ชีววิทยายุคใหม่

ชีววิทยายุคใหม่ ไบโอแฮกเกอร์ ซีซั่น1-2 ซีรีส์วัยรุ่นจุดโฟกัสที่การแฮ็กพันธุกรรม

ชีววิทยายุคใหม่ ไบโอแฮกเกอร์ ไบโอแฮ็กเกอร์ ซีรีส์ เน็ตฟลิกซ์ ขนาดสั้น 6 ตอนสุดท้ายฤดูกาล

ชีววิทยายุคใหม่ เรื่องราวของสาววัยรุ่นนักศึกษาแพทย์ที่ตามหาสาเหตุของการตายในสมัยก่อนของครอบครัว ที่เกี่ยวข้องกับตัวศาสตราจารย์ที่มีชื่อด้านไบโอชีววิทยายุคสมัยใหม่ ซีรีส์วัยรุ่นที่มีเรื่องมีราวราวล้ำสมัยทางชีววิทยาเป็นแกนของเรื่องที่ถือว่าแปลกใหม่หลายชนิด โดยแกนเรื่องเป็น “มีอา” นางเอกของเรื่องที่เป็นนักศึกษาแพทย์ฉลาดที่มีแอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งของเยอรมัน

เพื่อเจาะลึกเข้าวงในหลักการทำงานของดร.ลอเรนซ์ ศาสตราจารย์สาวประธานมหาวิทยาลัยที่นี้ ไปพร้อมกระทำทดสอบลับ ๆ ส่วนตัว ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องถึงการถึงแก่กรรมของครอบครัวมีอาในอดีตสมัยที่เธอยังเด็ก ซึ่งเธอรอดมาได้เพียงผู้เดียว และก็กลับมาตามหาหลักฐานเอาผิด ดร.ลอเรนซ์ให้ได้ ตัวเรื่องพรีเซ็นท์สิ่งล้ำในวงการชีววิทยาที่ผิดตาตลอดทั้งเรื่อง

โดยมีอีกทั้งสัตว์ที่ถูกตัดต่อดีเอ็นเอใหม่ ๆ เข้าไปภายในร่างกายเพื่อใช้เป็นของกินแบบใหม่ ยารักษาโรคที่ไม่มีมาก่อน หรือแม้กระทั้งชีวะอาวุธในแบบอย่างแมลงซึ่งสามารถส่งเชื้อไวรัสที่อยากได้ไปสู่ร่างกายของมนุษย์ได้ ซึ่งทุกสิ่งในหัวข้อนี้อิงกับเบื้องต้นชีววิทยายุคใหม่ที่เป็นจริงได้ ไม่ใช่เรื่องคุยอวดโอเวอร์ขึ้นมาโดยไม่มีข้อมูลจริงในตอนนี้ ทำให้ตัวเรื่องเป็นซีรีส์วัยรุ่นนิสิตมหาวิทยาลัยผสมไซไฟในแบบครึ่งหนึ่งเหมือนจริง

ผู้แสดงในเรื่องก็เลยมีบทสำหรับพูดที่ใช้คำศัพท์วิทยาศาสตร์ทางด้านไบโอชีวภาพและก็การแพทย์ยุคใหม่เข้ามาตลอดระยะเวลา หากว่าผู้ชมจะตามคำศัพท์เหล่านี้ไม่ทัน แต่ว่าก็ไม่ถึงกับงุนงงอะไร เนื่องจากเรื่องมิได้เล่าแบบตั้งอกตั้งใจให้ลึก เพียงแต่จับคำศัพท์วิชาด้านนี้มาใช้ประกอบของเรื่องต่าง ๆ ที่นางเอกพบรวมทั้งจะต้องไขปัญหาด้วยความรู้ความเข้าใจของเธอและก็เพื่อนพ้อง ๆ เพียงแค่นั้น ข่าวหนังใหม่

