ฉากแอ็กชั่นมันส์ ในโซลกำเนิดคดีการฆ่าตลอดสุดชั่วร้ายที่ยังไม่สามารถที่จะจับคนร้ายมาลงอาญาได้
ฉากแอ็กชั่นมันส์ กลุ่มของผู้กองฮันซู ได้รับมอบหมายให้ร่วมในชุดสืบสาวของคดีนี้ โดยมีคู่แข่งขันเป็นกลุ่มของ ผู้กองไม่นเต ซึ่งทั้งสองมีพนันใหญ่ว่าแม้คนใดกันแน่ปิดคดีนี้ได้จะได้รับการเลื่อนชั้นเป็นหัวหน้าหน่วยคนใหม่ รวมทั้งยิ่งสืบไปก็ยิ่ง
แข่งขันกันเข้มข้นกระทั่งเริ่มไม่เลือกกรรมวิธี แล้วผู้ใดเป็นสัตว์ร้ายตัวจริงในหัวข้อนี้? ผลงานสุดเดือดของผู้กำกับ อี จุงโฮ ที่เคยฝากผลงานในแนวสอบปากคำตื่นเต้นมาแล้วถึง 2 เรื่อง อย่าง เบสเซลเลอร์ (2010) แล้วก็ โบรเคน (2014) มาในเรื่อง
ปัจจุบันนี้ เขาได้ดึง อี ซองไม่น ดาราหนังคู่บารมีที่เล่นให้เขามาทุกเรื่องมารับบทนำหลัก ผู้กองฮันซู นายตำรวจสายสัญชาตญาณ ที่ใช้กระบวนการเทาๆปิดคดีสำคัญมาแล้วจำนวนมาก โดยเขาจำต้องปะทะกับดารานำสุดเก๋าพอกันอีกคนอย่าง ยู แจมุง
ที่สวมบท ผู้กองไม่นเต ซึ่งบากบั่นไล่ผลงานของฮันซูแบบหายใจรดก้านคอ เนื่องจากว่าทั้งสองถึงแม้เป็นอดีตคู่คิดตำรวจแต่ว่าปัจจุบันนี้เป็นคู่ปรปักษ์สำคัญสำหรับการแย่งเก้าอี้หัวหน้าหน่วยคนใหม่ที่มีที่เดียว ความน่าดึงดูดใจอีกประการของหนัง
มาจากการร่วมสร้างระหว่างประเทศเกาหลีรวมทั้งประเทศฝรั่งเศส โดยฝั่งประเทศฝรั่งเศสนั้นได้ โกมงต์ ที่เป็นถึงสตูดิโอที่เคยทำหนังอย่าง ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ (1994) แล้วก็ รหัส 5 คนอึดทะลุโลก (1997) มาแล้ว รวมทั้งคราวนี้ก็เป็นการนำ
หนังเก่าของสตูดิโอมาให้ฝั่งประเทศเกาหลีรีเมก โดยนำพลอตมาจากเรื่อง สืบสวนสอบสวนคุณภาพจากฝรั่งเศส (2004) ที่ว่าด้วย 2 ตำรวจแข่งขันกันสืบคดีชิงทรัพย์ ซึ่งคราวนี้ประเทศเกาหลีได้เอามากลับเป็นการสืบคดีการสังหารตลอดที่เพิ่มเส้น
เรื่องของตัวคนร้ายตีคู่ไปพร้อมด้วย ก็ช่วยเพิ่มดีกรีความเข้มข้นขึ้นไปอีก ข้อดีของหนังอาจจะจำเป็นต้องเห็นด้วยว่ามาจากการแสดงที่ดึงความพอใจผู้ชมให้เอาใจช่วยได้ตลอดเรื่องของ อี ซองไม่น ที่ถ่ายทอดสภาวะคนจิตใจดีที่ตก ข่าวหนังใหม่
ในตอนวันผีซ้ำด้ำพลอยจนกระทั่งเขาเริ่มจะจิตหลุดไปทีละเล็กทีละน้อย ดังนี้ตัวบทก็สนับสนุนผู้แสดงนี้เจริญด้วยก็จะต้องชื่นชอบ เพราะว่านอกเหนือจากจะสร้างสถานการณ์ชักชวนลุ้นเยอะมาก ยังใส่เงื่อนเงื่อนที่นักแสดงก่อหรือรับกรรมจากสมัยก่อน
