มีเกียรติตามคติ

มีเกียรติตามคติ ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา ฉบับแอ็กชั่นแฟนตาซี แอบแฝงวิถีซามูไร

มีเกียรติตามคติ ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา องครักษ์ของโนบุนางะที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่น

มีเกียรติตามคติ เป็นฉบับแอ็กชั่นแฟนตาซี กราฟฟิค ฉากแอ็กชั่นเพียบ ดำเนินเรื่องสไตล์ซามูไรพ่อลูกอ่อน ผลงานโดยสตูดิโอ มับบะ ซึ่งเป็นสตูดิโอเดียวกับที่สร้าง ผ่าพิภพไททัน ฤดูกาล4 ตัวเรื่องซ่อนเร้นวิถีซามูไรและก็บูชิโดแบบย่อยง่าย กล่าวถึงเรื่องเกียรติยศของนักสู้ แล้วตัวเรื่องยังเสนอการวิจารณ์ความไม่ลงรอยกันระหว่างแนวความคิดอนุรักษ์นิยมแล้วก็เสรีนิยม ได้ผลสำเร็จงานดูแลโดย เลอฌอน โทมัส เป็นอนิเมะแบบมินิซีรีย์ 6 ตอนสุดท้ายซีซัน

ซึ่งจริงๆแล้วในเรื่องสามารถแบ่งเป็น 2 บทใหญ่ได้เป็น เวลาที่ 1-3 แล้วก็ ขณะที่ 4-6 มีพากษ์ไทยด้วย สำหรับเรื่องราวของยาสึเกะ เป็นซามูไรผิวสีคนแรกและก็ผู้เดียวในประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นที่มีตัวตนจริง มีชื่อถูกบันทึกเอาไว้ภายในเอกสารประจำเครือญาติโอดะ และก็มีเรื่องมีราวเล่าล้นหลาม เป็นที่แพร่หลายในประเทศตะวันตก จนถึงเป็นต้นแบบของซามูไรแอฟโฟร่ด้วย

เรื่องราวของหนุ่มน้อยผิวสีร่างใหญ่จากแอฟริกาที่เดินทางมาในประเทศญี่ปุ่นในปี คริสต์ศักราช 1579 กับมิชชั่นที่เข้ามาทำเผยแผ่ศาสนาคริสต์และก็ค้าขายขายกับเหล่าไดเมียวในสมัย “เซ็นโกระอุ” สมัยสงครามกลางเมืองระหว่างแว่นแคว้นของเหล่าไดภรรยาวรวมทั้งซามูไร แล้วด้วยชะตากรรมเขาก็ได้โอกาสได้เจอกับ โอดะ โนบุนางะ หัวหน้าที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้ากว่าคนอื่นๆ โนบุนางะติดอกติดใจความรู้ความเข้าใจแล้วก็ทัศนคติต่อเรื่องความทรงเกียรติของชายผิวสีคนนี้มากมาย ก็เลยได้ตั้งชื่อให้ว่ายาสึเกะ

แล้วด้วยความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการต่อสู้ และก็ความแข็งแกร่งเหนือคนธรรมดาทั่วไปทำให้ยาสึเกะเปลี่ยนเป็นผู้พิทักษ์คนสำคัญข้างกายโนบุนางะ ผู้ซึ่งเป็นเลิศในสามผู้มีอิทธิพลที่ทำศึกรวมทั้งญี่ปุ่น และก็ยังเป็นผู้วางรากฐานคนแรกด้วย แม้กระนั้นแล้วในปี คริสต์ศักราช 1582 โนบุนางะ กลับถูกอาเคจิ มิตสึฮิเดะ คิดคดทรยศ บุกจู่โจมที่วัดฮอนโนจิ โนบุนางะก็เลยได้ทำฮาความมัวหมองรีตนเอง โดยมียาสึเกะรับคำสั่งเป็นผู้ทำบั่นหัว ซึ่งนับว่าเป็นคำบัญชาท้ายที่สุดที่เขาได้รับ ข่าวหนังใหม่

ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นหน้าที่มีเกียรติตามคติของซามูไร แม้กระนั้นมันกลายเป็นฝันร้ายของยาสึเกะผู้จงรักภักดีต่อนายจ้างยิ่งชีพ แล้ว 20 ปีถัดมา ภายหลังญี่ปุ่นถูกรวมเป็นเยี่ยมได้แล้วภายใต้การนำของ โทกุงาวะ อิเอยาสึ แล้วตั้งรัฐบาลโชกุนขึ้นมาดูแลประเทศ ไม่มีการทำศึกเกิดขึ้นอีกยาสึเกะ ซึ่งเบื่อหน่ายชีวิตในชีวิต ได้หลบตัวอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ดำรงชีวิตทุกวันไปกับการดื่มสุรา วิธีการทำอาชีพจับปลา แล้วก็ช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้าน เป็นหวานใจปรารถนาของประชาชน