เรื่องราวย้ำไปที่การเจาะระบบเข้าไปหาหลักฐานในแล็ปของดร.ลอเรนซ์ ที่ถูกวางตัวเป็นตัวร้ายของเรื่องในแบบนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่มีชื่อมีชื่อเสียง ในตอนที่เบื้องหน้าเบื้องหลังกระทำการทดสอบศึกษาค้นคว้าผิดศีลธรรมให้ได้มาซึ่งสิ่งที่มีความต้องการของตนเอง แม้ว่าจะอ้างความเป็นธรรมว่าทำไปเพื่อช่วยผู้คนบนโลก

ซึ่งนางเอกเอกจะถูกวางตัวเป็นอีกทั้งแฮ็กเกอร์รวมทั้งสายแอบ ที่ทำทุกแนวทางเพื่อเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของดร.ลอเรนซ์ หาหลักฐานเชื่อมโยงไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ที่เธอเองก็ไม่รู้เรื่องว่ากำเนิดอะไรสังกัดอุบัติเหตุรุนแรงที่ทำให้เธอเสียคุณพ่อคุณแม่ไป รวมทั้งพี่ชายแฝดที่มีอาการป่วยด้วยโรคร้ายแบบปัญหาตั้งแต่เด็ก

ซึ่งตัวเรื่องจะเปลี่ยนฉากแฟลชแบ็คกลับมาเป็นช่วง ๆ แล้วก็ยังเริ่มเรื่องด้วยการแฟลชแบ็คเหตุกลับไป 2 อาทิตย์ก่อน ภายหลังที่เปิดเรื่องมาเป็นสถานะการณ์ก่อวินาศกรรมทางชีวภาพแบบไม่ทันตั้งตัวในรถไฟที่เธอขึ้นรถ ทิ้งเป็นปัญหาน่าติดตามไว้ตั้งแต่ตอนแรกเรื่องเลยว่าสิ่งนี้เป็นอย่างไร?

ชีววิทยายุคใหม่

ชีววิทยายุคใหม่ แต่ว่าเรื่องก็มิได้ให้นางเอกฉายลำพังหรือเก่งเหลือเกิน

ในเรื่องเธอยังจะต้องพึ่งกลุ่มที่มาจากการรวมตัวของเพื่อนพ้องร่วมห้องพักที่เก่งในสาขาอื่นที่เธอไม่ถนัด อย่างการผสมยา ทำวัคซีนแก้กะทันหัน ซึ่งถูกใช้เป็นปัญหาเฉพาะหน้าของเรื่องในบ่อยมาก นางเอกไม่สามารถที่จะขจัดปัญหาผู้เดียวได้ โดยที่เพื่อนฝูงในกลุ่มแต่ละคนก็จะมีนิสัยแปลกแบบเนิร์ดเฉพาะทางแตกต่างกันไป ตัวเรื่องก็เลยมิได้เป็นแถวดราม่าวัยรุ่นอะไรมากมายตามสูตร

แม้กระนั้นในเรื่องก็ยังมีแทรกเข้ามานิด ๆ หน่อย ๆ ผู้แสดงนำฝ่ายในเรื่อง ลูน่า เวดเลอร์ ที่เล่นเป็นมีอา บริเวณใบหน้ามองงามมีเสน่ห์ในแบบสาวเก่งวิทยาศาสตร์ ตัวบทให้เธอมีเชาว์ปัญญาขจัดปัญหาเฉพาะหน้าได้ดิบได้ดีในแบบสายแอบไปพร้อม ในระหว่างที่ตัวร้ายของเรื่องดร.ลอเรนซ์ (สวมบทโดย เจสสิก้า ชวาตซ์) ก็มองงามมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ซึ่งบทของเธอจะเป็นแบบคนวางแผนมากยิ่งกว่าลงมือเอง รวมทั้งหัวข้อนี้มิได้เป็นซีรีส์วัยรุ่นที่มีผู้แสดงนำชายโดยตรง เป็นเพียงแค่แฟนในบทสมทบ ขายความเป็นอิตาลี