มาพันพัวในขณะนี้จนกระทั่งอีรุงตุงหนังได้ได้ผลเสร็จ เป็นความวายป่วงที่แก้เงื่อนหนึ่งก็ไปรัดแน่นอีกเงื่อนหนึ่ง ผู้ชมยังนึกไม่ออกว่าจะมีทางออกยังไง ผู้แสดงยิ่งไปใหญ่เพราะว่ายิ่งฝ่าฝืนจัดการกับปัญหายิ่งแย่ลงกว่าเดิมจนตรอกที่ตนเองทำขึ้นเอง
ฉากแอ็กชั่นมันส์ เดอะบีสท์โกรธแค้น ตามล่าเพื่อทวงลูกคืน หนังไล่ล่าแนวเดียวกับเทคเคน
เดอะบีสท์ โกรธแค้น หนัง ออริจินอล เน็ตฟิกซ์ของอิตาลีที่ได้ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง วอร์เนอร์บราเธอส์ มาเป็นทุนจ่ายเงินร่วม สร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้ด้วย บางครั้งก็อาจจะเป็นได้ว่าหัวข้อนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแบบแปลนฉายลงโรงหนังก่อนที่จะโควิดจะมา
แม้กระนั้นเน็ตฟลิกซ์บางทีอาจจะซื้อมาทำเป็นออริจินอล ของตัวเอง รวมทั้งด้วยธีมหนังที่เป็นการไล่ล่าชนิดเดียวกันกับเทคเคน ทำให้หนังประเด็นนี้ เป็นที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งสำหรับคนไหน กันที่พึงพอใจแอ็กชั่น ฆ่าไม่เลือกก็ทดลองรับ มีความน่าดึงดูดใจ
ดูแบบอย่างได้เลยขอรับ ลีโอนีด่าทอ รีว่า ชายแก่ที่เป็นโรคทางด้านจิตเวช จากประสบการณ์การศึก อันขาดความกรุณาปรานี ที่เขาพบเจอมากมายว่า 30 ปี แต่ว่าแล้ววันหนึ่ง ที่เขานัดหมายบุตรสาว รับประทานข้าวร่วมกัน ที่บ้านของเขา ลูกชายคนโตที่
จะต้องพาน้อง ไปส่งที่บ้านของพ่อเขา กลับเดินทางไปร้านค้าเบอเกอร์ เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับ พ่อของตัวเอง และก็ปลดปล่อยปะน้องสาว จนกระทั่งทำให้น้องสาว ของตนเองโดนลักพาตัวไป นั้นก็เลยทำให้ รีว่าจำเป็นต้องออกตามล่า ผู้ร้ายที่ลักพาตัว
บุตรสาวของเขาไป รวมทั้งตำรวจเอง ก็มั่นใจว่า รีว่าเองนั่นแหละที่เป็นผู้ร้าย จนกระทั่งเกิดเรื่อง ถึงขั้นจำเป็นต้องปิดเมือง เพื่อไล่ล่าอย่างยิ่งจริง ๆ ในระยะแรกของหนังพวกเขา พากเพียรที่จะเล่าความ เกี่ยวพันระหว่างผู้แสดงนำ และก็ครอบครัวของเขา
ว่ามีความเกี่ยวพัน ที่เสื่อมโทรมเพียงใด เมื่อลูกชายคนโต ของเขาก็ไม่สนใจ เมียเองก็กล่าวอะไรไม่มากมาย แต่ว่ายังมีเพียงแต่ บุตรสาวคนเล็ก เพียงแค่นั้นที่เป็นจุดเชื่อม ความเกี่ยวพันระหว่าง ครอบครัวไว้ รีว่าได้ตระหนักถึงความรัก ที่บุตรสาวของเขา
