สารคดีการปล้น ไฮซท์ ปล้น เน็ตฟลิกซ์ สารคดี มินิซีรีส์ ที่ผลิตมาจากข้อเท็จจริง ของการปล้น
สารคดีการปล้น รายละเอียดจะแบ่งเป็น 3 เคส รวมยอด 6 ตอน ของคดีการปล้นที่ผลิตขึ้นมาจากข้อเท็จจริงและก็มีบุคคลจริงที่เกี่ยวโยงมาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับในการเล่าราว ซึ่งแต่ละคดีที่อยู่ในเรื่องเป็นการชิงทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงอย่างยิ่ง แม้กระนั้นที่น่าดึงดูดเป็นทั้งยังสามคดีมันเป็นฝีมือของฝูงคนที่มาจากคนระดับล่าง ชนชั้นแรงงาน ผู้ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหา บุตรหลานผู้ย้ายถิ่น เรียกง่าย ๆ ว่ามันเป็นการปล้นของคนธรรมดาคนธรรมดาทั่วไป
ผู้ที่พวกเราบางทีอาจพบเจอได้ในสังคม แม้กระนั้นตัวซีรีส์จะบอกกล่าวว่าแล้วผู้คนเหล่านั้นมีสิ่งจูงใจอะไรที่ทำให้พวกเขาก้าวผ่านเส้นแบ่งขอกฏหมายมากระทำชิงทรัพย์กลุ่มนี้ แน่ ๆ ว่ามีเรื่องมีราวเงินที่เป็นต้นเหตุหลักอยู่แล้ว สามารถรับดูได้เลยในเน็ตฟลิกซ์ โรเบอร์โต โซลิส สมัยก่อนผู้ต้องขังที่เคยถูกฟ้องติดตะรางตลอดชาติจากการฆาตกรรมคนขับขนเงินหุ้มเกราะเมื่อปี 1969
แม้กระนั้นเนื่องจากว่าเขาแต่งหนังสือหลายเล่มในระหว่างอยู่ที่ตารางแล้วก็เขียนบทประพันธ์จำนวนมากที่มีส่วนหว่านล้อมให้มีการขออุทรณ์โทษของเขาเหลือ 23 ปี เขาก็เลยถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวออกมา แต่ว่าแทนที่เขาจะกลับมาดำเนินการซื่อสัตย์ เขาก็ได้เลือกที่จะกลับมาปฏิบัติงานปล้นอีกรอบ แล้วก็ครั้งนี้ยังได้ลวงล่อเพศหญิงสาวคนหนึ่งเป็น เฮเทอร์ แคทเทอรีน ทอลชีฟ
ซึ่งเธอเป็นหญิงสาววัยรุ่นที่กำลังคร่ำครวญหาความรักแล้วก็ความอบอุ่นจากผู้คนให้เปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วยของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งคิดแผนทำภารกิจปล้นจี้สามล้านดอลลาร์ ซึ่งเอาเข้าจริงกรรมวิธีนั้นก็มิได้ซับซ้อนอะไรเยอะมาก แม้กระนั้นคิดแผนโดยอาศัยช่องว่างของระบบการขนเงินใส่ตู้กดเงินมาใช้ให้มีประโยชน์ และก็เปลี่ยนเป็นว่าเธอจำต้องถลำลึกแปลงเป็นเครื่องไม้เครื่องมือปล้นจี้ของโซลิส รวมทั้งแปลงเป็นจุดมุ่งหมายตามล่าตัวจากเอฟบีไอ
ในเวลาที่โซลิสก็พาเธอหอบเงินหนีถัดไปพร้อมทั้งเพิ่มสาวในฮาเร็มของเขาเข้าไปอีก เรื่องราวของ คาร์ล บุตรหลานผู้ลี้ภัยจากประเทศคิวบา ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในอเมริกา โดยยิ่งไปกว่านั้นที่ฟลอริดาที่มีความมากมายหลายของคนเรา กำเนิดเป็นแก๊งค์ต่าง ๆ มากไม่น้อยเลยทีเดียว จนถึงเปลี่ยนเป็นสาเหตุของปัญหาค้าสิ่งเสพติด ความร้ายแรง การปล้นชิง ลักลอบนำโคเคน และก็อื่น ๆ ข่าวหนังใหม่
