เบื้องหลังตัวตน เอลิซ มัตสึนากะ อาชญากรรมจริงไม่อิงนิยาย สารคดีเน็ตฟลิกซ์ 4 ตอนสุดท้าย
เบื้องหลังตัวตน เรื่องราวของคดีดังเมียฆ่าหั่นศพผัวที่เป็นคนร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของบราซิล ที่มีความสลับซับซ้อนจากการขุดค้นเรื่องราวของทั้งสองที่มีเรื่องมีราวราวพิลึกกว่าคู่ครองตามธรรมดามากมาย สารคดีจากบราซิลเรื่องราวของคดีการฆาตกรรมที่คนบราซิลสนใจเยอะที่สุด เมื่อเอลิซมัตสึนากะ ฆ่า มาร์โกส ผัวผู้สืบสกุลเครือญาติผู้รวยลำดับที่หนึ่งของบราซิล แถมยังหั่นศพผัวนำไปทิ้ง แล้วก็ปิดบังเรื่องราวว่าผัวล่องหนไป
ซึ่งมองเรื่องราวก็รุนแรง แต่ว่าบางทีอาจจะมิได้แปลกใหม่อะไรมากมายในบ้านพวกเรา ด้วยเหตุว่าของไทยก็มีคดีสยดสยองเกิดขึ้นเสมอ ๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นแนวหั่นศพเกิดขึ้นหลายหนกระทั่งคนประเทศไทยเคยชินกับเรื่องอะไรอย่างนี้ไปแล้วหลังจากนั้นก็ได้ แม้กระนั้นความน่าดึงดูดใจของเรื่องราวในคดีนี้มิได้อยู่ที่เรื่องราวอย่างคร่าว ๆ ในตอนแรก
แต่ว่าคดีมีเนื้อหาสำหรับการต่อสู้คดี ของอัยการกับทนายความของเอลิซมัตสึนากะ ที่เป็นหลักสำคัญน่าดึงดูด เมื่อข้างอัยการตั้งธงว่าเอลิซมัตสึนากะ คิดแผนการฆาตกรรมผัวอย่างคมคาย ไม่ใช่ฆ่าจากแรงหึงหวงที่ทราบว่าผัวคบชู้โดยมิได้คิดแผน ซึ่งเมื่อเรื่องราวถูกรื้อฟื้นเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ชมก็จะได้มองเห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังตัวตนของอีกทั้งเอลิซกับผัวในแบบที่ไม่มีผู้ใดเคยรู้มาก่อน
เบื้องหลังตัวตน สารคดีประเด็นนี้ถ่ายทำภายหลังจากเอลิซมัตสึนากะ ออกมาจากตารางจากการปล่อยตัวชั่วครั้งชั่วคราว 7 วันในปี 2019
ภายหลังจากเธอติดตะรางในคดีนี้ตอนปี 2012 รวมทั้งขึ้นโรงขึ้นศาลต่อสู้คดีกันในปี 2016 ต่อเนื่องกัน 7 วันจนถึงจบคดี ซึ่งกฎการปล่อยตัวนี้นับว่าเป็นความแปลกของบราซิลที่ให้ผู้ต้องขังที่เข้ามาตรฐานดีได้ออกมาดำรงชีวิตภายนอกปีนึงบ่อยครั้ง (ในเรื่องพูดว่าได้ 5 ครั้งต่อปี) ก่อนจจะกลับเข้าเรือนจำต้องโทษถัดไปกระทั่งครบ ซึ่งขณะนี้เองที่เอลิซยินยอมให้สัมภาษณ์ถ่ายทำสารคดีนี้ เพื่อชี้แจงหลาย ๆ อย่างของสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเธอตั้งอกตั้งใจว่าสารคดีนี้จะเป็นตัวช่วยชี้แจงให้บุตรสาวตัวน้อยของเธอได้รู้เรื่อง ซึ่งตอนเกิดเหตุอายุเพียงแค่ 2 ขวบ รวมทั้งเธอได้เสียสิทธิ์การเป็นแม่ไปแล้ว ลูกของเธออยู่กับเชื้อสายมัตสึนากะ (ในบราซิลคนประเทศญี่ปุ่นไปอยู่กันมากมายที่สุดในโลกตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงมั่งมีเสมือนเครือญาติชาวจีนใหญ่ ๆ ในประเทศไทย) ข่าวหนังใหม่
