การครีเอทสุดล้ำ แบล็คซัมเมอร์ ซีซั่น2 เน็ตฟลิกซ์รีวิว ปฏิบัติการนรกเดือด การกลับมาของซีรีส์แนวซอมบี้สายดาร์ก
การครีเอทสุดล้ำ เน้นย้ำการไล่ล่า ดุเดือดเลือดพล่าน โหดเหี้ยมดิบ ไร้ความปราณี แล้วก็กล้าครีเอท ประดิษฐ์ได้มากที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยสร้างกันมา ผลงานหัวข้อนี้มาจากกลุ่มผู้ผลิต แซด เนชั่น (ยังมีฉายใน เน็ตฟลิกซ์ด้วย) แม้กระนั้นบอกกล่าวเรื่องราวก่อนหน้า
ซึ่งซีซันสองฉายทั้งหมดทั้งปวง 8 ตอน มั่นใจว่ามีซีซันสามต่อแน่ ๆ เพราะว่ามีการปูทางของนักแสดงที่รอดตายจากซีซันนี้กันไว้แล้ว มีบรรยายไทยด้วย ภายหลังจากตอนสุดท้ายในซีซันแรก กรุ๊ปผู้แสดงนำที่มีคนรอดพ้นจากความตายเป็น โรส ซัน สเปียร์ส ที่ได้เจอกับบุตรสาวของโรสเป็น แอนนา ทั้งปวงก็จับกลุ่มกันเริ่มเดินทางเพื่อหาทางมีชีวิตรอดกันถัดไป
แต่ว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนก็คือ วิถีชีวิตรวมทั้งแนวความคิดสำหรับในการเอาชีวิตรอดของคนภายในกรุ๊ปที่พร้อมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ถึงแม้ว่าจะดูอย่างกับว่าเห็นแก่ตัว จะต้องรังแกคนอื่น ๆ แม้กระนั้นหากเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาก็จะทำมันโดยไม่ลังเล แล้วสำหรับผู้ที่มุ่งหวังว่า เรื่องราวจะมีการค้นหาปัญหาการเปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้หรือมีการเฉลยคำตอบในจุดนี้หรือเปล่านั้น จะต้องพูดว่าซีรีส์มันมิได้สร้างมาในแนวนี้
แม้กระนั้นเน้นย้ำการเอาตัวรอดแบบเหมือนจริง ซึ่งในส่วนของปัญหาซอมบี้จะไปอยู่ในซีรีส์เรื่อง แซด เนชั่น ที่มีการเรียนเรื่องภูมิคุ้มกันของเชื้อซอมบี้ตั้งแต่ต้น ส่วนใจความหลักในซีซันสองนี้ จะย้ำไปที่การเดินทางตามหาลานจอดเครื่องบิน เพื่อหาทางออกไปยังเมืองอื่น สถานที่อื่น ด้วยความคาดหมายว่าจะเจอช่องทางสำหรับการเอาชีวิตรอดที่ดียิ่งกว่านี้ แต่ว่าก็มิได้มีแต่ว่าคนไม่กี่กรุ๊ปที่มีชีวิตรอดจากซีซันแรก ข่าวหนังใหม่
เพราะว่าซีซันนี้มันเป็นการที่ผู้คนผ่านช่วงเวลามายาวนานหลายเดือนจากซีซันแรก ซึ่งคนหลายกรุ๊ปมีความถนัดสำหรับเพื่อการเอาชีวิตรอดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีอาวุธปืนกันเยอะขึ้น จับกลุ่มต่อสู้และก็เหี้ยมโหดอำมหิตกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเหตุนั้นปัญหาในซีซันสองก็เลยอยู่ที่การตามลุ้นว่ากรุ๊ปผู้แสดงนำจะเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้อย่างไร ในระหว่างที่พวกเขาจะต้องปะทะ กับกรุ๊ปติดอาวุธหลายกรุ๊ป ที่พันพัวกันชุลมุนมากมาย กระทั่งไม่ทราบว่าคนไหนกันเป็นมิตรหรือคนใดกันเป็นศัตรู
