ขาวดำทั้งเรื่อง

ขาวดำทั้งเรื่อง มัลคอล์มแอนด์มารี คืนวันรักปั่นป่วน งานภาพรวมทั้งการควบคุมที่นับถือหนังสมัยขาวดำ

ขาวดำทั้งเรื่อง มัลคอล์มแอนด์มารี ภาพยนตร์ขาวดำแนวโรแมนติกดราม่า

ขาวดำทั้งเรื่อง ควบคุมแล้วก็เขียนบทโดย แซม เลวินสัน แสดงนำรวมทั้งร่วมสร้างโดย จอห์น เดวิด วอชิงตัน แล้วก็ เซนเดยา เป็นโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่ถูกเขียนรวมทั้งถูกผลิตขึ้นในช่วงที่โควิด 19 เกิดขึ้นไปทั่วโลก

โดยหนังได้ถ่ายทำในมิถานายน ปี 2020 รวมทั้งฉายในโรงภาพยนตร์จำกัดโลกตอนวันที่ 29 เดือนมกราคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก่อนที่จะลงฉายในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์ โดยภาพยนตร์นั้นได้รับข้อวิพากษ์วิจารณ์ในทางผสมกันทั้งยังบวกรวมทั้งลบ เรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่คืนวันหนึ่งพวกเขาจะได้ตรวจลงไปในความเชื่อมโยงแล้วก็ข้อเท็จจริงที่พวกเขาไม่เคยบอกกันมาก่อน

ซึ่งนั่นจะนำพาให้รักของพวกเขาไปสู่จุดแปลงสำคัญ สิ่งที่น่าดึงดูดของมัลคอล์มแอนด์มารี หมายถึงแซม เลวินสัน ผู้กำกับและก็เขียนบทภาพยนตร์หัวข้อนี้เคยฝากผลงานที่ก้องโลกมาแล้วอย่างซีรีส์วัยรุ่นน้ำดีอย่างยูโฟเบีย แล้วก็ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงใน บริติช อคาเดมี เทเลวิชั่น อะวอดส์ และก็ภาพยนตร์จิกกัดสังคมโซเชี่ยลเลือดสาดอย่าง สี่สาวนองเลือด

ที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้ฉายในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์ไปก่อนหน้าพร้อมคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางผสม มากับผู้แสดงฝ่ายหญิงคู่บารมีจากซีรีส์อย่าง เซนดายา สาวผิวสีสุดฮอตจาก สไปเดอร์แมน เวอร์ชั่น ทอม ฮอลแลนด์ทั้งคู่ภาค ที่ขอมาสวมบทบาทผู้ใหญ่แบบไม่ติดภาพวัยรุ่นอีกต่อไป หรือ จอหน์ เดวิด วอชิงตัน ลูกชายของคนมีชื่อเสียง เดนเซล วอชิงตัน ที่ฝากผลงานบู๊ผันแปรเวลาอย่าง เทเน็ท ร่วมนำแสดง และก็โปรดิวซ์ด้วย ข่าวหนังใหม่

นอกจากนั้น มัลคอล์มแอนด์มารียังถ่ายทำเป็นแบบสีขาวดำล้วนตลอดทั้งเรื่องและก็ถ่ายทำเรื่องเพียงแค่เรื่องราวเดียว พูดได้ว่าเป็นงานโชว์กึ๋นของทั้งทีมผู้ผลิตและก็ดาราหนังอย่างยิ่งจริง ๆ เนื่องจากว่าแสดงกันทั้งยังเรื่องแค่เพียงสองคนแค่นั้น ชายกับหญิง น่าดึงดูดว่าจะถ่ายทอดออกมาอย่างไรให้ตรึงผู้ชมตลอด ชั่วโมงครึ่งได้ ด้วยฉากทั้งยังเรื่องในบ้านข้างหลังเดียว

“ในคืนวันหนึ่ง ข้างหลังงานฉายภาพยนตร์รอบรอบแรกของ มัลคอล์ม ผู้กำกับชายหนุ่มไฟแรงที่คาดหวังว่าข้อคิดเห็นภาพยนตร์ของเขาจะเป็นดังที่คาดหมาย และก็ใช้เวลาส่วนตัวร่วมกับ มารี หญิงสาวผู้เป็นแฟนในบ้านสุดหรูบนพื้นที่ฮอลลีวู้ดอย่างสุดรุ่มร้อน แต่ว่าความเครียดในความเกี่ยวข้องกลับสนับสนุนให้สองชายหญิงฟาดฟันคุ้นเคยทางอารมณ์ ทุกความรู้สึกที่ถูกระเบิดออกทำให้พวกเขาเริ่มตั้งปัญหาว่า ความรักของพวกเขาจะสามารถมั่นคงเพียงพอต่อความต้านทาน หรือคืนวันนี้จะเป็นคืนวินิจฉัยที่จะเปลี่ยนพวกเขาไปตลอดไปกันแน่”

