ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง

ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง – “ค่อยกว่าห้าวเป้งแรกแน่นอนแม้กระนั้นงามกว่าห้าวเป้งแรกมากไม่น้อยเลยทีเดียว”

ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง เรื่องย่อ ‘เปิ้ล นาคร หินผาชัย’ แล้วก็ ‘เป้ นฤบดี เวชศาสตร์’ กลับมาอีกทีกับหนังอภิมหาการแกงแห่งปี

ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง เมื่อพวกเขาจำต้องมารับหน้าที่สอนวิชาความเป็นไอดอล พร้อมทั้งวิชา “แกง” ให้กับ CGM48 ป๊าเปิ้ลก็เลยเชิญชวน 4 ซูเปอร์สตาร์ตัวเป้งของแวดวงรื่นเริงไทย มาร่วมสอนวิชาไอดอลให้กับน้องๆแม้กระนั้นแล้วพวกเขาก็โดน “ซ้อนแผนแกง” ในแบบห้าวเป้งที่ไม่มีสคริปต์ ไม่มีคัต มีแม้กระนั้นเตี๊ยม

ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง

ภายหลังที่หนังเรียลลิตี มูฟวีเรื่องแรกอย่าง ‘แส่ห้าวเป้ง’ (2552) ออกฉาย ก็ดูราวกับว่าเกือบจะไม่มีหนังที่มีแนวการแกล้งกันออกมาให้มองเห็นเลย แน่ๆเกี่ยวกับกระแสข่าวก็ส่วนหนึ่งส่วนใด หากแม้ ‘เปิ้ล-นาคร หินชัย’ และก็ผู้กำกับคู่บารมีเพื่อนสนิท ‘เป้-นฤบดี เวชศาสตร์’ ก็หมั่นทำหนังออกมาเรื่อยทั้งยัง ‘ดูดคู่กู้โลก’ (2555) หรือหนังโรแมนติกคอเมดี้ผสมผีอย่าง ‘Low Season สุขสันต์วันไม่มีคู่’ (2563) แม้กระนั้นทั้งผองก็มิได้เฉียดฉิวใกล้กับหนังแนวแกง (แกล้ง) ที่พวกเขาเคยทำในสมัยก่อนสักเท่าไหร่

สิบสามปีถัดมา ภายหลังการบรรลุผลของ ‘แส่ห้าวเป้ง’ ‘ป๊าเปิ้ล นาคร’ YouTuber สายฮา รวมทั้ง ‘พี่กระเป๋า-นฤบดี’ ที่เพิ่งจะประสบผลสำเร็จกับการดูแลภาพยนตร์ ‘Low Season สุขสันต์วันไม่มีคู่ครอง’ จู่ๆก็ขอกลับมารีเทิร์นสู่ทางที่การแกงอีกรอบ พร้อมชวน 4 ตัวเป้งแวดวงสำราญใจอีกทั้ง ‘แจ็ค แฟนฉัน’ ‘น้าเน็ก’ ‘ตัด กันตถาวร’ ‘ยังโอมแล้วก็เพื่อนพ้องๆ‘รวมพลเป็น ‘ขบวนแกง’นำเอาวิชาความรู้แล้วก็ประสบการณ์ระดับห้าวเป้ง ไปสอนให้กับน้องๆสมาชิกวงไอดอลสมาชิกใหม่หมาดๆอย่าง ‘CGM48’

แน่ๆว่าเพียงพอเป็นการกลับมาบนถนนหนทางสายแกงในต้นแบบภาพยนตร์ของพี่เปิ้ล แล้วก็พี่กระเป๋า คนจำนวนไม่น้อยแม่น้ำคงคาดหวังในใจลึกๆแน่ๆว่า จะสามารถสู้ได้เสมอกันหรือฮาหนำใจได้เสมอกันกับที่เคยทำเอาไว้ภายในสมัยก่อนไหม หากว่าทั้งคู่เรื่องเป็นหนังที่บันทึกการแกล้งกันแบบจัดหนักจากเหตุการณ์จริง

ผสมเหตุการณ์เซ็ตถ่ายอินเสิร์ตอีกนิดหน่อย แม้กระนั้นข้อแตกต่างจาก ‘แส่ห้าวเป้ง’ อย่างเห็นได้ชัด อาจจะคือเรื่องของน้ำหนักสำหรับในการแกล้งกัน รวมทั้งแนวทางการเล่า Situation การแกงในลักษณะต่างๆให้ออกมาพอดีนี่แหละครับผม