ซึ่งเรื่องราวจะถ่ายทำชีวิตธรรมดาของเธอในตอนปล่อยเนื้อปล่อยตัว ประกอบกับการสัมภาษณ์เชื่อมโยงถึงสมัยก่อนที่สารคดีเบา ๆ ลำดับเรื่องภูมิหลังตั้งแต่ต้นจนกระทั่งขั้นต่อสู้กันในศาล ที่เธอมีความผิดรออยู่แล้วเพราะว่ารับสารภาพข้างหลังหมดทางหนีหลักฐานที่ตำรวจพบจากกล้องวงจรปิด แม้กระนั้นใจความสำคัญของการต่อสู้ก็คือถือจะโดนลงอาญาสูงสุด 30 ปี หรือเพียงแค่โทษสถานเบา ๆ เพียงแค่ไม่กี่ปีจากการเป็นเหยื่อความร้ายแรงที่สามีปฏิบัติต่อเธอ จากที่เธอได้อ้างไว้
จำเป็นต้องกล่าวว่าเรื่องราวในสารคดีนี้ทำออกมาก้าวหน้าเลย
ถ้าเกิดเป็นคดีความในไทยเอง อาจน่าดึงดูดมากมาย กับการเล่าเรื่องสองฝั่งสู้กัน แบบใกล้เคียง โดยยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเหยื่อในคดีเป็นคนมั่งมี แถมยังเป็นเพศชาย ที่ถูกหั่นศพโดยเมีย แล้วก็สื่อก็ป่าวประกาศว่า เอลิซ เป็นเหยื่อของคนมั่งคั่ง ที่ทำต่อหญิงสาวชนชั้นกรรมกร อย่างไม่ยุติธรรม จนกระทั่งบันดลความฉุนเฉียว พลั้งมือฆ่าผัวไป
ซึ่งในระหว่างต่อสู้คดี ข้างอัยการก็มีเรื่องมีราว แบบที่ไม่คาดคิดมาเผยเรื่อย ๆ อย่างเพราะเหตุไร มั่นใจว่าเอลิซคิดแผนการฆ่า เริ่มจากแนวลูกกระสุน ที่ไม่สอดคล้อง กับคำพูดให้การของเธอ ว่ายืนห่าง แม้กระนั้นหมอที่ชันสูตร วินิจฉัยศพ กลับเจอหลักฐานสำคัญ หลายประเภท แม้กระทั้งการมั่นใจว่าเธอหั่นศพผัว ในเวลาที่ยังไม่ตาย จนกระทั่งขั้นจำเป็นต้องขุดศพ ขึ้นมาสอบปากคำกันใหม่
ซึ่งหลักฐานหลายชนิด ระบุแบบทำให้พวกเราเชื่อ ตามได้จริง ๆ ว่าเอลิซร้ายกว่าที่มองเห็น ในตอนแรกมากมาย แถมยังมีโปรไฟล์ ในสมัยก่อนหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ส่อแววว่าเธอ เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ชั่วร้ายนี้ได้จริง ๆ อย่างคลิปเลี้ยงงู แล้วเอาหนูให้เปลือง ที่เป็นปกของรีวิวนี้ ก็สารภาพว่าภายหลัง มองเห็นหลาย ๆ อย่างแล้วหลังจากนั้น ก็ทำให้น่าไว้วางใจ ว่าเอลิซผิดปกติ
แถมผัวเธอเอง ก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนไป จากปกติ มีความเหี้ยมโหด อย่างการพอใจล่าสัตว์ บ้าปืนจนถึงในบ้าน มีปืนหลายร้อยกระบอก แอบซ่อนอยู่ เรียกว่าคดีนี้ เป็นการขุดค้นเผย โฉมแง่ลบของสองคนนี้ แบบเจาะลึก หมดไส้หมดท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการคบชู้ ของมาร์โกสที่ไม่ธรรมดา กระทั่งราวกับเป็นกงบาป ล้อเกวียนที่เขาเอง เป็นสาเหตุความตาย ของตนนี่แหละ โดยการผลิตเอลิซ ในแบบโหดเหี้ยมขึ้นมา โดยไม่ได้คาดคิด
