จับคนร้ายสมองเพชร

จับคนร้ายสมองเพชร มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ฟอลล์เอาท์ หนังสายลับสุดไฮป์ที่รอคอยมานาน

จับคนร้ายสมองเพชร เมื่อกระทำการที่เบอร์ลินทำให้ พลูโตเนียม หลุดรอดจนถึงเกิดเหตุก่อการร้ายสถานที่สำคัญทางศาสนา

จับคนร้ายสมองเพชร ทำให้ อีธาน ฮันต์ (ทอมครูซ) จำเป็นต้องร่วมงานกับ ออกัส วอล์คเกอร์ (เฮนรี คาวิลล์) หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาชายหนุ่มที่เกลียดเขาตั้งแต่ตอนแรกเจอ แม้กระนั้นราคาที่จ่ายเพื่อได้พลูโตเนียม อาจจะทำให้ โซโลมอน เลน (ณอน แฮริส) ผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงสุดโฉด หลุดรอดการเข้าจับกุมไปได้

ทำให้ทาง หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา และก็ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ เริ่มสงสัยในความจงรักภักดีของ อีธาน ฮันต์ (ทอมครูซ) กระทั่งเขาจำต้องพิสูจน์ตนเองด้วยการตามจับคนร้ายสมองเพชรและก็หยุดหายนะครั้งใหม่ก่อนโลกจะลุกเป็นไฟให้ควรได้.

รวมทั้งนี่ก็เป็นครั้งที่ 6 แล้วสำหรับ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล จากการนำแสดงรวมทั้งอำนวยการสร้างของทอมครูซ ก่อนหน้านี้มีผู้กำกับมากมายที่มาเติมเต็มแฟรนไชส์สายลับชุดนี้ให้ไปไกลกว่าเพียงแค่หนังรีเมคจากซีรีส์ ทั้งยัง ไบรอัน เดอพัลมา ที่ตั้งมาตรฐานการเล่าเรื่องเชิงสอบสวนสืบสวนสุดลึกลับ

แล้วก็มีกลิ่นของฟิล์มนัวร์ จอห์น วู มาสืบต่อตำนานรวมทั้งเพิ่มฉากแอ็คชั่นออกแบบงาม ๆ ส่วน เจ เจ เอบรามส์ นอกเหนือจากมาเพิ่มเติมเรื่องราวเพิ่มมิติด้านครอบครัวให้ อีธาน ฮันต์ รวมทั้งยังนำบริษัท แบด โรบอต มาร่วมอำนวยการสร้างตั้งแต่ภาค 3 จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ข่าวหนังใหม่

รวมทั้งแน่ ๆ ว่าทอมครูซ ก็ไม่ลังเลที่จะทดสอบเรื่องแปลกใหม่ด้วยการให้ แบรด เบิร์ด ผู้กำกับ รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก อนิเมชั่นซูเปอร์วีรบุรุษมาลองเชิงงานควบคุมคนแสดงจนได้หนังที่สนุกสนานรวมทั้งหลุดกรอบมากมายใน ภาคปฏิบัติการไร้เงา

กระทั่งทอมครูซ ได้พบผู้กำกับที่เสมือนลูกสมุนมือขวาแล้วก็ร่วมงานกับเขามาตั้งแต่ ยอดคนสืบระห่ำ อย่าง คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี มากำกับภาคที่ 5 อย่าง มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล 5 กระทั่งมาถึงฟอลล์เอาท์ ภาคนี้ ซึ่งก็ไม่น่าฉงนใจ ด้วยเหตุว่า แม็คควอรี สามารถเก็บเธอลักษณะเด่นของหนัง ทุกภาคไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังบทที่ย้ำสอบสวนอย่างมีท่วงที หรือ ฉากแอ็คชั่นสุดท้า ก็ทำเป็นอย่างพอดี

จับคนร้ายสมองเพชร

จับคนร้ายสมองเพชร โดยภาคฟอลล์เอาท์ นี้สิ่งหนึ่งที่สะดุดตามากมาย

สำหรับบทที่แม็คควอรีเขียนเป็นการแปลความคำว่าผลพวงหรือโทษ (ฟอลล์เอาท์) จากความห่วงใยของอีธาน ฮันต์ ทั้งยังความรักเพื่อนฝูงที่ทำให้งานเสียไปจนกระทั่งการเอ๋ยถึงผู้แสดงจากภาค 3 อย่างจูเลีย (มิเชล โมนากาน) ก็ยังเกี่ยวเนื่องกับความห่วงใยที่เปลี่ยนเป็นผลเสียตามมาถึงตัวเขารวมทั้งกลุ่มได้อย่างดีเยี่ยม

ซึ่งเปลี่ยนเป็นลูกเล่นสำคัญที่ผู้ชมจำเป็นจะต้องลุ้นครั้งใดก็ตามอีธานตกลงใจว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นบ้าง ยิ่งทำให้หนังเข้มข้นเชิญชวนติดตาม พร้อมกันไปกับปัญหาหลายประเภทอีกทั้งปริศนาว่าคนใดกันเป็น ลาร์ค ผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตัวจริงกันแน่ ไปจนกระทั่งนักแสดงต่าง ๆ ว่าคนใดกันเป็นมิตรคนไหนเป็นศัตรู