ในตอนที่ ‘จุ้นจ้านห้าวเป้ง’ เป็นหนังแคนดิตดิบๆที่เน้นการแกล้ง 2 ชายหนุ่มบุคลากรใหม่ ซึ่งเป็นการแกล้งที่ออกจะย้ำคำตอบทางภาพยนตร์มากยิ่งกว่า เอาง่ายๆก็คือ ย้ำแกล้งฮาๆให้หนำใจ รวมทั้งเพิ่มความแรงสำหรับในการแกล้งไปเรื่อยแบบไม่มีเกรงอกเกรงใจเพื่อเน้นย้ำอารมณ์ให้เอาจริงเอาจังขึ้น อีกทั้งฮา ทุกข์ใจ เครียด อื่นๆอีกมากมาย แถมยังเป็นหนังที่แกล้งกันแบบแมนๆแรง ดิบ สด ที่เป็นภาพลักษณ์ห้าวๆห่ามๆสไตล์แส่อยู่แล้ว ข่าวหนังใหม่

ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง

แม้กระนั้นใน ‘ห้าวเป้งขา อย่าแกงน้อง’ นั้น จำเป็นต้องบอกแล้วก็ออกสตาร์ทแรงๆดริฟต์เบิร์นล้อไหม้ก่อนเลยจ้ะขอรับว่า ถ้าเกิดจะมองเพื่อหวังว่า พี่เปิ้ลจะคิดอะไรแรงๆเพื่อแกล้งน้องๆหรือแม้กระทั้งแกงพี่ๆแล้วก็หวังว่าจะได้ลูกฮาจากความโกรธ หรือโดนแกล้งจนถึงร้องไห้ หรือไม่ก็แกล้งกันแบบเฉียดฉิวตายแบบพี่กิน จ๊กม๊ก ในตำนาน คงจะจำเป็นต้องให้เวลาทำใจครับ

เนื่องจากว่าหนังหัวข้อนี้มีความเป็นสารคดี ครึ่งหนึ่งหนังแนว Candid Camera ที่สร้างสถานการณ์สำหรับในการแกง และก็การเช็ดกแกงแบบห้าวเป้งสไตล์พี่เปิ้ล ที่มีการสร้างสถานการณ์การแกงเข้าไปแทรกสอด คนชอบดูหนังแฟนตัวยงเป้าหมายว่า ต้องการดูหนังสไตล์ห่ามๆขำขันๆแกล้งแรงๆ

แบบพี่เปิ้ล บางทีอาจผิดรสถูกชาติกับการแกงสไตล์พี่เปิ้ลในยุคนี้ ที่ครั้งนี้ย้ำความฟีลกู้ด มีการวางการแกงให้กับน้องๆรวมทั้งพี่ๆศิลปินที่มาสอนน้องๆมากยิ่งกว่าจะเป็นแกงแบบขยี้บ่อยๆหรือแกล้งให้เคือง เพื่อหวังผลลัพธ์ความฮาแบบสาแก่ใจ

ซึ่งทั้งสิ้นทั้งหมดนี้ ทำให้หนังหัวข้อนี้บางทีอาจมิได้เป็น ‘ภาพยนตร์ตลก’ จากการแกล้ง ราวกับอย่างที่พวกเรามองเห็นจากหน้าหนังพลาดท่าเดียว แต่ว่ายังมีความเป็น ‘สารคดี Senpai’ ที่ฉายให้มองเห็นเรื่องราวการต่อสู้ของน้องๆCGM48 ที่มีไม่เหมือนกัน เบิกบาน มองได้เพลิดเพลินๆไม่ดึงดราม่า

เป็นสารคดีตามติดชีวิตน้องๆในระยะแรกที่เข้าวง โดยยิ่งไปกว่านั้นปัญหาฟั่นเฟือนๆแปลกๆที่เข้ามาแกงน้องแบบหยอกเย้าๆในสไตล์ “สอนไป แกงไป” ที่ทำให้ได้มองเห็นรอยยิ้ม น้ำตา การต่อสู้ และก็มิตรภาพของน้องๆรวมทั้งเลือกไปแกงแรงๆกับพี่ๆศิลปินอีกทั้ง 4 คนซะมากยิ่งกว่า

