ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ เดอะ ลาสต์ คิงดอม ซีซั่น4 เน็ตฟลิกซ์ ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ สงคราม อังกฤษปะทะไวกิ้ง เรื่องราวของอูเทร็ด
ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ ดัดแปลงแก้ไขจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าของ เบอร์นาร์ด คอร์นเวล จากชุด เดอะ แซกซัน สตอรี่ ที่ว่าด้วย กำเนิดประเทศอังกฤษ เดอะ ลาสต์ คิงดอม ซีซั่น4 สำหรับประเด็นนี้เป็นซีรีส์แนวแอ็กชั่นดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านทางตัวละครที่เป็นตัวเอกของเรื่องเป็นอูเทร็ด เด็กวัยหนุ่มชาวแซกซัน ผู้สืบสกุลของผู้ดูแลที่ยุติธรรมที่แบบเบนเบิร์ก ที่ถูกชาวเดนส์หรือไวกิงพรัดพรากรกรากและจากนั้นจึงนำไปเลี้ยงดูจนถึงเติบโต ขณะที่ป้อมแบบเบนเบิร์กก็ถูกอาของเขาครอบครองไป
แล้วต่อจากนั้นเขาก็ดำรงชีวิตตามช่องทางแบบชาวเดนส์ ไม่ยอมรับแนวทางของชาวคริสต์และก็เชื้อสายแซกซันในตัว แต่ว่าด้วยชะตากรรมทำให้เขาจะต้องกลับมาช่วยเหลือชาวแซกซัน ออกศึกต่อสู้กับชาวเดนส์เพื่อคุ้มครองป้องกัน เวสเซก อาณาจักรในที่สุดของชาวแซกซัน ที่มี “พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช” กษัตริย์ผู้ฉลาดมาก ที่ถัดมามีชื่อเสียงว่าเป็นมหาราชองค์แรกแล้วก็องค์เดียวของอังกฤษ เป็นผู้ดูแลอยู่ ข่าวหนังใหม่
สำหรับเรื่องราวใน 3 ซีซันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอูเทร็ด ดารานำชายของเรื่องมีความข้องเกี่ยวกับกษัตริย์อัลเฟรด ในแบบคนที่ใช้ประโยชน์ต่อกัน เขาได้ช่วยกอบกู้อาณาจักรในที่สุดของชาวแซกซันไว้หลายที ในเวลาที่อัลเฟรดก็ยังคงใช้คุณประโยชน์จากเขาบ่อยมาเช่นเดียวกัน กษิตริย์อัลเฟรดมีความต้องการที่จะสร้างอังกฤษที่มีกษัตริย์องค์เดียว เชื่อถือพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว เขาก็เลยจำต้องทำทั้งหมดทุกอย่างเพื่อขับไล่ไสส่งชาวเดนส์กลับไป
แล้วรวมทุกอาณาจักรของชาวแซกซันให้เป็นอังกฤษเพียงแต่อันเดียวให้ได้ แต่ว่าแล้วอัลเฟรดก็ล้มป่วยแล้วสวรรคตไปก่อนที่จะความฝันจะเป็นจริง ก่อนตายเขาได้เปิดใจกับอูเทร็ด วางการผิดใจทั้งหมดทั้งปวงที่เคยมีต่อกัน แล้วอ้อนวอนให้อูเทร็ด ช่วยเหลือบุตรชายของเขาเป็นเอ็ดเวิร์ด คุ้มครองป้องกันอาณาจักรนี้ถัดไป
ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ ด้านอูเทร็ด ที่ได้ช่วยกษัตริย์ชายหนุ่มที่พึ่งขึ้นครองราชย์อย่างเอ็ดเวิร์ด ออกศึกใหญ่กับกองทัพผู้ช่วยเหลือชาวเดนส์ที่มีกองกำลังกบฏนิดหน่อยมาร่วมด้วย