จนกระทั่งวันหนึ่ง สองแม่ลูก อิจิกะ รวมทั้งซากิ ได้ขอความช่วยเหลือให้ยาสึเกะช่วยเป็นคนป้องกันพาซากิที่ล้มป่วยหนักเดินทางขึ้นเหนือไปพบแพทย์ดีเลิศ หากว่ายาสึเกะจะไม่เห็นพ้องก็ตาม ทั้งยังเขาในระหว่างคุ้มครองสองแม่ลูก เขายังเจอยี่ห้อเครื่องหมายที่ทำให้เขารู้สึกนึกถึงเพื่อนเก่าเป็น “นัตสึมารุ” ซามูไรหญิง หรือที่เรียกว่า อนนะบูเกอิชา ซึ่งพวกเขาเคยอยู่ในสังกัดของโนบุนางะร่วมกัน

แต่แล้วยาสึเกะก็พบว่า ซากิ มีความลับแปลกประหลาดซุกซ่อนไว้ และก็กำลังถูกกลุ่มชนที่มีพลังร้ายกาจตามล่าตัวอยู่ด้วยนั่นทำให้เขาถูกลากเข้ามาพันพัวกับการต่อสู้ที่ทำให้เขาจะต้องปลุกจิตวิญญาณทหารกลับมา เพื่อการคุ้มครองป้องกันชีวิตของเพศหญิงรวมทั้งเด็กอีกทีหนึ่ง

มีเกียรติตามคติ

มีเกียรติตามคติ งานสร้างบรรเจิด แต่ว่าเตะความสมเหตุผลทิ้งไปก่อน

มีเกียรติตามคติ ข้อดีสำคัญของอนิเมะหัวข้อนี้เป็น โปรดักชั่น และก็ งานกราฟฟิค ที่อยู่ในระดับที่ถือว่าไม่ดี รับประกันผลงานโดยสตูดิโอดังอย่าง แมบบะ ที่ส่งผลงานอย่างผ่าโลกไททันฤดูกาล4 รวมทั้ง มหาเวทย์ผนึกมาร เพียงแต่รูปแบบของอนิเมชั่น เป็นการสร้างในสไตล์ ประเทศญี่ปุ่น+ตะวันตก ฉะนั้นภาพรวมของงานออกแบบคาแรคเตอร์ งานภาพรวมทั้งโมชั่นขยับเขยื้อนก็เลยมองมีความแข็งแรงในแบบอนิเมชั่นตะวันตกอยู่บ้าง แต่ว่าก็ดูราวกับว่าเป็นความเจตนาของกลุ่มสร้างที่อยากที่จะให้ออกมาในสไตล์นี้

ส่วนที่ว่าให้เตะเหตุผลทิ้งไปนั้น ด้วยเหตุว่าเพียงประเด็นนี้เปิดมาฉากแรก ก็จัดความกระหน่ำเทือกเขาเผากระต๊อบวายวอดสันตะโลซัดกันด้วยพลังสุดยอดเยี่ยม เสมอเหมือนผู้ผลิตกำลังบอกคนดูแล้วว่า ข้อเท็จจริงแล้วนี่เป็นอนิเมะแอ็กชั่นแฟนตาซี ที่เอาสมัยซามูไรมาเป็นแบ็กกราวน์ ไปจนกระทั่งการนำเสนอหัวข้อไม่ ตรงกันระหว่าง วิถีเก่า กับ วิถีใหม่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามันเป็นการเป็นอนิเมะที่เสนอการต่อสู้ระหว่าง อนุรักษ์นิยม รวมทั้ง ลัทธิเสรีนิยม

ฉากแอ็กชั่นและก็ดนตรีประกอบ ก็นับได้ว่าเป็นข้อดีของเรื่อง ถึงแม้ฉากฟันดาบแล้วก็ฉากต่อสู้ในเรื่องจะไม่ถึงระดับยอดเยี่ยม แต่ว่าก็เข้าขั้นดีโดยเฉลี่ย รวมทั้งความดิบ ชั่วร้าย เลือดสาด มองแบบย้ำความหนำใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสองตอนสุดท้ายที่จัดเต็มด้านกราฟฟิคและก็ฉากต่อสู้อีกทั้งในแบบปะทะกองทัพรวมทั้งปะทะกับบอสใหญ่ที่ทรงอำนาจ ซึ่งตัวยาสึเกะมิได้มีพลังพิเศษอะไรก็ตาม ซีรีส์ฟอร์มยักษ์

