ประวัติสำคัญบาจโจ บาจโจ เทพบุตรเปียทอง เน็ตฟลิกซ์หนังอิตาลีที่นำประวัติส่วนตัวตอนสำคัญ ของโรแบร์โตบาจโจ
ประวัติสำคัญบาจโจ นักเตะผู้เป็น “ไอคอล” ชั่วกับชั่วกัลป์ของแวดวงบอลอิตาลีมาเล่ากล่าว ซึ่งก็มีด้านที่แฟนบอลบางทีอาจไม่รู้มาก่อน แล้วก็เอาเรื่องสำคัญที่อยู่ในความจำของมนุษย์มาขยายเนื้อหาเพิ่ม แล้วมีฟุตเทจสำคัญให้มองแทรกอยู่ในระหว่างเรื่องด้วย โดยจะย้ำที่สถานะการณ์ดราม่าในบอลโลกปี 1994 แล้วก็การลุ้นกลับไปติดกลุ่มในบอลโลกปี 2002 รวมทั้งความข้องเกี่ยวกับบิดารวมทั้งปัญหากับผู้ฝึกสอนมีชื่อเสียงแต่ละคน
นี่เป็นหนังเกี่ยวกับนักเตะที่เหมาะสมที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยสร้างกันมา ชี้แนะว่าจำเป็นต้องมอง ฉายแล้วในเน็ตฟลิกซ์ ผลงานควบคุมโดย เลทิเซีย ลามาร์ไทร์ แล้วก็คนรับบทเป็นบาจโจ เป็น อันเดรอา อาร์ซันเจลี่ ความยาว 1 ชั่วโมง 31 นาที ในฐานะแฟนบอล และก็แฟน ๆ ของโรแบร์โตบาจโจ นี่เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตของนักเตะที่ดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะผลิตขึ้นมาได้สักเรื่องหนึ่ง
สำหรับในการเล่าของหนังจะย้ำไปการบอกกล่าวระยะเวลาสำคัญในชีวิตของบาจโจ โดยใช้แนวทาง ผ่านเวลไปเรื่อยแต่ว่าหนังจะจุดโฟกัสที่ช่วงลำบากในแต่ละช่วงชีวิตมากยิ่งกว่าตอนรุ่งเรือง โดยยิ่งไปกว่านั้นขณะที่บาจโจ จำเป็นต้องประจันหน้ากับการบาดเจ็บที่รุมทำร้ายเขามาตลอดตั้งแต่อายุ 18 ปี เมื่อครั้งยังเป็นดาวรุ่งกับวิเซนซ่า ก่อนที่จะย้ายไปฟิออเรนติน่า ซึ่งทางฟิออเรนติน่านี่เองที่ให้ความมั่นใจในตัวเขา
แม้ว่าเขาจะเจ็บหนักในเกมท้ายที่สุดกับวิเซนซ่าก่อนย้ายไป แม้กระนั้นฟิออเรนติน่าที่ดึงตัวเขามาแล้วแปลงเป็นดาวรุ่งอิตาลีที่ค่าตอบแทนแพงที่สุดในช่วงเวลานั้น ก็ยังให้ความมั่นใจในตัวเขา ทำให้เป็นความติดใจที่เขามีกับกลุ่ม ส่วนขณะเจริญรุ่งเรืองของบาจโจ สำหรับการเล่นบอลลีก ดังเช่นว่า การได้แชมป์ซีรีอา กับ ยูเวนเหม็นตุสแล้วก็เอซีมิลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รางวัลบัลลงดอร์ในปี 1993 ข่าวหนังใหม่
ซึ่งเป็นเกียรติตำแหน่งส่วนตัวสูงสุดของนักเตะทั้งโลกทั้งหมดทั้งปวง ตัวหนังกลับไม่ย้ำมากเท่าไรนัก แต่ว่าจะบอกกล่าวเพียงแค่บทชี้แจงสั้น ๆ แทรกเข้ามา แล้วนี่เป็นส่วนด้อยของหนังที่โชคร้ายอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่ามันทำให้ผู้ที่ไม่ค่อยรู้จักเรื่องของบาจโจ หรือกำเนิดทันมองบอลสมัยนั้นจะไม่รู้เรื่องว่า “บาจโจ ยิ่งใหญ่แค่ไหน” เหตุเพราะในสมัย 90 บาจโจเป็นนักเตะที่ได้รับการชื่นชมว่าเป็นไอคอลรวมทั้งเครื่องหมายชั่วนิจนิรันดร์ของแวดวงบอลอิตาลีรวมทั้งของบอลโลก ซึ่งก็มาจากท่าทางการเล่นบอลที่งดงาม