จนกระทั่งเขาได้สมรสแม้กระนั้นด้วยเหตุว่าปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ของเมียทำให้พวกเขาเสียลูกไป เขาก็เลยคิดจะรับเด็กมาเลี้ยงแทน แต่ว่ามันจำต้องใช้เงินมากมายแล้วเขาก็ไม่มีสติปัญญาหารายได้มาด้วย แล้ววันหนึ่งเพื่อนพ้องของเขาที่เป็นพนักงานขับรถขนเงินจากท่าอากาศยานก็ได้เล่าเรื่องเงินสดนับร้อยล้านดอลลาร์ที่จะส่งจากเครื่องบินลงมาเก็บในโรงเก็บของบ่อย ๆ นั่นก็เลยได้ก่อให้เกิดแนวทางปล้นจี้ที่ไม่คาดฝัน
ซึ่งเขาจำต้องเก็บคนฝีมือยอดเยี่ยมจากวงศ์วานคนใกล้ตัวเชิญชวนให้มาร่วมมือกันปล้นจี้ในคลังสินค้าที่ท่าอากาศยาน แล้วที่น่าทึ่งก็คือถึงแม้คาร์ลจะไม่มีความรู้ประเด็นการปล้นจี้อย่างงี้ แม้กระนั้นเขากลับศึกษาเล่าเรียนแนวทางการทำงานของเอฟบีไอผ่านทางสื่อโทรทัศน์ ซีรีส์ สารคดี เพื่อจะคิดแผนปล้นจี้มากมายก่ายกองคราวนี้โดยที่เขาเองก็ไม่ต้องการใช้ปืนด้วย แต่ว่าทุกการวางเป้าหมายย่อมมีช่องโหว่เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนภายในกลุ่มที่ได้เงินจากการปล้นไปแล้ว เจาะลึกเรื่องในคดี แพ็ปปี้เกต ที่เกิดขี้นในปี 1999 เล่าของ โทบี้ หนุ่มนักซอฟต์บอลร่างใหญ่ บ้าพลัง ที่ชีวิตราวกับจะบรรลุผลสำเร็จ แม้กระนั้นภายหลังสมรสมีลูก เขาจำเป็นต้องเลือกดูแลช่วยหาเงินเข้าครอบครัว เลยจำเป็นต้องเลิกเล่นซอฟต์บอลแล้วมาปฏิบัติงานในโรงกลั่นสุราเบอร์เบินบัฟฟาโลเทรซที่เคนตักกี ดำเนินชีวิตปฏิบัติงานหาเงินราวกับชนชั้นแรงงานทั่ว ๆ ไป
จนถึงวันหนึ่งมีเพื่อนพ้องที่มาขอซื้อสุราเบอร์เบิน แบรนด์ แพ็ปปี้ แวนวิงเคิล ที่เขามีติดในบ้านด้วยราคาแพงมากมาย ซึ่งนี่เป็นสุราเบอร์เบินที่แรกเริ่มถูกคิดว่าเป็นสุราแคว้นต่างจังหวัด แม้กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยการที่ถูกบอกออกสื่อผ่านศิลปินดาราดังผู้คนจำนวนมาก มันเริ่มแปลงเป็นสุราค่าสูงขึ้นเรื่อยของเหล่านักสะสมและก็คนมั่งมีที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันผ่านอินเทอร์เน็ตในราคาแพง
เนื่องจากว่าหายากรวมทั้งแต่ละปีมีการผลิตปริมาณจำกัด จากสุราขวดราคาไม่กี่สิบดอลลาร์ ราคาพุ่งไปเป็น 4,000 ดอลลาร์ แล้วไป ๆ มา ๆ เขาก็ศึกษาค้นพบการเข้าถึงคนชั้นสูงที่มีเงินและก็หนทางที่จะปลดปล่อยขายสุราเบอร์เบินได้ รวมกับกลุ่มชนรู้จักของเขาสถานที่สำหรับทำงานในโรงงานสุราที่พร้อมจะเอาของแล้วก็การปล้นแบบตอดครั้งละนิด ท้ายที่สุดเมื่อใคร ๆ อยากได้สุราเบอร์เบินเกรดเอหายาก ก็จะส่งข้อความหาโทบี้เสมอ ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นราชาเบอร์เบิน จนกระทั่งนายอำเภอแล้วก็ข้าราชการเข้ามาสอบสวนหัวข้อนี้ภายหลังสุราแวงวิงเคิลอายุ 20 ปี ถูกพบว่าหายไป โน่นก็เลยนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการแสวงหาร่องรอยของการปล้นสุราราคาสูงคราวนี้
สารคดีการปล้น ข้อสรุปของแต่ละคดี เป็นเปรียบเสมือนตัวอย่างเตือนสติผู้คนจริง ว่าการชิงทรัพย์นั้นมันมิได้ให้อะไรดีเลยกับชีวิตของพวกเรา
