บ่มีวันจาก

บ่มีวันจาก เมื่อหนังลาวสาวกงล้อแห่งเวลาได้เนียนกว่าทีเน็ต

บ่มีวันจาก เมื่อทีเน็ตออกฉาย สิ่งที่คนคัดค้านกันทั่วทั้งโลกเป็น สภาวะของ “เวลา” การที่คริสโตเฟอร์ โนแลน พยายามชี้แจงห้วงการเดินทางทับซ้อน

บ่มีวันจาก เมื่อทีเน็ต ออกฉาย สิ่งที่คนคัดค้าน กันทั่วทั้งโลกเป็น สภาวะของเวลา รวมทั้งการที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน พยายามชี้แจง ห้วงการเดินทาง ทับซ้อนของ ความคิดที่เวลา

มาในขณะนี้ ต้องการที่จะ ให้ทุกคน ไปดูหนังลาว ที่เข้าโรงฉาย อยู่บ่มีวันจาก เนื่องจากนี่ เป็นหนังที่กล่าว เรื่องวงจร แห่งเวลา อาสัยที่พิงผ่านช่วง ชีวิตมนุษย์ การบิดย้อนมิติ

ประสมประสาน กับเรื่องวิญญาณ ที่ไม่ผุดเกิด ความรู้สึกตัวว่า ตัวเองผิด คดีฆาตกรรมลึกลับ รวมทั้งโลก อนาคตแบบคติไซ-ไฟ บ่มีวันจากหนังลาว ประเด็นนี้ โดยผู้กำกับแมตตี้ โด

ไปไกลกว่าหนัง แถบอุษาคเนย์ โดยมากอีกทั้ง ในทางบท ความนึกคิด แล้วก็ความเด็ดเดี่ยว สำหรับในการประสม ประสานนานาประการขนบหนัง ไม่เคอะเขิน สำหรับการรวม นิทานพื้นบ้าน

รวมทั้งโลเคชั่นคลุกฝุ่น กับความ แบบภาพยนตร์ฝรั่ง ที่ไม่โอ้อวด ทั้งหมดบนเบื้องต้น ที่เรื่องเล่าที่วิญญาณ และก็การทับซ้อน ของเวลา ชาติภพ รวมทั้งการสะสางโชคชะตา

ฟังดูเหมือน กับว่าทั้งหลายแหล่ ทั้งมวลนี้ จะมาจบได้ยังไง แต่ว่ามันก็ได้ หนังประเด็นนี้ เลื่องลือพอเหมาะ พอควรเมื่อออกฉาย ที่เทศกาลเวนิสเมื่อปี 2019 รวมทั้งตระเวณฉายตามงานต่างๆ ทั้งโลก

และก็เคยมาฉายรอบพิเศษ ที่เทศกาลหนังอาเซียน ที่กรุงเทวดา เมื่อกันยายน ปีกลายเพียงแต่รอบเดียว มาช่วงนี้หนังเข้าโรงธรรมดาแล้ว ข่าวหนังใหม่

บ่มีวันจาก

การบิดย้อนมิติประสมประสานกับเรื่องวิญญาณที่ไม่ผุดเกิด ความรู้สึกตัวว่าตัวเองผิด

บ่มีวันจาก เรื่องของเรื่องเป็น ชายชาวลาวสูงอายุ ในหมู่บ้านบ้านนอก มีความรู้และมีความเข้าใจ สำหรับเพื่อการติดต่อ กับวิญญาณที่เสียชีวิตไปแล้ว บนถนนลูกรัง ในหมู่บ้าน เขาพบวิญญาณสาว

ที่พาเขาเดินทางกลับไป ในสมัยก่อนครั้ง เขายังเป็นเด็กผู้ชาย การเหลื่อมล้ำของเวลา ยังนำมา ซึ่งการก่อให้เกิดปัญหา การฆ่าในสมัยก่อนที่บางที ก็อาจจะเกี่ยวข้อง กับแม่ของชายผู้นี้

รวมทั้งหญิงสาว คนอื่นเรื่องผี สายสืบ รวมทั้งการสังหาร ทั้งปวงนี้ เกิดเหตุในโลกอนาคต ที่มุนษย์มีบาร์โค้ด สลักไว้ที่แขน ลาวมีตลาดขายซากเครื่อง ใช้ไม้สอยไฮเทคที่ถูกทิ้งขว้าง

รวมทั้งมีเครื่องบินซูเปอร์โซนิคบินผ่านน่านฟ้าลาวตลอดระยะเวลา ช่วงเวลาเดียวกัน ถนนหนทางดินแดง วิถีชาวบ้านและก็ความแล้งของต่างจังหวัดยังคงไม่หายไปไหน ด้วยเหมือนกัน

ที่อ้างถึงทีเน็ต เนื่องจากคนเขียน ต้องการเปรียบหนังสองเรื่องให้เห็นกัน ในช่วงเวลาที่ทีเน็ตชี้แจงเรื่อง “เวลา” แล้วก็การเดินทางย้อนไปด้วยเหตุผลแบบฟิสิกส์ (เอโทรปี และก็อื่นๆ)