ภายหลังศึกในซีซัน 3 จบลง ด้วยความมีชัยของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด แม้กระนั้นจุดหมายสูงสุดของอูเทร็ด ที่จะทวงถิ่นฐานบ้านช่องของเขาอย่างแบบเบนเบิร์กกลับมาก็ยังไม่เป็นจริง เขาก็จะต้องเข้าไปข้องแวะกับจุดมุ่งหมายการผลิตประเทศของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่รับตกทอดภารกิจจากพ่ออีกที หากพูดว่า ซีซัน 4 ของหัวข้อนี้ เป็นซีซันที่บันเทิงใจที่สุด บางครั้งอาจจะไม่เกินเลยไป ด้วยเหตุว่าในซีซันนี้อูเทร็ด ผู้แสดงนำชายของเรื่องมีความก้าวหน้ามาไกลมากจากทีแรก ๆ ที่เป็นทหารชายหนุ่มใจร้อน สุดห้าว ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดข้างหลัง แล้วหลังจากนั้นก็จำเป็นต้องพาความลำบากตรากตรำมาให้ตนเองหลายคราว
ซึ่งในซีซัน 4 ดารานำชายของเรื่องก็ยังมีความผิดพลาดอยู่ แม้กระนั้นเป็นความบกพร่องที่ผู้ชมจะไม่ขัดใจแบบ 3 ซีซันก่อนหน้านี้ ในซีรีส์ประเด็นนี้ มีจังหวะการเล่าเรื่องอะไรบางอย่างที่เป็นแพทเทิร์นมาตลอด เป็นด้วยเหตุว่าตัวเรื่องมีการดัดแปลงแก้ไขจากนิยายชุด เดอะ แซกซัน สตอรี่ ซึ่งตอนนี้ เบอร์นาร์ด คอร์นเวล คนเขียนก็ยังคงเขียนออกมาเรื่อย ๆ พล็อตแนวทริลเลอร์
โดยลักษณะการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากนิยายมาเป็นซีรีส์นั้น จะใช้นิยาย 1 เล่ม ต่อรายละเอียดในซีรีส์ 4-5 ตอน โน่นพอ ๆ กับว่าใน 3 ซีซันก่อนหน้าที่ผ่านมา ซีรีส์นำนิยายมาสร้างแล้วทั้งปวง 6 เล่ม ส่วนในซีซัน 4 ก็ใช้นิยายเล่ม 7-8 เป็นเบสซึ่งพบว่านี่เป็นรายละเอียดตอนที่บันเทิงใจมากยิ่งกว่าอีกทั้งสามซีซันรวมกันซะอีก
สำหรับจุดที่ทำให้ซีซัน 4 ทำเป็นดีแล้วก็สนุกสนานว่าสามซีซันแรก สำคัญ ๆ ที่เจอได้ชัดแจ้งเป็น
1.บทของเรื่อง ที่ดูแล้วไม่ขัดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเผยความไม่ถูกกันด้านทัศนคติทางศาสนาระหว่างอูเทร็ด และก็กษัตริย์อัลเฟรด ที่ความไม่ถูกกันที่ตรงนี้วนไปวนมา เกือบจะวนลูป มีดราม่าหลอกใช้งาน แล้วหลังจากนั้นก็ทะเลาะกันเองตลอด แต่ว่าในซีซัน 4 เป็นสมัยของกษัตริย์ชายหนุ่มเอ็ดเวิร์ด ที่ความเกี่ยวเนื่องกับอูเทร็ด ดียิ่งขึ้นกว่าสมัยของอัลเฟรด ถึงจะมีจุดมีความขัดแย้งดราม่ากันอยู่บ้าง แต่ว่าก็มิได้ร้ายแรงพอ ๆ กับที่อูเทร็ด มีกับอัลเฟรดที่จ้องมองจะฆ่าคุ้นเคยอยู่หลายคราว