เชิญชวนผู้ชมคิดตามได้อย่างสนุกทีเดียว ซึ่งก็ทำให้ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ฟอลล์เอาท์ มีกลิ่นแบบหนังสายสมัย 80 ที่ผู้แสดงต่างสูญเสียความเชื่อถือซึ่งกันและกันได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนประกอบสำคัญหากเว้นเสียแต่ฉากแอ็คชั่นแล้วคงจะหนีไม่พ้นดาราทั้งปวงในเรื่อง ทั้งยังสายทุ่มเทอย่างทอมครูซ ที่เล่นฉากสตันท์เองจนได้รับเจ็บที่หัวเข่าในฉากกระโจนผ่านอาคาร

หรือแม้กระทั้งการทุ่มเทฝึกฝนการกระโดด ฮาโล ถึง 1 ปีเต็มเพื่อฉากแอ็คชั่นสำคัญของเรื่อง ก็ได้ผลลัพธ์ที่จะต้องกล่าวว่า ความอุตสาหะไม่เคยทรยศหักหลังคนใดจริง ๆ เพราะว่างานสตันต์ทุกฉากทุกตอนเป็นชักชวนอ้าปากหวอจริง ๆ นะมิได้เวอร์เลย

และไม่ใช่เพียงแค่พี่ทอมครูซนะ แม้กระทั้ง รีเบคกา เฟอร์กูสัน ที่กลับมาเล่นบท อิลซา ก็เล่นฉากแอ็คชั่นถึงแม้ตนเองจะท้องอยู่ก็ตาม (พอหนังปิดกล้อง อายุท้องของเธอก็ได้ 7 เดือนพอดิบพอดี)

ส่วนผู้แสดงคนอื่นทั้งยัง วิง เรมส์ ที่กลับมารับบทบาท ลูเธอร์ เป็นครั้งที่ 6 ก็ยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกผูกพันธ์ราวกับเป็นครอบครัวนักแสดงที่โตมาพร้อมกับพวกเราจริง ๆ รักกับหญิงในฝัน

ไซมอน เพกก์ ในบท เบนจี้ ก็ยังฮารวมทั้งสร้างเซอร์ไพร์สก้าวหน้ายกตัวอย่างเช่นเดิม สำหรับสมาชิกใหม่อย่าง เฮนรี คาร์วิลล์ หรือพี่ซูเปอร์แมนของพวกเราก็ทำให้ฉากบู๊ดูดุดันจำนวนมาก

แต่ว่าผู้ที่ทำให้หัวใจพองโตที่สุดเห็นจะเป็น วาเนสซา เคอร์บี้ ในบท แม่มายขาว หรือ ไวต์วิโดว์ คนกลางค้าอาวุธที่งามแบบวัวตายควายล้ม งามแบบขายบ้านขายรถยนต์ เป็นมองเห็นแล้วพร้อมหลงกลได้อย่างไม่ยากเย็นอย่างยิ่งจริง ๆ

ซึ่งแม้นุ้งเคอร์บีจะมิได้ใส่ชุดราตรีสุดหรูแบบในซีรีส์เดอะคราวน์ ทาง เน็ตฟลิกซ์ แม้กระนั้นบริเวณใบหน้าอันแสนจะเพอร์เฟกต์ของเธอก็พอเพียงให้กล้องถ่ายรูปถ่ายทอดความสวยสดงดงามในทุกฉากที่ปรากฎตัวได้อย่างดีเยี่ยม

รักกับหญิงในฝัน

ยอดสายลับ อีธาน ฮันต์ กลับมาในปฎิบัติการลับหยุดโลกครั้งใหม่

ท่ามกลางหนังซูเปอร์วีรบุรุษที่เค้าโครงเรื่องจำเจ วนเวียนอยู่ในอ่าง เช่นเดียวกันกับบรรดาหนังแฟรนชายส์หลายเรื่องที่ทำมาหากินอยู่กับกระบวนการดำเนินเรื่องแบบเดิม ๆ ซ้ำซากจำเจไม่สิ้นสุด

แฟรนชายส์อย่างมิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล –ฟอลล์เอาท์ กลับสร้างความน่าแปลกใจให้กับผู้ชมรู้สึกบันเทิงใจรวมทั้งต้องการจะเอาใจช่วยนักแสดง ทั้ง ๆ ที่หนังมิได้ดำเนินเรื่องออกนอกลู่นอกทาง สูตรหนังสายแบบที่พวกเราเคยมองมานับสิบ นับร้อยเรื่องเลยด้วย

แต่ว่าอะไรกันที่ทำให้ภาคฟอลล์เอาท์ มีความน่าดึงดูดใจขึ้นมา หนังเปิดเรื่องมาด้วยฉาก “ความฝันของอีธาน ฮันท์” ในฝันดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เขากำลังจะสมรสกับอิลซา ฟอสต์ (รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน)

