังสารคดีที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมหัวใจ
โดยยิ่งไปกว่านั้นฟุตเทจแบบเอคซ์คลูซิฟ ที่พวกเราจะได้มองเห็นจากภายในห้องแต่งตัว สนามฝึกซ้อม หรือแม้กระทั้งแอ็กชันการส่งเสียงออกคำสั่งในสนาม ความคิดของผู้จัดการทีมฟุตบอล นักฟุตบอล ในแต่ละโมเมนต์ของฤดู 2019/2020 ที่แข่งลากยาวกันตลอด 8-9 เดือน พวกเราจะมองเห็นอารมณ์ ความเชื่อมั่น ความอ่อนล้าล้า ซึ่งสวิงไปๆมาๆ
และก็สถานะการณ์ที่คิดไม่ถึงอย่างการปรากฏตัวของ เชื้อไวรัสวัววิด ในช่วงปลายปี 2019 ที่ทำให้เกมบอลแปลงเค้าหน้าไปชั่วกับชั่วกัลป์ ไม่ว่าจะเป็นการฝึก หรือแม้กระทั้งอารมณ์ ความรู้สึก ที่จำต้องลงแข่งขันในสนามอันว่างไม่ไม่มีเสียงเชียร์ ยิ่งกว่านั้น หนังได้ถือมุมมองของบรรดาแฟนบอลลิเวอร์พูลตัวยงทั่วทุกมุมโลกสลับมาเล่า ซึ่งเผยความรู้สึก
ความซื่อสัตย์ที่มีต่อทีมจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับความมุ่งมาด ขยี้แทนจิตใจแฟนบอลทุกคน ถึงการรออันช้านาน ซึ่งส่วนนี้ก็มาเสริม มาเติมเต็มตัวหนังได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากมายๆ การกลับมาเป็นอย่างมากใหญ่ สารคดีหัวข้อนี้ ก็เลยไม่เฉพาะแต่เป็นการรีวิวซีซันอันน่าจำของพวกพ้อง ‘ลิเวอร์พูล’ หากแม้กระนั้นหนังทัชผู้ชมด้วยการ
เน้นไปที่ความรัก ความพร้อมใจ ที่มีต่อกันในทีม ทีมสปิริตที่คล็อปป์ทำขึ้นตามคำคม ‘You’ll never walk alone’ ตัวตนของนักฟุตบอลแต่ละคนที่ล้วนผ่านเรื่องราวรวมทั้งความหมดหวังมา พวกเขาเอาชนะเงื่อนนั้นเช่นไร กลับความนึกคิดยังไง ยกฐานะตนเองยังไง เหมาะสมมีค่าแก่การเรียนรู้ รวมทั้งหนังทำให้พวกเราอินได้ง่ายสุดๆ ถึงแม้คุณ
ไม่ใช่แฟนบอล ดูหนังประเด็นนี้จบ คุณจะเปลี่ยนเป็นแฟนบอลที่ยกฐานะความนึกคิดไปอีกขั้น จะมิได้ดูเพียงแค่ว่าทีมมันเก่งเพราะเหตุว่าใช้แท็กติกอะไร ขึ้นเกมแบบไหน เชฟเกมรับคืออะไร ตำแหน่งของตัวรุกตอนไม่มีบอลคืออะไร เพราะเหตุว่าจริงๆมันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของ ‘ศิลป์การจัดการจัดแจงกลุ่ม’ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลังของการสร้าง ‘เครื่องจักรสีแดง’ ขึ้นมาใหม่ราว 30 ปีที่ผ่านมา