ขาวดำทั้งเรื่อง

ขาวดำทั้งเรื่อง ขาวดำ ลึกลับเกินคาดการณ์

ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องผ่านเรื่องราวในบ้านข้างหลังเดียว รวมทั้งใช้มุมกล้องถ่ายภาพถ่ายแช่สลับกับการถ่ายโคลสอัพบริเวณใบหน้าของนักแสดง ให้อารมณ์หนังอินดี้ที่ทุนไม่มากมายอะไรมากมาย เพราะว่าอีกทั้งเรื่องพวกเราจะได้ยินบทพูดแบบที่แฟนทั่ว ๆ ไปชอบคุยกัน อาทิเช่น ทะเลาะกันเรื่องง่าย ๆ ๆ น้อย ๆ เรื่องงาน ไปกระทั่งเรื่องของความเกี่ยวข้อง

ซึ่งการที่หนังใช้สีขาวดำ คิดว่ามันเป็นการเปลือยอารมณ์ของผู้แสดงในเรื่องที่แสดงออกมาได้อย่างไม่สนใจอะไรเว้นแต่สัญชาตญาณแล้วก็ความปรารถนาของตนเอง แม้กระนั้นบทนั้นจะเบา ๆ ทิ้งเงื่อนผ่านคำบอกเล่าของนักแสดงรวมทั้งสร้างเรื่องราวขึ้นมาจากคำบอกเล่าให้พวกเราคิดตามว่าที่จริงแล้ว คนไหนกันกันที่พูดเรื่องจริง หรืออะไรที่เกิดเรื่องที่ซ้อนกับข้อเท็จจริง ถามคำถามว่ามันน่าดึงดูด มันก็น่าดึงดูด

แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ มันทำให้หนังกำเนิดความสับสน ด้วยเหตุว่าหนังเล่าผ่านผู้แสดงสองตัวเพียงแค่นั้น ไม่มีอะไรที่มาชี้แจงอะไร เว้นเสียแต่จำเป็นต้องรอดูปฏิกิริยาผู้แสดง บางครั้งบางคราวก็มีฉากให้ตกอกตกใจเล่นแบบเชื่อว่า แต่ว่าหนังมันมีความดิบแล้วก็ลึกลับผ่านการแสดงที่ผู้แสดงแสดงออกมา มันทั้งยังน่าคลั่งไคล้ ไม่น่าวางใจ รวมทั้งเจ็บ มิตรภาพของวัยรุ่น

หากแม้หน้าหนังจะมองเป็นหนังดราม่าแต่ว่าก็มีความโรแมนติกผ่านผู้แสดงอยู่ แม้กระนั้นจะเป็นอารมณ์ในขณะที่พวกเรามีคู่รัก พวกเราทะเลาะเบาะแว้งกับคู่รัก พูดจาด้วยความชังเหมือนกับจะสังหารกันได้ แล้วพวกเราก็กลับมากระปรี้กระเปร่าร่วมเพศกับคู่รัก แล้วกลับมาทะเลาะกันอย่างจะเป็นจะตายอย่างเดิม บางโอกาสความรักนั้นก็อย่างกับว่า พวกเราจะเลิกทุกหนในตอนที่เถียง

แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันมันก็ยึดโยงพวกเราไว้เช่นเดียวกัน มันเป็นอะไรที่กล่าวยาก ด้วยเหตุว่าฉากเซ็กส์ในหัวข้อนี้มันไม่ใช่เลิฟซีนแบบโป๊เปลือยราวกับเรื่องอื่น ๆ แม้กระนั้นจะเป็นในทางคำบอกเล่ากับความประพฤติปฏิบัติในเชิงสัมผัสแล้วก็จะไม่มีอะไรมากยิ่งกว่านั้น อย่างที่บอกมันเป็นอารมณ์ดิบที่ตอนสุดท้ายก็เฉลยคำตอบทุกสิ่งที่เปิดโอกาสจุดสำคัญของเรื่อง ซึ่งมันก็มิได้หวือหวาหรือแปลกใหม่จากที่คิด แต่ว่าคำบอกเล่าของผู้แสดงที่แสนจะกินเวลารวมทั้งสุรุ่ยสุร่ายก็ช่วยเหลือให้คำตอบมันทรงอำนาจขึ้นมาในทันที