เต็มไปด้วยจินตนาการ เป็นผู้เล่นความสามารถพิเศษสูงสุดนิรันดรของแวดวงบอลอิตาลีที่ในขณะนี้สารภาพกันว่าเขาขาดเพียงแค่ถ้วยบอลโลกแค่นั้น แม้กระนั้นที่ตรงนี้เองที่จัดว่าโชคร้ายเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าตัวหนังแทบจะตลอดเรื่องจะไม่ค่อยเน้นย้ำหัวข้อนี้เท่าใด (ไปเอ่ยถึงเอาตอนสุดท้ายเรื่องในตอนเครดิต) แล้วตัวหนังเลือกไปได้ความดราม่าด้านความเกี่ยวเนื่องในชีวิตของบาจโจ กับบิดาแล้วก็ผู้ฝึกสอนกลุ่มชาติอิตาลี
รวมทั้งการบาดเจ็บที่รุมทำร้ายเขามากยิ่งกว่า รวมทั้งหนังยังมีการเล่าถึงความเชื่อมโยงกับผู้จัดการส่วนตัวเป็น เปโตรเน่ ที่เป็นทั้งเพื่อนและก็คนชักนำเขาไปสู่พุทธศาสนาสายเซ็น ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของบาจโจ มาตลอดตั้งแต่วัยรุ่น ถึงแม้ครอบครัวโดยยิ่งไปกว่านั้นทางฝั่งบิดาจะไม่รู้เรื่องก็ตาม แม้กระนั้นคราวหลังทุกคนก็ให้การสารภาพท้ายที่สุด
ประวัติสำคัญบาจโจ บาจโจรวมทั้งความดราม่าในบอลโลก 1994
นอกเหนือจากนี้สิ่งจำเป็นที่ทำให้ตัวหนังมีความดราม่าสูง เป็นการเน้นไปที่ระยะเวลายากลำเค็ญของบาจโจ ในบอลโลกปี 1994 ที่อเมริกา ซึ่งเป็นเมนสำคัญของเรื่องในตอนกึ่งกลางเรื่อง ทั้งตัวหนังก็ให้ความใส่ใจมากมายสำหรับเพื่อการบอกความไม่ถูกกันระหว่างเขารวมทั้ง อาริโก ซาคคี่ ยอดผู้ฝึกสอนคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักของกลุ่มชาติอิตาลีขณะที่เขาเล่นอยู่
ซึ่งจุดเริ่มแรกของการขัดกันอย่างหนักระหว่างเขาและก็ซาคตี่เป็นทัศนคติที่ไม่ตรงกันในระหว่างศึกบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐฯ ที่มาจากความแพ้พ่ายของอิตาลีต่อไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มชั้นรองกว่ามากมาย โดยภายหลังจากเกมนั้น ซาคคี่อยากได้ปรับสไตล์การเล่น เน้นย้ำให้สมาชิกเล่นบอลแบบจังหวะเดียว ในเวลาที่บาจโจ ไม่เห็นพ้อง รวมทั้งการถูกสลับตัวออกในเกมต่อมาก็ทำให้ความไม่ถูกกันระหว่างพวกเขาร้ายแรงขึ้นอีก ซึ่งเรื่องราวส่วนนี้แฟนบอลจำนวนไม่ใช่น้อยเพียงพอจะทราบอยู่บ้าง แต่ว่าที่หลายท่านอาจจะไม่รู้เป็น ภายหลังเกมรอบแรก
ครอบครัวของบาจโจ ได้ตกลงใจเดินทางมาให้กำลังใจเขาถึงอเมริกา แล้วยังมีสิ่งหนึ่งที่ตัวหนังพากเพียรเล่าให้ผู้ที่เป็นแฟนบอลแล้วก็คนสามัญได้รับทราบก็คือ แนวความคิดกระบวนการทำกลุ่มบอลรวมทั้งความบากบั่นที่จะนำแท็คติคการเล่นรูปแบบใหม่ ๆ มาสู่กลุ่มชาติอิตาลี โดยยิ่งไปกว่านั้นการเล่นบอลแบบวันทัช รวมทั้งการซ้อมจำลองแบบไม่มีบอล ซึ่งบาจโจ ไม่เห็นพ้องและไม่รู้เรื่อง ซิทคอมวัยรุ่นยุค90
แม้กระนั้นแม้เขารวมทั้งซาคตี่จะขัดแย้งกันมากมาย ซาคคี่ก็ตกลงใจส่งบาจโจ ลงไปในสนามในเกมรอบ 16 กลุ่มในที่สุดกับไนจีเรีย แล้วหลังจากนั้นก็เป็นบาจโจ ที่ช่วยกลุ่มกลับเหตุการณ์ด้วยการยิงสองประตูพาทีมได้ความมีชัย แล้วต่อจากนั้นบาจโจ ก็แปลงเป็นคีย์แมนทั้งยังยิงและก็ทำเกมจนกระทั่งพาอิตาลีเข้าชิงแชมป์กับบราซิลได้ ซึ่งการได้เข้าสู้กับบราซิลเพื่อคว้าชัยชนะโลกเป็นเงื่อนในใจของบาจโจ ตั้งแต่เด็ก