ด้วยเหตุว่าเรื่องเน้นย้ำไปที่ภารกิจการเจาะระบบของนางเอกมากยิ่งกว่าอันอื่น ตัวเรื่องก็เลยเสมือนเพียงแค่ใส่บทคู่รักไว้หละหลวม ๆ ให้เป็นเหตุที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาของนางเอกในช่วงท้ายของเรื่องเพียงเท่านั้น ตัวเรื่องออกจะกระชับจุดโฟกัสไปยังการเจาะระบบของนางเอกจบได้ในฤดูกาลแรกเพียงแค่ 6 ตอนสั้น ๆ ตอนละ 30 กว่านาครั้งเพียงแค่นั้น

รวมทั้งจัดการเงื่อนต่าง ๆ ได้หมดว่ากำเนิดอะไรขึ้นในตอนแรกกับเรื่องราวบนรถไฟ รวมทั้งอดีตกาลของนางเอกเกี่ยวอย่างไรกับการทดสอบของดร.ลอเรนซ์ ซึ่งแอบล้ำนิด ๆ ละม้ายกับ “เจสัน บอร์น” แม้กระนั้นก็ยังยืนพื้นอยู่บนความน่าจะเป็นในตอนนี้ ซึ่งเรื่องก็วางไว้ดีไม่เว่อร์เกินความจำเป็น แม้กระนั้นก็ทำให้ช่วงท้ายเรื่องข้างหลังเฉลยคำตอบดูหมิ่นไปสักนิดเมื่อเทียบกับสถานะการณ์ก่อเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างหนักในตอนเริ่มเรื่อง ก่อนที่จะไปจบเงื่อนในฤดูกาลแรกแล้วก็เปิดตัวร้ายใหม่ในฤดูกาล 2 ซึ่งไม่ถึงกับค้าง แล้วก็มีความน่าติดตามต่อพอเหมาะพอควรเลยนะครับ

ขายความเป็นอิตาลี

ฤดูกาล 2 ที่ยังคงพากเพียรเล่นเรื่องข้อความสำคัญชีวะวิทยาศาสตร์กรรมพันธุ์ต่อ

ตัวเรื่องเกือบจะต่อจากตอนสุดท้ายที่มีอาโดนลักพาตัวไป แต่ว่าเป็นการเริ่มแบบนางเอกเสียความจำตอนนั้นไปหมด รวมทั้งพบว่าเวลาผ่านมานับเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยที่ตัวเธอเองก็เริ่มชีวิตใหม่ไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว แม้กระนั้นความจำตอนโดนลักพาตัวไปกลับเบา ๆ ตามมาหลอน แถมยังบ่อนทำลายสมองของเธอลงไปเรื่อยด้วย

ภาคนี้ดำเนินเรื่องความข้องเกี่ยวในชีวิตนางเอกใหม่หมด ราวกับโดนรีเซ็ททุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง โดยยิ่งไปกว่านั้นยาสเพอร์ตัวร้ายของภาคแรกที่เป็นคนปลดปล่อยยุงดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขกรรมพันธุ์ในรถไฟกลายมาเป็นแฟนของเธอ โดยที่ผู้แสดงนำชายภาคก่อนแปลงเป็นตัวประกอบไปแทน ด็อกเตอร์ลอเรนซ์นางเอกเพียรพยายามล้มในภาคแรกก็เปลี่ยนมาเป็นมิตรในตอนหลัง