แม้กระนั้นอาศัยกำลังที่หนักแน่นว่าคนธรรมดาทั่วไปแล้วก็ความชำนาญในวิชากระบี่รวมทั้งการต่อสู้เข้าปะทะกับเหล่าศัตรูที่มีพลังเหนือมนุษย์ การวิพากษ์วิจารณ์ประวัติศาสตร์ในเรื่อง นอกนั้นยังมีความบากบั่นตีความหมายเรื่องของวัฒนธรรมซามูไรของประเทศญี่ปุ่นกับเหล่าทหารในประวัติศาสตร์สมัยเซ็นโกลุกอีกประเด็นหนึ่ง และก็หลายหัวข้อมีความร่วมยุคกับโลกช่วงปัจจุบันอย่างยิ่ง ทำให้อนิเมะหัวข้อนี้มีการแอบแฝงนัยยะของการติชมและก็จิกกัดสังคมโลกเข้ามาด้วย

แม้กระนั้นตัวเรื่องก็มิได้มัวแต่วิพากษ์สังคมเป็นหลัก ส่วนใดส่วนหนึ่งที่อนิเมะทำเป็นดีก็คือ การนำเสนอภาพ “ประวัติศาสตร์การสู้รบ” ในสมัยเซ็นโกปะทุ โดยยิ่งไปกว่านั้นการทำสงครามศึกเทนโช ที่โนบุนางะบุกจู่โจมพวกนินจาอิงะ ไปจนกระทั่งภาพความไม่ลงรอยกันระหว่างโนบุนางะและก็เหล่าบริวารโดยมากที่ยังคงยึดมั่นคติเก่าของเหล่าซามูไร ซึ่งแปลงเป็นชนวนการขัดกันที่ทำให้โนบุนางะถูกต้านจากผู้คนทั่วๆไปในสมัยนั้น โดยเรื่องราวในส่วนนี้จะถูกเล่าผ่านสายตาของยาสึเกะ ที่เป็นเหมือนผู้เห็นเหตุการณ์ของประวัติศาสตร์

ซีรีส์ฟอร์มยักษ์

เพราะเหตุใดโนบุนางะก็เลยถูกมิตสึฮิเดะทรยศหักหลัง

การพยายามชี้แจงต้นเหตุว่าเพราะเหตุใด โนบุนางะ ก็เลยถูกมิตสึฮิเดะ คิดคดที่วัดฮอนโนจิ โดยในอนิเมะตีความหมายเรื่องการขัดกันทางความนึกคิดของคนทั้งคู่ ที่โนบุนางะปรารถนาเปลี่ยนสังคม มอบโอกาสเพศหญิงอาทิเช่นนัตสึมารุและก็บุคคลภายนอกอย่างยาสึเกะให้ได้เป็นซามูไร ซึ่งธรรมดาแล้วรักษาไว้ให้เพศชายประเทศญี่ปุ่นและก็มักจำเป็นต้องให้ชนชั้นสูงเพียงแค่นั้น (อันที่จริงแล้ว อนนะบูเกอิชา หรือ ซามูไรหญิง เป็นที่สิ่งที่มีมานานแล้วในสังคมประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีบุคคลที่ได้ตำแหน่งพวกนี้ไม่เท่าไรนัก แต่ว่าคนจำนวนไม่น้อยมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์)

สำหรับหัวข้อการแต่งยาสึเกะ ขึ้นมาเป็นซามูไร ถือได้ว่าหนึ่งในสิ่งที่แสดงความผ่าเหล่าผ่ากอรวมทั้งฉีกกฎระเบียบเริ่มแรกของโนบุนางะ ที่ไม่สนใจพื้นเพของยาสึเกะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่ง เป็นชาวผิวสีดำ รวมทั้งเป็นขี้ข้ารับใช้ของมิชชั่น แต่ว่าเมื่อโนบุนางะรู้สึกชื่นชอบรวมทั้งมีความคิดเห็นว่าเป็นคนเก่งกล้า เขาก็พร้อมจะมอบตำแหน่ง รวมทั้งมอบโอกาสเป็นนักสู้ สร้างผลงานในสนามรบ

