สะท้อนความเชื่อ เดอะโซลเน็ตฟลิกซ์รีวิว จิตวิญญาณ หนังผีไต้หวัน ที่เมื่อดำเนินเรื่องราวไปแล้ว
สะท้อนความเชื่อ มันกลับไปไกลมากกว่าหนังผี ผสมแนวสอบสวน ไซไฟ ดราม่า ทริลเลอร์ แล้วก็บทเฉลยคำตอบเรื่องจริงที่สุดหักมุมเกินคาดทายใจ รับร้องได้เลยว่าทุกสิ่งที่ผู้ชมคิดไว้ทีแรกๆ ไม่มีวันทายใจออกแน่ๆเมื่อหนังเฉลยคำตอบความเป็นจริงออกมาแล้ว
ชื่อภาษาจีนประเด็นนี้เป็นจีฮุน ควบคุมโดยเจิ้ง เวย-เฮา นำแสดงโดย จางเจิ้น รวมทั้ง จางเหวินหนิง แล้วยังได้ผู้แสดงมีชื่อเสียงในสมัยก่อนอย่าง หลี่หมิงซุ่น ที่เคยรับบทบาท เอี้ยก้วย ในมังกรหยก 1999 เวอร์ชั่นประเทศสิงคโปร์ มาร่วมแสดงด้วย
เรื่องราวเริ่มขึ้นจากคดีการฆ่าสังหารสะเทือนใจของ หวังซื่อชง อภิมหาเศรษฐีผู้ครอบครองบริษัทสิ่งใหม่มีชื่อเสียงที่ถือครองธุรกิจมากไม่น้อยเลยทีเดียว กลับถูกเจอเป็นศพ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์เพียงผู้เดียวเป็น หลี่เหยียน เมียสาวของเขาที่พักผ่อนสลบอยู่ด้านข้างโดยเธอให้การว่า คนร้ายก็คือ หวังเทียนโหย่ว ลูกชายที่เกิดขึ้นมาจาก ถังซู่เจิน นักวิทยาศาสตร์หญิง ซึ่งเป็นเมียคนก่อนของหวังซื่อชงที่ฆ่าตัวตายไปแล้ว ข่าวหนังใหม่
ช่วงเวลาเดียวกัน อัยการชายหนุ่ม เหลียงเหวินเฉา ที่กำลังเจอหน้ากับโรคมะเร็ง ได้ตกลงใจรับทำคดีที่เป็นข่าวใหญ่นี้ เพื่อหวังว่าจะเป็นงานทิ้งทวนทั้งยังกิตติศัพท์รวมทั้งรายได้สำหรับในการดำเนินการเพื่อเหลือไว้ให้ อาเป้า เมียสาวของเขาที่เป็นตำรวจสืบสาวและก็กำลังมีท้อง ที่ก็มาอยู่ในกลุ่มสอบสวนคดีนี้เช่นเดียวกัน โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจสำหรับในการสอบปากคำจาก ดร.ว่าน ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ของบริษัท
แต่ว่าเมื่อเหลียงเหวินเฉาสอบปากคำลึกลงไป คดีนี้กลับเต็มไปด้วยปัญหาซ่อนเงื่อนที่มีทั้งยังความศรัทธาในเรื่องโลกหน้า การสะกดวิญญาณ และจากนั้นก็เริ่มพบว่ามันเกี่ยวโยงกับแนวทางเอาคืน การทดสอบทางด้านการแพทย์ที่เกี่ยวกับการ “โอนถ่ายจิตวิญญาณ” ที่เป็นวิทยาศาสตร์นำสมัย ไปจนกระทั่งกลยุทธ์ชิงอำนาจทางธุรกิจ รวมทั้งเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ความรัก ที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ
สะท้อนความเชื่อ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ถูกปรับเปลี่ยนมาจากนิยายชื่อ ทรานเฟอโซล ของ เจียงป๋อ
สะท้อนความเชื่อ เมื่อทำหนังเป็นหนังแล้วรู้เรื่องว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ชื่อไปสปอยล์รายละเอียดของเรื่องมากเหลือเกิน เลยจะต้องปรับเหลือเพียงแค่ เดอะโซล ซึ่งก็เป็นการตกลงใจที่ดีอย่างยิ่ง เนื่องจากถึงแม้ว่าผู้ที่มองหัวข้อนี้คงจะคาดการณ์ประเด็นการ “ถ่ายโอนจิตวิญญาณ” ได้ตั้งแต่ขั้นแรก ๆ แม้กระนั้นอาจจะไม่คาดคิดว่ามันมีการหักมุมซับซ้อนจนกระทั่งเกินคาดทายใจในช่วงท้าย แล้วก็นับว่าเป็นแก่นหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้
สำหรับแนวทางของหนัง จะดำเนินเรื่องด้วยกรรมวิธีการไต่สวน ซึ่งพาร์ทไต่สวนก็มีความเป็นจริงเป็นจัง เน้นย้ำการที่หาข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลังของผู้ต้องหา ผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆและก็การปะติดปะต่อหลักฐานต่างๆจากกล้องวงจรปิด แล้วก็การวิเคราะห์ภาวะจิตของนักแสดง แต่ว่าสิ่งที่ทำเป็นน่าดึงดูดมากมายก็คือ ความรู้ความเข้าใจ สำหรับในการเชื่อมโยงหลักฐานต่าง ๆ เข้าด้วยกันของผู้แสดงนำ ที่เขานำแนวคิดและก็ความน่าจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างมารวมไว้หมด การถ่ายทำใหม่