2.วุฒิภาวะนักแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของอูเทร็ด ที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยทุกซีซัน ซึ่งในซีซันนี้ความประพฤติปฏิบัติเชื้อเชิญน่าขัดใจของเขาแทบจะไม่มีให้มองเห็น หรือถึงมีก็เริ่มเข้าใจและก็ชื่อลงว่าเพราะเหตุไรเขาตกลงใจอย่างงั้น
3.ดราม่าทรยศหักหลัง ที่ราวกับภาคบังคับว่าควรจะมีทุกซีซัน แล้วมีผลเสียต่อชีวิตอูเทร็ด มาก ซีซันนี้ก็มีการทรยศหักหลัง แม้กระนั้นมันมิได้มีผลร้ายต่ออูเทร็ด เสมือนทุกภาคก่อนหน้านี้
4.ดราม่าการสิ้นไป ทุกซีซันก่อนหน้าที่ผ่านมา ผู้แสดงนำควรมีเหตุสูญเสียคนสำคัญตลอดอย่างต่ำ 1-2 คน ในครึ่งซีซันแรกนี้ก็มีการสิ้นไปครั้งใหญ่ร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นอยู่กับอูเทร็ด แม้กระนั้นด้วยบทของผู้แสดงที่สูญเสียนั้นพวกเราก็พอเพียงจะรับไหว ว่าเป็นสถานะการณ์ที่เป็นได้ (สามซีซันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอูเทร็ด พบการสิ้นไปแบบไม่น่ากำเนิดทุกคราว)
5.ฉากการสู้รบ แล้วก็กลยุทธ์ที่ใช้ เป็นคุณลักษณะเด่นของซีรีส์นี้เลยก็ว่าเหมาะมีหลายฉาก ดูแล้วมั่นใจว่า มันเป็นกลยุทธ์ที่ใช้งานได้จริง สำหรับฉากการทำศึกในซีรีส์หัวข้อนี้บางครั้งก็อาจจะมิได้ยิ่งใหญ่วิจิตรตระการตามากสักเท่าไรนัก เพราะว่าปริมาณทหารในเรื่องที่รบกัน ขนาดศึกใหญ่ที่สุดสุดกำลังก็แค่หลักพันกว่า แต่ว่าในความจริงของอังกฤษสมัยนั้นปริมาณผู้ที่ลงไปในสนามรบก็คงจะโดยประมาณนี้ บรรดาป้อมค่ายต่าง ๆ มีคนเฝ้าหลักร้อยก็จัดว่าเรื่องธรรมดาด้วย
6.ซีซันนี้มีตัวร้ายที่ฉลาดหลักแหลม น่าดึงดูด น่าค้นหาที่สุด เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตัวร้ายของซีรีส์ประเด็นนี้ที่เป็นนักสู้ชาวเดนส์ หรือไวกิง มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันหมดเป็น บ้าพลัง รบเก่ง ไม่ก็เป็นตัวละครฝั่งชาวแซกซันหรืออังกฤษเองที่เป็นพวก เจ้าเล่ห์ ทรยศหักหลัง หาผลประโยชน์ หลอกใช้ผู้แสดงนำ แม้กระนั้นสำหรับตัวร้ายหลักในครึ่งซีซันเป็น ซิกทริกเกอร์ นับได้ว่าเป็นตัวร้ายที่ต่างจากที่ซีรีส์นี้เคยมีมา เป็นเมื่อพวกเราได้รับชอมแล้ว บางทีก็อาจจะพูดว่าเขาเป็นตัวเอกของฝั่งชาวเดนส์ก็ไม่ผิด เสนอแนะให้รับดูกันดูเลย
7.อิงประวัติศาสตร์แบบเนียน ๆ การใส่นักแสดงในประวัติศาสตร์เข้ามาผสมกับตัวที่ถูกทำขึ้น ก็เป็นอีกลักษณะเด่นหนึ่งที่ทำเป็นดีของซีรีส์นี้ ซึ่งในซีซันนี้ก็มีการวางหน้าที่นักแสดงที่น่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ของตัวนำอย่างอูเทร็ด ที่จะแปลงเป็นคนดูแลว่าที่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเรื่องราวนี้อาจจะต้องรอดูในซีซัน 5 ถัดไป