และก็ใช้วิธีทางภาพ (การเดินย้อนไป) แล้วก็ฉากที่ “เลคเชอร์” ผู้ชมว่าตรรกะอันสลับซับซ้อนของหนังดำเนินงานยังไง (ซึ่งชี้แจงและก็ยังไม่รู้เรื่องทั้งหมดทั้งปวง)

เอาง่ายๆทีเน็ต เป็นภาพยนตร์ฝรั่งที่คิดแบบฝรั่ง ใช้หลักเหตุผลรวมทั้งวิทยาศาสตร์ เพื่อรองรับความสนุกสนาน ของเรื่องราวการผจญภัยย้อนเวลา ในทางตรงกันข้าม และก็บางที

ก็อาจจะเห็นผลกว่าด้วยบ่มีวันจาก กลับไม่พยายามชี้แจง “เวลา” ด้วยเหตุผลหรือกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์อะไรก็ตามแม้กระนั้นหนังกลับกล่าวถึงความคิดที่เวลาในแบบปรัชญาพื้นเมือง

ผีในที่นี้ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ และก็การย้อนเวลาไป มองเห็นอดีตกาลก็ไม่ได้เกิดขึ้นด้วย สูตรคำนวนหรอเครื่องไม้เครื่องมือท่องเวลาไหนๆ(อย่างในภาพยนตร์ฝรั่งที่เกี่ยวกับ

ดูเหมือนจะทุกเรื่องควรจะมี) กลับเกิดเรื่องชาติโลก และก็การรับทราบที่ความสำนึก ข้อแตกต่างอย่างชัดเจนเป็นทีเน็ต สนุกสนาน ตื่นเต้น แอคชั่นเยอะแยะ แต่ว่าเพียงพอถึงเรื่องคติลึกซึ้ง

ที่เวลา” หนังกลับแข็งทื่อ ไร้อารมณ์ และก็แปลงเป็นชั้นเรียนฟิสิกส์ให้ผู้ชมไปโต้เถียงกันต่อเพื่อโชว์ความรู้ความเข้าใจ (ราวกับเตรียมความพร้อมในการไปสอบกับโนแลนอะไรอย่างงั้น)

ส่วนบ่มีวันจาก กลับใช้คติเรื่องเวลา เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของการพูดเรื่องความซึมเศร้า ความบกพร่อง รวมทั้งการไถ่บาป เวลาในหนังลาวหัวข้อนี้มีมิติของความคร่ำครวญหา

และก็ความมานะบากบั่นของมุนษย์สำหรับการก้าวผ่านความจำกัดของกายแล้วก็จิต รวมทั้งจบลงด้วยการใช้ลักษณะเด่นของสื่อภาพยนตร์เพื่อรทำให้ผู้ชมสัมผัสอารมณ์อันนานัปการ มากยิ่งกว่า

เพียงเป็นการโชว์ความสลับซับซ้อนของเรื่องเล่าแค่นั้น บอกอย่างนี้ก็ไม่ได้มีความหมายว่า บ่มีวันจากขายความ “เอเชีย” หรือเน้นความ หรืออย่างที่ถูกใจใช้คำว่า (ฟังแล้วจั๊กจี้

ด้วยเหตุว่าคำนี้วงไหนๆก็เค้าเลิกพูดกันไปยาวนานมากแล้ว) หนังมีความซื่อสัตย์พอเพียงในแบบของตน และก็มีความฉลาดและก็ท่วงทีเพียงพอสำหรับเพื่อการขยับชายแดนเรื่องเล่า

และก็หาส่วนประกอบระหว่างความแคว้นและก็ความอินเตอร์ได้อย่างไม่ขวยเขิน ไม่ดูตั้งใจ เอ๋ยถึงผู้กำกับแมตตี้ โด สักนิดหน่อย แมตตี้ เป็นคนลาวที่เกิดรวมทั้งโตที่อเมริกา

ภายหลังบิดามารดาของคุณย้ายถิ่นไปข้างหลังเวียงจันทน์แตก คุณเรียนมาทางเป็นนักเต้นบัลเลท์ แล้วก็กลับมาอาศัยอยู่ในลาวได้ยาวนานหลายปีแล้วแล้วก็มักสนทนาติดต่อสื่อสาร

ด้วยภาษาลาวบ่มีวันจาก เป็นหนังเรื่องที่ 3 ของคุณ ต่อจาก หนังผีเรื่อง น้องฮัก และก็ หนังของคุณมีความลาวแท้ๆไม่หลอกลวง อีกทั้งภาษา ดาราหนัง และก็บรรยากาศ เวลาเดียวกัน

หนังของคุณมีความแข็งแรงที่บท และก็มีลีลาท่าทางสำหรับการเล่าที่ใจเย็นและไม่เปิดเผยราวกับหนังอุษาคเนย์จำนวนหลายชิ้น วอนเธอ