โดยมิได้ตัดประเด็นเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเรื่องผีสิง ออกไปจากสมการสอบปากคำ ที่ตรงนี้นับได้ว่าเป็นกระบวนทัศน์ที่น่าดึงดูดมากมาย และก็บางครั้งก็อาจจะเป็นการสะท้อนความเชื่อถือของคนไต้หวันที่ยังมีความเชื่อในเรื่องแนวนี้อยู่ แล้วที่สำคัญเป็น กลุ่มสืบสาวในเรื่องเองไม่ว่าจะนางเอกรวมทั้งคนภายในกลุ่ม ก็มิได้เหยียดหยามหรือตัดประเด็นเรื่องเหนือธรรมชาติออกไปด้วยเหมือนกัน
กลับคิดว่าเรื่องของ “อาการผีสิงหรือผีเข้ารวมทั้งพิธีการทางไสยเวท” เป็นเลิศในสมการหลักของการใส่ความจริงในคดี ทำให้การสืบคดีในหัวข้อนี้ใช้เวลาค่อนข้างจะเร็ว ไม่มีเบื่อ และไม่มีใจความสำคัญให้นักแสดงมาดราม่าคัดค้านกันถึงเรื่องที่ว่าผีแล้วก็เรื่องเหนือธรรมชาติมีอยู่ใช่หรือไม่จริงด้วย
อีกจุดที่น่าดึงดูดเป็น ตอนแรกของประเด็นนี้เลือกเสนอผีหรือวิญญาณออกมาในแบบอย่างที่มองเห็นกันชัดๆประเภทที่มีผลต่อการสอบสวน แล้วการนำเสนอในครึ่งเรื่องก็เสมือนต้องการที่จะให้ผู้ชมหลงคิดไปว่า เรื่องของวิญญาณโกรธแค้นนี่แหละ เป็นสาระสำคัญของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวง
แต่ว่าเมื่อไปสู่ครึ่งเรื่องข้างหลัง เรื่องราวกลับพลิกกลับพัดยศประเภท 360 องศา
แปลงเป็นว่าวิญญาณโกรธแค้น ที่น่าจะเป็นมูลเหตุหลักของเรื่องราว กลับไม่ใช่อย่างที่พวกเรามองเห็นกัน สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว ก็ร้ายกาจที่สุดในประเด็นนี้ เปลี่ยนไปเป็น “ความบ้าคลั่งของผู้คน” ที่อยากเอาชนะอายุขัย ยุคสมัย โรคร้าย ไปจนกระทั่ง การตอบสนองความต้องการทางเพศ ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่า นี่แหละเป็นตัวการของเรื่องราวทั้งผอง ทั้งยังพรีเซนเทชั่นหลักสำคัญของ “จิตวิญญาณ” ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ถ้าว่าเทคโนโลยีของคนเรา พวกเราถึงกับขนาด ซึ่งสามารถถ่ายโอนมันได้ แล้วก็ในขณะเดียวกัน ตัวเราก็ยังคงอยู่ โน่นพอ ๆ กับว่าจะมีตัวตนของพวกเรา อีกคนเกิดมาหรือเปล่า จุดเด่นของหนัง มีหลายจุดมากมาย ด้านโปรดักชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างไม่ดี กว่าหนังทวีปเอเชียทั่ว ๆ ไป
แล้วยังมีความเอาใจใส่ เนื้อหานิด ๆ หน่อยๆที่ใส่เข้ามาในหนัง อย่างเช่น บรรยากาศของหนัง ที่เต็มไปด้วยหมอก หรือถ้ามองให้ก็ดีแล้ว ราวกับจะสื่อถึงฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 ที่คือปัญหาใหญ่ ในสังคมตอนนี้ และก็หลายชาติในทวีปเอเชีย ยังไม่สามารถที่จะสามารถ ควบคุมก้าวหน้านัก
รวมทั้งปัญหา เกี่ยวกับสุขภาพ ที่มีผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งเยอะ ๆ ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีการเอ่ยถึงเรื่องปัญหา ค่ายังชีพในสังคมโลกสมัยใหม่ เพราะว่าขนาดพระนางในประเด็นนี้ มีอาชีพงานการออกจะดี ผู้แสดงนำเป็นถึงอัยการ มากมายความสามารถ แล้วก็มีรายได้ที่เมื่อพวกเรา มองเห็นจำนวนและสูงไม่น้อย
แต่ว่าผู้แสดงนำกลับบอกเองว่า มันน้อยเกินไป ต่อการดูแลรักษาตัวของเขา ถ้าหากนางเอกจะฝ่าฝืน ให้เขารักษาตัว มันจะไม่พอต่อการดำรงชีวิตของนางเอก และก็ลูกที่จะเกิดขึ้นมา พูดได้ว่าหัวข้อนี้ แอบแฝงการสะท้อน และก็จิกกัดสังคมไต้หวัน รวมทั้งสังคมโลก เอาไว้เต็มกำลังเลย ในรูปภาพรวม ของหนังหัวข้อนี้
จำเป็นต้องนับว่า นี่เป็นหนังเป็นหนังผี ที่ไปไกลเกินกว่าหนังผีทั่ว ๆ ไป แต่ว่าเป็นการประสมประสาน ระหว่างแนว ไต่สวน ไซไฟ ดราม่า โรมานซ์ ทริลเลอร์ ไปจนกระทั่งการถามเชิงปรัชญาที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณได้อย่างน่าลึกซึ้ง แล้วก็น่าดึงดูดว่า โลกอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราบางทีอาจจะทำลักษณะเดียวกันกับเทคโนโลยีของหนังประเด็นนี้ก็ได้ ดำเนินเรื่องด้วยแนวไต่สวนเจริญ น่าติดตาม ผู้แสดงเล่นดีเลิศทุกคน จิกกัดสังคมแบบแนบเนียน