มิตรภาพของวัยรุ่น

ใจความสำคัญจิกกัดฮอลลีวู้ดเบา ๆ

ในเวลาเดียวกันก็จิกกัดสังคมนักวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ที่ถูกใจรีวิวหนังอย่างมีภูเขาไม่ ว่าหนังหัวข้อนี้แทรกสอดอะไรบ้าง มีหลักสำคัญอะไรน่าดึงดูด แม้ว่าจริง ๆ ผู้ผลิตบางครั้งก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจเป็นอย่างงั้น บางครั้งอาจจะเพียงแค่ต้องการทำหนังเอาบันเทิงใจก็ได้ หรือจิกกัดอนัตตาของผู้กำกับป้อมจิตใจว่างาฟ้าพยนตร์ตนเองจำเป็นต้องออกมาดีในขณะที่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่ออก

เรื่องของสีผิว ความเกี่ยวเนื่องกับคนภายในแวดวงภาพยนตร์รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับการเสพสารเสพติดที่จู่ ๆ ก็เข้ามาเป็นกลไกสำคัญของหัวข้อนี้อย่างมิได้คิดมาก่อน เรื่องของความรู้สึกของสตรีที่อยากได้เพียงแค่จุดสำคัญจากคู่รัก รวมทั้งความรู้สึกของหญิงที่มีต่อหนังสตรีแสดงที่ดูแลแล้วก็สร้างโดยเพศชาย

การแสดงออกถึงความอยากในส่วนลึกของคนเราที่มิได้สลับซับซ้อนอะไร แต่ว่าทำให้มองเห็นได้ว่าวงการฮอลลีวู้ด มันเป็นแบบงี้ แต่ว่าโชคร้ายที่มันไม่ค่อยมีกลเม็ดเด็ดพรายอะไรสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่ามันเล่าออกมาแบบแข็งทื่อ ๆ มิได้ขยี้อะไรขนาดนั้น ซึ่งโชคร้ายมากมาย พูดได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีจุดโฟกัสเพียงแต่เหตุแล้ว

กล้องถ่ายรูปที่ถ่ายทำยังให้อารมณ์ราวกับหนังสมัยก่อน ที่ไม่มีความจำเป็นต้อง มีสถานที่อะไรมากมาย เพียงแค่สถานที่กับดาราดี ๆ ก็พอเพียงแล้ว ซึ่งในส่วนของมุมกล้องถ่ายรูปก็จะมิได้มีอะไรหวือหวา แต่ว่าให้อารมณ์ เป็นการยกย่องสไตล์หนังขาวดำ อีกครั้ง รวมทั้งเพลงประกอบภาพยตร์ก็ได้ ลาบรินธ์ ผู้ครอบครองผลงานดนตรีประกอบจากยูโฟเบีย ที่ได้รับรางวัล ไอวอร์ โนเวลโล่ อะวอร์ด มาแล้วเมื่อปีก่อน

มาถ่ายทอดเพลงแจ๊สยุคหนัง 80 ที่มาช่วยส่งเสริมอารมณ์ ของนักแสดง ให้บาร์พุ่งสุดไปอีก ซึ่งมีนานาประการ แนวทั้งยังเร็วทันใจ ชักช้า เมื่อถึงฉากสำคัญอย่างฉากสู้กันทางอารมณ์ก็จะปลดปล่อยเปลือย ดิบโหดร้าย ได้ยินเสียงแผดเสียง ก่นดุด่ากันชัด ๆ ไม่ต้องมีดนตรีประกอบ แล้วก็ที่สำคัญการแสดงของเซนเดยา กับ จอห์น เดวิด นับว่าเจ๋งมากทั้งสอง

ถ่ายทอดอารมณ์ที่คละกัน ของชายหญิงที่ทั้งยังสุขสบาย ความคลั่งไคล้ แล้วก็ความเจ็บ ได้อย่างเลิศ และก็พลัดกัน แสดงฉากของตน รวมทั้งยกฐานะภาพยนตร์ความยาวกว่าชั่วโมงครึ่งได้โดยไม่หลุดออกมาจากบท หากว่าหนังจะมีตอนน่าระอาในตอนทะเลาะเบาะแว้งบางช่วงที่คิดว่ามันยาวไปหน่อย รวมทั้งการนำเสนอที่เป็นเส้นตรงเยอะเกินไป มันบางทีก็อาจจะมองสนุกสนาน เนื่องจากว่าบทสนทนา แต่ว่านอกจากนี้รวมทั้งปกติมากมาย ๆ มันวนเวียนอยู่กับข้อความสำคัญเดิมให้พวกเราคิดเรียกตัวละครจนกระทั่งบางคราวพวกเราก็บางครั้งอาจจะเผลอหลับเสียก่อน โดยยิ่งไปกว่านั้นช่วงกลางคืน