แม้กระนั้นแล้วเขาก็ถูกนักบวชถามถึงความไว้เนื้อวางใจ ความปลอดภัยในชีวิต ว่าการสมรสคราวนี้บางทีก็อาจจะส่งผลให้เกิดความล่มจม แม้กระนั้นอิลซาก็ตอบตกลง

ทันทีทันใดเองกล้องถ่ายภาพก็แพนมาให้พวกเรามองเห็นหน้าของนักบวช ซึ่งเป็นบริเวณใบหน้าของโซโลมอน เลน (ฌอน แฮร์ริส) คนร้ายจากมิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล5 รวมทั้งทันทีทันใดเองระเบิดลูกยักษ์ก็ตกลงที่กึ่งกลางช่องเขา รวมทั้งร่างกายของอีธานก็สลายแปลงเป็นผุยผง

ต่อจากนั้นเขาก็ฉับพลันตื่นขึ้น เพียงแค่ความฝันฉากเดียว สามารถชี้แจงการปรากฏที่กำลังจะเกิดขึ้นในหนังภาคนี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของฮันท์และก็บรรดาคนรอบข้างของเขา

รวมทั้งยังเชื่อมโยงกับความประพฤติปฏิบัติของฮันท์ผู้ถือคติ “ไม่ทิ้งเพื่อนฝูงไว้ด้านหลัง” อันทำให้เกิดภัยรุกรามต่อคนทั่วโลก โดยภายหลังภารกิจชิง พลูโตเนียมอันเป็นองค์ประกอบของระเบิดนิวเคลียร์กำเนิดล้มเหลว

เนื่องจากว่าอีธานเป็นห่วงความปลอดภัยของลูเธอร์ (วิง รามส์) ซึ่งโดนจับเป็นตัวรับรอง เขาก็เลยเลือกจะช่วย “สหาย” ก่อน “ภารกิจ” ข้อด้อยดังที่กล่าวถึงแล้วของอีธานก็เลยเปลี่ยนมาเป็นช่องโหว่สำคัญของภารกิจ

จนถึงทำให้หลาย ๆ ครั้ง อีธานแล้วก็พวกจำเป็นต้องเสี่ยงภัย (อันเอามาสู่ฉากต่อสู้อันแสนตื่นเต้น ตื่นเต้นรวมทั้งไม่น่าเชื่อ) ซึ่งพวกเราไม่สามารถที่จะไม่ยอมรับเลยว่า ด้วยลักษณะท่าทางแบบนี้

อีธานก็เลยเปลี่ยนเป็นผู้ที่เพื่อนฝูงร่วมกลุ่มเห็นค่า จนถึงคนที่ไม่รู้จักนักอย่างไวท์วิโดว์ (วาเนสซา เคอร์บี้) นักค้าอาวุธแล้วก็โบรกเกอร์ อีธานยังให้ความใส่ใจและก็มานะดูแลความปลอดภัยให้กับเธอในฉากที่ทั้งคู่เจอกันเป็นครั้งแรก และก็นั่นเป็น “อาวุธสำคัญอีกประการของอีธาน” ก็ว่าได้

ความใส่ใจของอีธาน เปลี่ยนเป็นผลในทางที่ดีต่อภารกิจ (แล้วก็หลายคราวก็ส่งผลกระทบ) แม้กระนั้นไม่ฉงนใจเลยที่บรรดา คนคุ้นเคยใกล้ใกล้ถึงเชื่อใจเขา และก็ยอมที่จะเอาตนเองเข้าเสี่ยงตายในหลายต่อหลายหนเพื่อภารกิจสามารถเสร็จไปได้

แบบอย่างซึ่งสามารถเห็นได้ชัดที่สุดเป็นนักแสดงอย่างอิลซา ฟอสต์ที่ยอมเสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายด้วยการใช้ตนเองให้แปลงเป็นนางนกต่อบ้าง เป็นเหยื่อบ้าง แต่ว่านั่นก็เพื่อทำให้อีธาน สามารถทำภารกิจของเขาผ่านไปได้ด้วยดี

จะมองเห็นได้ว่าความสะดุดตาของหนังภาคนี้มิได้อยู่แค่เพียงงานสตันท์แมนเสี่ยงตายของอีธาน แต่เพียงผู้เดียว ในหลายคราที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ (แม้ว่าจะกุกกักรวมทั้งมีปัญหาอยู่เป็นประจำ)

แต่ว่าด้วยเหตุว่าหน่วยมิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ฟอลล์เอาท์ทำงานด้วยกันเป็นกลุ่ม ด้วยความไว้เนื้อวางใจพวกนั้น ทำให้ภารกิจอันแสนจะอัศจรรย์สามารถ เปลี่ยนเป็นเรื่องซึ่งสามารถทำเป็นจริงสุดท้าย

ราคาของความไว้ใจบางทีอาจจะไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้แค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แม้กระนั้นเวลาเพียงแค่นั้นที่จะเป็นคำตอบให้ นับว่าเป็นภาคที่สร้างมาเพื่อแฟนคลับซีรีส์นี้แบบโดยความเป็นจริง ตัวเรื่องราวเป็นการรวมเงื่อนจากหนังภาคเก่า