ซึ่งในอนิเมะก็จะขับเน้นย้ำวิสัยทัศน์นี้ของโนบุนางะออกมา แต่ว่าอีกทางหนึ่ง ในอนิเมะก็พรีเซนเทชั่นเช่นเดียวกันว่าประเด็นนี้ทำให้มีใครหลายๆคนไม่พึงพอใจโนบุนางะ นอกจากนั้นโนบุนางะก็มีความเหี้ยมโหดอำมหิตสำหรับเพื่อการฆ่าศัตรู รวมทั้งเพศหญิงและก็เด็ก ซึ่งทำให้ลูกน้องของเขาบางบุคคลเองก็ไม่ชอบใจนัก จุดบกพร่อง การใช้คำว่าวิถีเก่าแล้วก็เกียรติยศที่มองเลื่อนลอย เป็นที่โชคร้าย เพราะว่านี่เป็นการเล่าสังคมประเทศญี่ปุ่นและก็วิถีซามูไรด้วยสายตาของชาวต่างชาติก็ว่าได้

ด้วยเหตุว่าถึงแม้ว่าการพรีเซนเทชั่นใจความสำคัญเรื่อง “เกียรติยศ” เป็นสิ่งที่ถูกเอ๋ยถึงเกือบจะตลอดทั้งเรื่องโดยมีตัวยาสึเกะเป็นผู้ที่พูดพร่ำออกมาบ่อยมาก รวมทั้งซามูไรผู้อื่นในความจำของเขา แต่ว่าการกล่าวถึงเรื่องเกียรติยศในอนิเมะหัวข้อนี้ค่อนข้างจะลอยๆแม้กระนั้นก็มีใจความสำคัญที่หนักแน่นอยู่บ้าง โดยยิ่งไปกว่านั้นหัวข้อการคุ้มครองป้องกันสตรีแล้วก็เด็กที่ยาสึเกะย้ำตั้งแต่ทีแรก

แต่ว่าที่เหลือยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนจะใช้คำว่าเกียรติยศค่อนข้างจะมากเกินไปมากมายไปสักนิดสักหน่อย เหมือนกับการพูดพร่ำเรื่องวิถีเก่าของมิตสึฮิเดะ รวมทั้งเหล่านักสู้ผู้อื่นซึ่งก็มองเลื่อนลอยเหมือนกัน จนถึงมองจนกระทั่งจบและยังยากจะบอกให้คนธรรมดาทั่วไปรู้เรื่องได้ว่า วิถีเก่ารวมทั้งเกียรติยศในความหมายที่อนิเมะหัวข้อนี้อยากเสนอขึ้นมา มันเป็นอย่างไรกันแน่

นี่ถือได้ว่าข้อเสียเลยก็ว่าได้ เพราะว่าอนิเมะมีความเพียรพยายามด้อยคุณประโยชน์ของวิถีเก่าของซามูไรมากจนเกินความจำเป็นโดยมิได้ชี้แจงประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับความหมายของวิถีเก่าเลย จนกระทั่งเรื่องทำให้ดูอย่างกับว่าพวกซามูไรพวกนั้นเป็นพวกคร่ำครึและก็เป็นตัวร้ายต่อความนึกคิดแบบลัทธิเสรีนิยมไปซะหมด ทั้งๆที่ตัวเรื่องเองก็มิได้พรีเซนเทชั่นให้พวกเราเห็นกระจ่างถึงความหมายโดยกว้างของวิถีเก่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังของเรื่องหลักสำคัญกลุ่มนี้กลับเบาบางลงไปเรื่อยจนกระทั่งแทบมิได้มีความหมายกับแก่นหลักของเรื่องอีก อีกจุดที่ด้อยเป็น การนำเสนอภาพของพวกนินจา เช่นเดียวกันกับเป็นนักสู้แนวหน้า ซึ่งอันนี้เป็นภาพลักษณ์ที่ฝรั่งมองดูชัดๆและก็ขัดกับข้อเท็จจริง เนื่องจากพวกนินจามิได้เป็นฝูงชนที่จะถือกระบี่ออกมารบกับซามูไรกึ่งกลางสนามรบ แล้วก็คนพวกนี้มิได้พอใจเกียรติยศของซามูไรด้วย เนื่องจากวิถีคิดแตกต่าง ทำให้ฉากที่ยาสึเกะจำเป็นต้องมาบุกพวกอิงะเปลี่ยนเป็นฉากต่อสู้ที่มองขัดสายตามากมาย ๆ