เมื่อบิดาของเขาเล่าให้ฟังว่าตัวเขาในตอนเด็กเคยข้อตกลงว่าจะพาอิตาลีชนะบราซิลคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อเอาคืนที่อิตาลีเคยแพ้บราซิลเมื่อปี 1970 แต่ว่าในที่สุดรวมทั้งเป็นอย่างที่พวกเรารู้กันเป็นบาจโจ ยิงจุดลูกโทษพลาดในตอนยิงจุดลูกโทษ ทำให้อิตาลีพลาดแชมป์ไป รวมทั้งการยิงจุดลูกโทษพลาดของบาจโจ ลูกนั้นเปลี่ยนเป็นภาพที่ถูกเอ่ยถึงไปอีกนานว่ายอดเยี่ยมในชอตพลาดจุดลูกโทษที่ตรึงตราที่สุดตลอดไปของโลกบอล
บาจโจ เบรสชา และก็การไม่ติดกลุ่มชาติในบอลโลก 2002
พอเพียงเข้าตอน 30 นาทีในที่สุด หนังจะ ผ่านเวลาไปช่วงปลายกิจการค้าลำแข้งของบาจโจ ที่เขามุ่งหมายจะเรียกฟอร์มกลับมาติดกลุ่มชาติที่ประเทศญี่ปุ่นปี 2002 ให้ได้ ซึ่งการไปเตะบอลโลกคราวนี้สำคัญกับเขามากมาย ด้วยเหตุว่าจะเป็นการเตะบอลโลกคราวสุดท้าย และก็จะไปเยี่ยมประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศของ อ.อิเคดะ ไดซากุ คนนำทางความนึกคิดของพุทธสายเซ็นที่เขาและก็ผู้จัดการส่วนตัวได้ยกย่องมาตลอด แต่ว่าในตอนนั้นเขาหมดสัญญากับกลุ่มอินเตอร์มิลานแล้วก็กำลังไม่มีกลุ่มขึ้นอยู่กับ ทำให้เขาคิดจะไปค้าลำแข้งที่เจลีกในประเทศญี่ปุ่น
จนถึงผู้ครอบครองสมาคมเล็ก ๆ อย่างเบรสชาตัดสินหัวใจคว้าตัวเขามาร่วมทีม และเป็นตอนเวลา 4 ปีที่อยู่เบรสชานี่เอง ที่หนังได้พรีเซนเทชั่นว่าบาจโจ น่าจะได้ศึกษาและทำการค้นพบสถานที่ที่ทำให้เขาเป็นสุขที่สุดในชีวิตการค้าขายหน้าแข้ง ซึ่งในเหตุในความเป็นจริงแล้วบาจโจ ก็คงจะแฮปปี้กับกลุ่มเบรสชามากจริง ๆ เนื่องจากเขาเปลี่ยนเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยกู้กลุ่มเบรสชา ซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่เลื่อนชั้นมาจากซีรีบี ให้เปลี่ยนมาเป็นกลุ่มที่ไต่ชั้นขึ้นไปแถวบนของครึ่งตารางรวมทั้งถึงขนาดไปลุ้นเตะบอลยุโรปได้ด้วย
แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาก็มิได้ถูกเรียกกลับไปติดกลุ่มชาติอิตาลีชุดฝ่าบอลโลก 2002 ซึ่งประเด็นนี้แปลงเป็นข่าวเร่งด่วนทั่วทั้งโลกลูกหนังในยุคนั้น (ถึงขั้นที่มีคนอิตาลีรุมดุด่า โจวานนี่ ยี่ห้อปัตโตนี่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติที่ไม่ยินยอมเลือกเขาไป) แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วบาจโจ ก็ทำใจรวมทั้งก้าวถัดไป ก่อนที่จะเลิกเล่นบอลในปี 2004 ส่วนตัวแล้ว ในฐานะที่คนรีวิวเป็นแฟน ๆ ของบาจโจ มาตลอดตั้งแต่สมัย 90 การได้มองภาพยนตร์อัตประวัติของบาจโจ ซึ่งประเด็นนี้สามารนำเสนอตัวตนของบาจโจ ในฐานะมนุษย์ในมากมายประเด็น
รวมทั้งด้านที่คนจำนวนไม่น้อยบางทีอาจไม่ทราบมาก่อน หรือเกิดเรื่องที่พวกเราเคยได้ฟังข่าวสารในยุคนั้น แม้กระนั้นไม่รู้จักเนื้อหาเบื้องหลัง ตัวหนังก็มีการชี้แจงดีเทลพวกนั้นออกมา เรียกว่าแฟนบอลและก็คนถูกใจบาจโจ คงจะได้อิ่มเอมดวงใจกับหนังประเด็นนี้อย่างเต็มที่จนกระทั่งฉากในที่สุดของเรื่องราว ที่เป็นข้อสรุปที่เยี่ยมที่สุดที่เล่าเกี่ยวกับตัวตนของบาจโจ ที่มีต่อคนอิตาลีแล้วก็แฟนบอลทั่วทั้งโลกได้เลย