ด้วยเหตุว่าไม่บางทีอาจไว้ใจคนไหนได้อย่างไม่ยากเย็นอีกแล้ว เนื้อในซีซันสอง เพียงแค่เปิดมาไม่กี่นาที ก็บอกให้เห็นพวกเราแล้วว่า นี่เป็นโลกที่ทารุณโหดร้ายสุด ๆ คนประพฤติดีมิได้ดีเสมอ มีเพียงแค่ว่าตกลงใจถูกหรือไม่ถูก รอดหรือตาย เท่านั้นเอง สองประโยคนี้เป็นข้อสรุปของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงในซีรีส์ชุดนี้ที่แจ่มชัดมากมาย แต่ว่าในส่วนท้ายเรื่อง ทั้งหมดทุกอย่างก็มิได้มัวแต่ดำมิดหมีสิ่งเดียว
เมื่อนักแสดงหลักคนหนึ่งเลือกที่จะไม่ละทิ้งผู้ที่เธอรักรวมทั้งบากบั่นรักษาความเป็นคนที่ดีเอาไว้ให้เยอะที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในโลกแสนชั่วร้ายที่ไม่มีกฎข้อปฏิบัตินี้แล้วหลังจากนั้นก็ตามที สำหรับฉากกว่า 90% ในซีซันนี้อยู่ในหิมะ อีกทั้งป่า ภูเขา บรรยากาศของเรื่องก็เลยมีอีกทั้งความมืดมนอึมครึมและก็สีขาวโพลนประสมประสาน ซึ่งเชิญชวนให้มันยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ตัดกันในแง่พวกเรารู้สึกถึงความแห้งและก็เหน็บหนาวจากสภาพภูมิอากาศเข้าไปอีก สำหรับข้อดีขอเสียของซีซันสอง มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
การครีเอทสุดล้ำ จุดเด่นในซีซันสอง ของซีรีส์มีหลายจุด แต่ว่าสิ่งที่จำต้องขอชื่นชอบก่อนเลยก็คือ
1.การแสดง โดยยิ่งไปกว่านั้นน้อง โซอี้ มาร์เล็ต ที่มาเล่นบทแอนนา บุตรสาวของโรส ซึ่งในซีซันสอง เธอได้แปลงเป็นหนึ่งในตัวนำของเรื่องราวที่จะต้องสารภาพเลยว่าน้องโซอี้เป็นดาราวัยรุ่นที่เล่นได้ตีบทแตกและก็เกินวัยอย่างน่าไม่น่าเชื่อ ทั้งยังเค้าหน้างาม ๆ ใส ๆ ของเธอ บวกกับการแสดงออกทางสีหน้าที่ไม่ต้องเล่นใหญ่อะไรมากมาย แต่ว่าสามารถสื่อให้พวกเรามองเห็นได้ว่า คุณกำลังตื่นตระหนก คิดหนัก โกรธ เสียใจ หรือกำลังจะมีอารมณ์นานัปการยัดเยียดเข้าไปเข้ามาทีเดียว กล่าวได้ว่าเป็นดาราวัยรุ่นที่บางทีอาจจะเปลี่ยนเป็นดาราหนังมีชื่อในอนาคตจนกระทั่งขั้นเอารางวัลใหญ่เลยก็ได้ ถ้าเกิดมีบทดี ๆ ส่งให้คุณถัดไปเรื่อย
2.มุมกล้องถ่ายภาพ และก็แนวทางการถ่ายทำ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นมากมาย ๆ ของซีรีส์ชุดนี้ตั้งแต่ซีซันแรก รวมทั้งการใช้แนวทางแบบทดลองเทคเข้ามาผสม ร่วมกับการนำเสนอมุมกล้องถ่ายรูป ผ่านสายตาผู้แสดงในฉากที่พวกเขาจำต้องบุกในสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าระแวง รวมทั้งนี่เป็นซีรีส์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่เล่นมุมกล้องถ่ายรูปผ่านสายตาของซอมบี้ สายลับรัสเซีย
3.บทที่ชั่วร้ายดิบ เหมือนจริงจนถึงน่าสยองในโลกที่แทบเปลี่ยนเป็นสังคมแบบบ้านป่าเมืองรุนแรง ทุกคนต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอด ไม่เลือกแนวทางการ แล้วแม้กระทั่งเป็นตัวละครที่ดูเหมือนกับว่าสำคัญแค่ไหน บทจะตายก็คือตายเช่นกัน