มีให้มันมากมาย จนถึงทำให้เขาต้องการ ที่จะกลับมาปกติ เมื่อบุตรสาวของเขานัดหมายพ่อของคุณ ทานอาหารด้วยกัน แม้กระนั้นก็เป็นเพียงแค่ความฝันเมื่อพี่ชายของคุณกลับไม่พาคุณไปพบพ่อ แล้วก็ปลดปล่อยน้องไว้เพียงผู้เดียวจนกระทั่งถูกลักพาตัว
รวมทั้งนั่นแหละก็เลยทำให้ รีว่า จำต้องออกไล่ล่าหาผู้ร้ายเพียงผู้เดียว เนื่องจากว่าตำรวจบางทีก็อาจจะช่วยไม่ทัน ซึ่งการเปิดเรื่องในเดี๋ยวนี้นับได้ว่าเป็นอะไรที่ทำให้หนังหัวข้อนี้เป็นอะไรที่น่าดึงดูดมากมาย เมื่อมีหลักสำคัญอื่นๆร่วมด้วย ทำให้หนังหัวข้อนี้
ไม่ใช่เพียงแค่เกี่ยวกับไล่ล่าเพียงอย่างเดียว แต่ว่าจึงควรหาทางสานสโมสรให้ครอบครัวกลับมารักกันดังเดิมอีกด้วย และก็ยังสร้างความข้องใจให้ตำรวจอีกด้วยว่าการที่เขาไปผู้เดียวนั้นมันเป็นแผนลักพาตัวด้วยรึเปล่า? และก็จะแก้ตัวเช่นไรกับผู้รักษาข้อบังคับ
แต่ว่าหัวข้อนี้กลับอ่อนลงเมื่อเหตุผลกลับฟังไม่ขึ้นเลยซักนิด เมื่อตำรวจได้มองเห็นเพียงแค่อะไรบางอย่างก็ทำให้เขาปักใจเชื่อแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูก โดยไม่ใคร่ครวญ ไม่ถูกกับหนังสอบสวนเรื่องอื่นที่จะต้องมีหลักฐานชัดแจ้งก่อน ก็เลยทำให้การมัดเงื่อนต่างๆมันดูหมิ่นบางมากมาย
ในระหว่างที่ตอนกึ่งกลางถึงด้านหลังเรื่อง ที่เริ่มเป็นฉากแอ็กชั่น รวมทั้งการเล่าใจความหลักนั้นทำเป็นออกจะแย่มากในบางช่วง
แล้วก็ดีในบางช่วง ความเป็นเหตุเป็นผลเริ่มหาไม่ได้จากหัวข้อนี้ การคลายเงื่อนต่าง ๆ ด้านในเรื่องคลายได้ง่ายเกินความจำเป็น รวมทั้งมีการตัดตอนไปๆมาๆ จนกระทั่งทำให้หนังประเด็นนี้ขาดความเกี่ยวเนื่องยาวกระทั่งทำให้ผู้ชมอารมณ์เสียได้ไม่ใช่น้อย
ตำรวจเสมือนเป็นเพียงแต่ตัวประกอบสำหรับเรื่อง มิได้เป็นส่วนจำเป็นต้องของเรื่องไม่ต้องใส่มาก็ยังได้เลย ส่วนตัวร้ายที่เสมือนจะเป็นตัวเด่นกลับไม่มีราคาในหนังโผล่มาเพียงแค่ไม่กี่นาทีแค่นั้น ก็เลยทำให้มีความรู้สึกผิดหวังบ้างเมื่อรับดู แต่ว่าบางช่วง
อย่างแนวทางการทำฉากย้อนอดีตของผู้แสดงเองก็ทำเป็นดีเหมือนกัน อย่างการคลายเงื่อนของผู้แสดงนำมันมีอิมแพ็คมากมาย รวมทั้งฉากแอ็กชั่นที่บันเทิงใจทำให้เรื่องมันไปต่อได้ ถึงแม้มันบางทีอาจจะราวกับฉากแอ็กชั่นทุนต่ำก็ตาม แต่ว่าก็เห็นด้วยว่า