ซึ่งการรีเซ็ตเรื่องใหม่นี้เป็นเงื่อนในเรื่องที่ทำให้นางเอกไม่ไว้วางใจในความเกี่ยวเนื่องใหม่ที่เธอจำไม่ได้เลย ว่านี่เป็นแผนร่วมมือกันของตัวร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในเรื่องหรือเปล่า ซึ่งตัวบทก็จะมีกลับไป ๆ มา ๆ นิด ๆ ในแต่ละตอนไม่ถึงกับหลอกผู้ชมจัง ๆ แม้กระนั้นเชิญให้ผู้ชมไม่เชื่อใจเมื่อเรื่องพลิกกลับจากภาคแรกไปหมดขนาดนี้ ลักษณะเด่นของเรื่องภาคนี้เป็นอย่างไรเป็นต้นตอทำให้ความจำของนางเอกหายไป

ซึ่งก็ยังมองบันเทิงใจในแนวไบโอแฮ็กเกอร์ได้คล้ายภาคแรกอยู่ แม้ว่าจะดคอยปลงมาบ้างจากภาคแรกที่เว่อร์มากมาย แต่ตัวฤดูกาลนี้เป็นจบแล้ว ทำให้ข้อความสำคัญอะไรต่าง ๆ โดนรวบรัดตัดตอนจบในตอนหลังกล้วย ๆ ไปหน่อย ซึ่งก็โชคร้ายว่าจริง ๆ ซีรีส์บางทีก็อาจจะต้องการเล่นใหญ่มโหฬารมากยิ่งกว่านี้ แต่งบมันอาจจะมิได้เท่าภาคแรก ก็เลยจะต้องลดขนาดสเกลลงมาเหลือเพียงการตามหาตัวการความจำของนางเอกที่หายไปเพียงแค่นั้น

สิ่งที่ทำให้ภาคนี้ดรอคอยปลงจริง ๆ ไปกลุ่มกองอยู่ส่วนท้ายทั้งหมดทั้งปวง เมื่อเรื่องเปิดตัวร้ายใหญ่มหึมาออกมา แถมเล่าว่าอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการทดสอบอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ว่าตัวเรื่องกลับบากบั่นขมวดจบลงให้ได้ในช่วงท้าย ๆ ขนาดที่ว่ายอมตัดฆ่าผู้แสดงบางตัวทิ้งเพื่อเรื่องจบจริง ๆ แต่ว่าหลักสำคัญกับเงื่อนในเรื่องดันติดอยู่ทิ้งเอาไว้

ยิ่งโปรเจ็กต์โฮโมดีอุสที่ทำให้นางเอกมีภูมิคุ้มกันโรคทุกหมวดหมู่ที่ส่งผลกับสังอาจมนุษย์ในโลก ถูกมาเล่าต่อในภาคนี้อีกหน่อย แต่ไม่ประยุกต์ใช้เป็นใจความสำคัญใหญ่มโหฬารอะไรเลย แถมยังตัดตอนจบลงกล้วย ๆ ในตอนสุดท้ายแบบเสียของมากมาย ๆ จนกระทั่งเสมือนผู้ผลิตต้องการเพียงแค่จะปิดหมดเรื่องราวในภาคนี้ไปไว ๆ นั้น ฤดูกาล 2 ตัวเรื่องยังคงความสนุกสนานในธีมเดิมได้อยู่

ถึงแม้ความเว่อร์จะน้อยลงไป กับตอนสุดท้ายที่รีบตัดตอนจบง่ายไปหน่อย ถ้าเกิดคนใดกันแน่ถูกใจฤดูกาลแรกก็ยังเหมาะจะมองแม้กระทั่งจบอยู่นะครับ ตัวเรื่องมี 6 ตอนสุดท้ายสั้น ๆ อย่างเดิม เกิดเรื่องหลักแบบเอาจริงเอาจังอิงกับความน่าจะเป็นไปได้จริงในยุคนี้ โดยแทบมิได้มีเรื่องมีราวดราม่าชีวิตวัยรุ่นมาเกี่ยวเนื่องด้วยเลย ตัวเรื่องกระชับสั้นเพียงแค่ 6 ตอน ตอนละ 30 กว่านาคราว และก็จบฤดูกาล 1 แบบสะสางเงื่อนหมด