4.ไม่ใส่บทสนทนาไดอาล็อคสุรุ่ยสุร่ายเสมือนแนวซอมบี้เรื่องอื่น ซึ่งการที่ประเด็นนี้เลือกดำเนินเรื่องแบบที่ผู้แสดงชอบมีแอร์ไทม์แบบผู้แสดงเงียบใส่กัน กลับทำให้เรื่องมองเหมือนจริงเยอะขึ้นกับเหตุการณ์ที่โลกเต็มไปด้วยซอมบี้สายสปีดเร็วกวานเกลื่อนกลาด ซึ่งทุกคนต้องหาทางเอาชีวิตรอด แล้วก็บางคราวก็อิดโรยกับการที่จะจำเป็นต้องบอกอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียวในเหตุการณ์เฉียดฉิวตาย แม้กระนั้นพอใช้ได้โอกาสพักคลายกับคนอื่น ๆ บ้าง ก็เลยพูดบอกกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ตรงนี้นับว่าดูแล้วอินตามก้าวหน้า
สำหรับจุดด้อย ข้อเสียในซีซันสอง ก็มีจุดที่ดคอยปลงจากซีซันแรกบ้างเช่นกัน ได้แก่
1.บทของนักแสดงใหม่ บางบุคคลไม่รู้จักว่าใส่มาเพราะเหตุไร แล้วก็ไม่ค่อยน่าเอาใจช่วยแบบผู้แสดงชุดเก่า เป็นถ้าหากไม่นับน้องแอนนาที่เป็นตัวหลักคนใหม่ของเรื่อง ดูแล้วจะมีความคิดว่าเส้นเรื่องพวกนักแสดงใหม่อาทิเช่น แมนซ์ ก็แทบมิได้เกี่ยวอะไรกับกรุ๊ปนักแสดงจากซีซันแรก ราวกับเกิดเรื่องที่กระโจนออกมาต่างหาก แต่ไม่น่าเชียร์เท่าไรนัก ที่ตรงนี้เลยทำให้เกิดความรู้สึกเสียดายนักแสดงหลักจากซีซันแรกบางบุคคลที่บทมาหมดในซีซันสองเร็วไปหน่อย
2.ผู้แสดงจากซีซันแรกบางบุคคลมีเครื่องปรับอากาศไทม์ลดลง โดยยิ่งไปกว่านั้นนักแสดงที่มั่นใจว่าผู้ชมเชียร์สูงที่สุดในซีซันแรกดังเช่น ซัน สาวประเทศเกาหลีที่มีเชาว์ปัญญารวมทั้งจิตใจดีลำดับต้น ๆ ในซีรีส์ชุดนี้ จะพบว่าคุณมีหน้าที่ลดน้อยลงไปมากมาย ซึ่งจัดว่าโชคร้ายมากมาย และยังจะต้องลุ้นกันว่าเธอจะพบวิบากอะไรอีกไหมในซีซันหน้า ถ้าว่าเธอได้กลับมามีหน้าที่อีกรอบ เนื่องจากว่าผลสรุปของซันในซีซันสองค่อนข้างจะสะสางหมดแล้ว
3.การตัดต่อเรื่องราวจากแต่ละมุมมองในระยะแรกแล้วก็กึ่งกลางที่ทำออกมาดูแล้วงง เข้าใจยาก และก็งงงวยกว่าในซีซันแรก แม้กระนั้นการตัดต่อจากหลายมุมมองกลับมาทำเป็นดีอีกรอบในตอน 3 ตอนสุดท้าย โดยยิ่งไปกว่านั้นซีนสำคัญของสเปียร์ที่ผู้ผลิตหาบทสรุปให้นักแสดงได้งดงามดี
แล้วยังมีจุดหนึ่งที่ผู้ชมบางทีก็อาจจะคิดว่า นักแสดงในหัวข้อนี้มันเอาปืนกันมาจากไหนจำนวนมาก แถมแทบทั้งสิ้นยิงปืนกันเก่งมากมาย มีหลายกรุ๊ปซึ่งสามารถปฏิบัติกันได้อย่างกับทหารหรือหน่วยรบพิเศษ แต่ว่าที่ตรงนี้น่าจะเป็นความตั้งอกตั้งใจของผู้ผลิตที่สื่อว่า กลุ่มชนที่เอาชีวิตรอดในโลกที่ซอมบี้แทบครอบครองหมดแล้ว ต่างก็จำต้องปรับพฤติกรรมเพื่ออยู่รอด เพราะฉะนั้นผู้ที่อยู่รอดมาถึงระยะเวลาในเรื่อง หรือราว ๆ 4-5 เดือน ย่อมมีความเข้มแข็งรวมทั้งจำเป็นต้องยิงปืนหรือใช้อาวุธกันกระทั่งเก่งมากมายในระดับหนึ่งแล้วนั่นเอง
นี่เป็นซีรีส์แนวซอมบี้ที่มีการครีเอทในทางของการถ่ายทำ การเล่าเรื่องจากหลายมุมมองที่มีเชิงชั้นมากมาย และไม่ย้ำความดราม่ากระยืดกระยาดฟูมฟาย หรือผู้แสดงทำอะไรทึ่ม ๆ แบบแนวซอมบี้เรื่องอื่น แม้กระนั้นเน้นย้ำที่การไล่ล่า เอาชีวิตรอดเป็นหลักแบบที่ผู้ชมจำเป็นต้องอ่อนเพลียเรียกตัวละครไปด้วย ซีซันสองฉายแล้วใน เน็ตฟลิกซ์ทั้งสิ้น 8 ตอน