ตอนสุดท้ายของเรื่องมีการคลายเงื่อนของนักแสดงทั้งปวงแล้ว และก็หนังประเด็นนี้ก็จบข้างในเรื่องของตัวมันเองได้ ฉากแอ็กชั่นจำเป็นต้องเห็นด้วยเลยว่าเป็นอะไรที่ไม่สามารถที่จะกล่าวโทษบาลานซ์ที่สุดในเรื่องและจากนั้นก็เป็นไปได้ บางฉากก็ดีแล้ว
มากมาย บางฉากก็ขบขัน บางฉากก็เล่นแย่ เสมือนทำสุ่มๆให้ผู้ชมได้พบกันไป ราวกับอุตสาหะจะกล่าวว่าหนังหัวข้อนี้มีทุนสร้างที่ไม่พอ พวกเราก็เลยจะต้องตัดทอนหลายๆอย่างด้านในหนัง ซึ่งสิ่งนี้เปิดโอกาสจุดสำคัญที่สุดในหนังจำพวกแอ็กชั่นนี้เลยก็ว่าได้
การที่ตัดทอนสิ่งนี้ก็ราวกับทำให้ท่านค่าลดน้อยลง ดังเช่นว่าในบางฉากที่ฝั่งตัวร้ายที่มีปืนทุกคน แต่ว่าเพียงพอเป็นอีกที่ที่มีเป็นสิบคน กลายเป็นว่าปืนมีกระบอกเดียวเพียงแค่ทั้งยังซีน,ฉากแอ็กชั่นที่มองตลกโปกฮามากมาย แล้วก็การแสดงของ
ตัวประกอบที่เสื่อมโทรมมากมาย ไม่เคยรู้สึกถึงพลังของความประพฤติปฏิบัติเลย ก็เลยให้แต้มในส่วนนี้ค่อนข้างจะน้อย เมื่อเทียบกับกับฉากที่ดี แต่ว่ามิได้ดีเยี่ยม การแสดงก็เป็นอะไรที่บอกยากอีกเหมือนกันว่าดีไหมคืนดีกันแน่ เพราะว่าบทสำหรับพูด
ที่แต่ละคนได้มา การพูดของผู้แสดงทั้งยังเรื่องพวกเราจะได้มองเห็นอยู่เพียงแค่ไม่กี่แบบเพียงแค่นั้น สิ่งที่ได้มองเห็นเป็น นักแสดงวางท่าโก้เก๋ และก็ผู้แสดงสลดแต่ว่าเสียใจไม่สุด อารมณ์ผู้แสดงพวกเราจะมิได้มองเห็นรอยยิ้ม, ความดีอกดีใจ หรือความสูญ
เลื่อมใสเลยแม้แต่น้อย ในตอนแรกของหนังพวกเราบางทีอาจจะมีความคิดเห็นว่าการแสดงมันก็มองธรรมดา แต่ว่าพอสมควรไปเรื่อยมันกลายเป็นการแสดงที่ซ้ำซากจำเจมากมาย การแสดงของผู้แสดงหลักบางบุคคลไม่อาจจะลากหัวใจผู้ชมได้ นอกจาก
การแสดงของตัวนำที่เขาเป็นลักษณะการป่วยทางจิตใจจริงๆเขาทำให้เห็นว่าเขาเป็น รวมทั้งเสมือนเยอะแค่ไหน เขานิ่งอึ้งไม่คุยกับคนไหน คาแร็กเตอร์ที่ยังคงเป็นคาแร็กเตอร์ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ มันทำให้นักแสดงนี้ ทำออกมาก้าวหน้ามากมาย ก็เลยทำให้
สงสัยว่าเพราะเหตุไรหนังหัวข้อนี้ถึงมีสิ่งห่วยผสมดีเยอะแยะขนาดนี้ สรุปว่าเป็นอีกประเด็นที่น่าจะเป็นที่โปรดักชั่น และก็เงินลงทุนที่บางทีอาจจะบริหารไม่ดีพอเพียง จนถึงทำให้หนังในเรื่องมีฉากดีผสมฉากห่วยแตกมากขนาดนี้ แต่ว่าประเด็นนี้เองก็ไม่ใช่ตัวเลือก
ที่ห่วยแตกนักสำหรับผู้ที่จะดูหนังประเทศอื่นบ้าง เนื่องจากยังมีความสนุกสนานแล้วก็ความเพลิดเพลินให้ได้รับดูอยู่ แม้ว่าจะมีหลายจุดที่ขัดใจบ้าง