สารคดีมีกลุ่ม ที่แบ่งข้างสัมภาษณ์ ว่าเกี่ยวเนื่องกับทั้งคู่ คนอยู่คนละฝั่ง อย่างเพื่อนเกลอมาร์โกส ป้าของเอลิซ ผู้รายงานข่าวที่ทำคดีเอลิซ แบบติดตามมั่นใจ ว่าเธอถูกกระทำ แพทย์พิสูจน์ป้อมปราการ จิตใจว่าศพเล่าจริง ไม่ใช่คำโกหก ที่เอลิซให้การ นักแสดงประกอบ พวกนี้แบ่งข้างสองฟาก และเล่าราวส่วนตัว ที่เจอกับทั้งสอง กับความเชื่อถือ ของตนเองประกอบ ชีววิทยายุคใหม่
เรื่องราวการต่อสู้ ในศาลอีกครั้ง ซึ่งผู้ชมเองก็อาจถูกเอนเอียงไป ๆ มา ๆ ตลอดระยะเวลาที่มอง ถือว่าสารคดีบอกเล่าเรื่องราวก้าวหน้าเลย ไม่มีเบื่อ มีความน่าติดตาม สารคดีอุตสาหะบิ้วกับปกปิดผลของการวินิจฉัยในที่สุดไว้เพื่อมาเฉลยคำตอบในตอน 4 ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาจากรูปความที่สู้กันมาตลอด เรื่องราวพาให้พวกเรารู้สึกว่าตอนสุดท้ายคงจะมีเซอร์ไพรซ์พอควร เนื่องจากว่าเรื่องย่อของตอน 4 ก็พูดว่าผลของการวินิจฉัยเป็นไปอย่างไม่คาดคิด
ซึ่งจุดนี้แหละที่สารคดีประเด็นนี้ดูดรอคอยปลงในทันที เมื่อการบิ้วซะเว่อร์และปกปิดผลของการวินิจฉัยเสมือนเป็นอะไรที่สำคัญ แต่ว่าพอเพียงสรุปคำวินิจฉัยออกมากลายเป็นถ้าเช่นนั้น ๆ แม้ว่าจะไม่คาดคิดนิด ๆ แม้กระนั้นก็ไม่ใช่เป็นไฮไลท์ที่สำคัญอะไรมากมายเลย เอาจริงเอาจัง ๆ บอกมาตั้งแต่ทีแรกก็ยังได้ เนื่องจากว่าความเพลิดเพลินของเรื่องราวอยู่ที่การต่อสู้คดีในเรื่องอยู่แล้ว
แม้กระนั้นเพียงพอบิ้วให้คนมุ่งหวังกับตอนสุดท้ายที่แปลก แต่ว่าดันไม่แปลกอะไรเลย ทำให้ความน่าดึงดูดใจต้องการบอกต่อกับสารคดีนี้จบลงไปในทันทีทันใด และก็ตัวเรื่องข้างหลังเฉลยคำตอบคำวินิจฉัยก็มีต่ออีกนิดกับระยะเวลาในที่สุดเอลิซจากการปล่อยตัวชั่วครั้งชั่วคราว รวมทั้งเรื่องราวก็วนกลับไปที่การเข้าเรือนจำของเธออีกที เป็นการจบแบบเฉย ๆ ของหัวข้อนี้
สำหรับผู้ที่อยากได้มองสารคดีอาชญากรรมแปลกใหม่ก็อาจจะต้องผ่านไปเพราะเหตุว่าตอนสุดท้ายของประเด็นนี้ปกติมากมาย แม้กระนั้นถ้าหากผู้ใดกันปรารถนามองตอนการต่อสู้คดีในศาลว่ามีเนื้อหาแฉกันแค่ไหน สารคดีหัวข้อนี้ตอบปัญหาเลยและก็ทำเป็นดีด้วย ก็อาจจะจำเป็นต้องผ่านไปเนื่องจากว่าตอนสุดท้ายของประเด็นนี้ปกติมากมาย แต่ว่าถ้าหากคนใดปรารถนามองตอนการต่อสู้คดีในศาลว่ามีเนื้อหาแฉกันแค่ไหน จนกระทั่งเรื่องราวมีอะไรมากยิ่งกว่าการฆ่าหั่นศพตามธรรมดา สารคดีประเด็นนี้ตอบปัญหาเลยรวมทั้งทำเป็นดีด้วย