แม้ว่าการชิงทรัพย์ที่ว่าจะได้เงินเป็นอันมากแล้วดูเหมือนกับว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดาม ผู้ที่ชิงทรัพย์หอบเงินหนีไปดำเนินชีวิตต่อได้ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วพวกเขาก็มิได้แฮปปี้อะไรนัก อีกทั้งจะต้องอยู่อย่างซ่อนตัวตนที่จริงจริง บางบุคคลมีลูก ก็จะต้องหลอกลูก จนถึงมาถึงจุดหนึ่งก็จะต้องยอมเปิดเผยข้อเท็จจริง และก็จำเป็นต้องเห็นด้วยโทษที่เกิดขึ้น
ในด้านโปรดักชั่น การถ่ายทำ งานสร้าง ถือได้ว่างานประสิทธิภาพสูง เสมอเหมือนพวกเราได้ดูหนังสารคดีแบบครึ่งหนึ่งซีรีส์เธอภาพดีที่บอกเล่าเรื่องราวอย่างไม่มีเบื่อ มีแทรกมุกตลกโปกฮาร้าย อารมณ์ขันท่ามกลามเส้นแบ่งเธอธรรมเข้ามาอยู่เสมอ ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ดีของซีรีส์เป็น มีการพรีเซ็นท์แล้วก็บอกเล่าเรื่องราวในแบบที่ไม่ให้มันดราม่าอืดอาด แต่ว่าย้ำความบาดตา ดำเนินเรื่องเข้าเรื่องเร็ว แต่ว่าก็จะมีส่วนที่ดำเนินเรื่องช้าหรือยืดไปบ้างในบางจุด
ซึ่งถ้าหากเอาจริงเอาจัง ๆ สุดแท้แต่ละคดีที่ชี้แจงมาสามารถเล่าให้จบในตอนเดียวได้ แม้กระนั้นตัวสารคดีมานะเล่าในหลายมุมมองทั้งยังกับผู้คนที่เกี่ยวพันสำหรับในการชิงทรัพย์นั้น ๆ ผู้ที่ลงมือชิงทรัพย์ ครอบครัวของผู้ที่เกี่ยว รวมทั้งการเล่าเงื่อนที่มาและก็พื้นเพแม้กระนั้นคราวหลังของคนชิงทรัพย์ เพื่อรู้เรื่องสิ่งจูงใจของคนเหล่านั้น ไม่ว่าจะคือเรื่องของ สิ่งที่จำเป็นเงิน ความปรารถนาประสบผลสำเร็จในชีวิต อยากไต่เต้าจากความยากแค้น แล้วก็อื่น ๆ
ซึ่งการเล่าเรื่องรูปแบบนี้ก็ทำให้มันแปลงเป็นสารคดีที่มีความรอบด้าน มากยิ่งกว่าเพียงแค่การนำเสนอประเด็นการชิงทรัพย์ธรรมดา แต่ว่าบรรยายให้พวกเราเห็นภาพของประวัติศาสตร์และก็สังคมของอเมริกันในสมัย 80-90 ความแตกต่างทางด้านสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ชนชั้น ปัญหาผู้หนีภัย แล้วยังสะท้อนให้มองเห็นถึงข้อด้อยของระบบทางด้านการเงินที่ถ้าว่าผู้ใดมีความอาจหาญ ความวิกลจริต การตระเตรียม และก็เป้าหมายที่ดีพอเพียง ดราม่าผสมแฟนตาซี
เธอก็สามารถปล้นจี้ล้านได้ โดยไม่ต้องเป็นคณะทำงานยอดเยี่ยมนักลักแบบในหนังฮอลลีวูด แต่ว่าก็อย่างที่กล่าวว่า บรรดานักชิงทรัพย์พวกนี้ก็จะต้องใช้ในความผิดพลาดที่พวกเขาทำลงไปเหมือนกัน แล้วอีกจุดหนึ่งที่ค่อนข้างจะเด่นกว่าสารคดีครึ่งหนังทั่ว ๆ ไป ก็คือการปรักปรำเป็น ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตนักแสดง อีกทั้งในด้านของ อารมณ์ความรู้สึกใส่ดราม่า เรียกว่าเป็นสารคดีที่มีการใส่บทแสดงอารมณ์ความรู้สึกด้านอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ เข้าไปให้ผู้แสดงที่แสดงอยู่ในเรื่อง สลับกับการให้บุคคลจริงในคดีชิงทรัพย์พวกนั้นเป็นคนบอกเล่าเรื่องราว แล้วแทรกเอาข้อคิดเห็นรวมทั้งความนึกคิดในใจของพวกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในตอนนั้นลงไปด้วย
ซึ่งทำให้พวกเราได้มองเห็นมุมมองความนึกคิดและก็บริบททางด้านสังคมกับการใช้ชีวิตของพวกเขาในช่วงเวลานั้น กระทั่งบางครั้งบางคราวพวกเราก็อดเอาใจช่วยพวกเขามิได้ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าสิ่งที่พวกเขาทำลงไปไม่ใช่เรื่องดี ในระหว่างที่การเล่าเรื่องก็มีการใช้เคล็ดวิธีแบบ Time Skip ช่วงก่อนที่จะมีการชิงทรัพย์หรือก่อนจะมีการก่อเหตุเข้ามาเป็นระยะ ให้พวกเราเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ มีการใส่ตัวอักษรกำหนด ปี คริสต์ศักราช ตัวใหญ่ ๆ แทรกเข้ามาในหนังสารคดี ทำให้ราวกับพวกเรากำลังดูหนังมากยิ่งกว่า
นอกจากนั้นจุดที่น่าดึงดูดมากมายก็คือการให้บุคคลในคดีพวกนั้นจริง ๆ มาเป็นคนบอกเล่าเรื่องราว สลับกับตัวหนังสารคดี
พวกเราเลยได้รับดูเรื่องราวการก่ออาชญาบาปพวกนี้จากมุมมองของผู้ที่ทำความผิดจนกระทั่งโดนจับจับตัวแล้วจำคุกจนกระทั่งออกมาแล้ว เล่าให้พวกเราฟังจริง ๆ ละเว้นคดีแรกที่ใช้ดาราแทนมาเป็นคนเล่า เพราะเหตุว่าคดีแรกยังจับกุมสั่งการหลักมิได้ ซึ่งรูปร่างของการใช้ดาราหนังจริงในเรื่องอยู่ที่โดยประมาณ 20-30% ส่วนนอกนั้นพวกเราจะได้มองเห็นใบหน้าในขณะนี้ของผู้ที่เกี่ยวเนื่องในคดีพวกนั้นเต็ม ๆ
แม้กระนั้นจุดบกพร่องอย่างหนึ่งก็คือ การถ่ายทำด้วยการใส่ฉากที่ดูอย่างกับว่าสุรุ่ยสุร่ายเข้ามามากจนเกินความจำเป็นนิด ทำให้แทนที่เรื่องราวจะเดินไปด้านหน้าอย่างเร็ว พวกเราจะมีความคิดว่ามันมองยืดออกไปอย่างไม่สำคัญ แม้กระนั้นนี้รู้เรื่องว่าผู้ผลิตอยากถ่ายทอด “ชีวิต” ของผู้ที่มีการเกี่ยวข้องสำหรับการชิงทรัพย์กลุ่มนี้มากยิ่งกว่าจะเพียงแค่บรรยายเรื่องของ “การกระทำผิด และก็ ขั้นตอนไต่สวนจับกุมตัวผู้ร้าย” ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่ว ๆ ไปของกระบวนการทำหนังสารคดีแนวนี้
นี่ก็เลยเป็นหนังสารคดีที่ค่อนข้างจะใช้วิธีเล่าราวที่ผิดแผกแตกต่างออกไปโดยเน้นย้ำเล่ามุมมองของผู้กระทำผิดเป็นตัวเล่า ถึงอย่างงั้นจุดที่คนรีวิวอดคิดมิได้ก็คือ ถึงแม้ว่าทุกคดีจะให้แบบอย่างรวมทั้งผลสรุปของคนชิงทรัพย์ว่าไม่ดี แต่ว่ามันบางครั้งอาจจะไปกระตุ้นให้ผู้ชมก่อเหตุได้เช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่ามันเป็นการบรรยายถึง “ช่องว่าง” ของระบบในแต่ละแวดวงต่าง ๆ ว่ามันสามารถทำเงินด้วยแนวทางสิกข์แซกพวกนั้นได้อย่างไร
ภาพรวมแล้ว นี่ก็เลยเป็นสารคดีการปล้นที่แม้ว่าจะพรีเซนเทชั่นชีวิตนักจารกรรมพวกนี้ที่ดูเหมือนกับว่าพื้นเพของพวกเขาก็คือคนสามัญ บางครั้งก็อาจจะเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ง่าย ๆ แม้อยู่ในสถานะคล้ายคลึงกัน แต่ว่าหนังก็ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์เราก็มีทางเลือก มันอยู่ที่ว่าพวกเราเลือกจะเป็นแบบไหน หรือจะไปจบเช่นเดียวกับเหล่านักชิงทรัพย์ในสารคดีชุดนี้ อีกทั้งชนชั้นแรงงาน เด็กผู้หญิงวัยรุ่นใจแตก บุตรหลานผู้ย้ายถิ่น คนทำงานหาเช้ากินค่ำ ที่มองเห็นช่องทางทำเงินจากการปล้นครั้งใหญ่ แล้วก็เอาผู้ที่เกี่ยวโยงในคดีจริง ๆ มาบอกกล่าวเรื่องราวโดยใช้ดาราหนังเล่นแบบหนัง