ตลอดทั้ง 1 ชั่วโมง 50 นาทีของหนัง จริงๆจำต้องกล่าวได้ว่าตัวหนังโดยรวมทำออกมาได้มองเพลิดเพลินดีทีเดียวครับผม หลายๆมุกก็ฮาใช้ได้เลย แต่ว่าสิ่งที่เป็นข้อคิดเห็นใหญ่ๆเลยก็คือไดนามิกของตัวหนังอีกทั้งเรื่องที่มีลักษณะอาการเบาๆเนือยๆบ้าง ซึ่งคงจะเป็นผลมาจากการตัดต่อที่จำต้องปันเวลาส่วนใดส่วนหนึ่งไปกับการเล่าเรื่องน้องๆไหนจะแก๊กสไตล์พี้เปิ้ลอีก

โดยยิ่งไปกว่านั้นพาร์ตการแกงศิลปิน ที่แท้ๆทำเอาไว้ดีแล้วก็ฮามากๆส่วนตัวมีความคิดว่าคงจะยาวกว่านี้ได้ แม้กระนั้นหลายพาร์ตกลับโดนตัดสั้นสั้นจนกระทั่งอารมณ์ค้างเติ่งและก็เสียดายอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นเอาจริงเอาจังๆขนาดตัดมากขนาดนี้ หนังยังยาวเกือบจะสองชั่วโมงเลยจ้าเนี่ย 555

แล้วก็หากถามนักเขียน ที่มองในมุมของแฟนๆน้องๆCGM48 จริงๆก็จำเป็นต้องนับได้ว่าเป็นหนังสารคดีที่ดีเยี่ยมๆเรื่องหนึ่งเลยจ้าขอรับ เป็นหนังสารคดีน้ำดีที่ไม่เน้นย้ำดราม่า แต่ว่าแตกต่างกันด้วยความฮารวมทั้งการแกงนี่แหละ

ซึ่งส่วนตัวคนเขียนถูกใจฉากเปิดมากมายๆครับผม ถ้าหากมองกันผิวเผิน บางทีอาจมีความคิดว่านี่เป็นแค่เพียงการแกงนิดๆหน่อยๆแม้กระนั้นในเชิงแฟนๆ คนเขียนรู้สึกถูกใจฉากเปิดนี้มากมายๆนะครับ เพราะว่านอกเหนือจากจะเล่าแก่นแกนเรื่องราวทั้งผองของหนังได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ได้มองเห็นความเป็นไอดอลของน้องๆ

ที่กำลังจะเริ่มฉายแววแล้ว ยังได้มีความคิดเห็นว่า ที่จริงแล้วผู้ที่รักน้องๆไอดอล ไม่ว่าจะวง CGM48 และก็ BNK48 ด้วยความเอ็นดูตะมุตะไม่ แล้วก็รักในตัวน้อง และก็ผลงานของน้องๆน่ะ มันมีอยู่จริงๆครับผม

แน่ๆว่า หนังหัวข้อนี้บางทีอาจไม่ใช่ภาพยนตร์ตลกที่ฮาที่สุด แล้วก็บางทีอาจไม่ใช่หนังแนวแกงของพี่เปิ้ลเป้าหมายว่าจะไปดูเพื่อความเฮฮาหนำใจ ขำตัวโยนด้วยเหตุว่าได้มองเห็นศิลปินโดนแกง แต่ว่ามันเป็นภาพยนตร์ตลกฟีลกู้ดที่มองได้เพลิดเพลินๆ

ดูแล้วได้อีกทั้งรอยยิ้มแล้วก็ตลกขบขัน ผสมความเป็นสารคดีที่ทำให้พวกเราได้มองเห็นความน่ารักน่าเอ็นดู แล้วก็ความดวงใจสู้ของน้องๆต่อปัญหาบ้าๆของพี่เปิ้ล ที่คนเป็นแฟนๆดูแล้วได้ฮาได้ซึ้ง ส่วนผู้ที่ไม่ใช่แฟนๆ ดูแล้วอาจอินจนกระทั่งต้องระมัดระวังตนเองไว้ให้ดีๆ

เนื่องจากว่าตั้งอกตั้งใจให้ ห้าวเป้งคะอย่าแกงน้อง เป็นภาพยนตร์ออร์แกนิกฟิล์มถ่ายรูป ที่สด แหวก และก็เหมือนจริงในทุกเรื่อง การกลับมาของโปรเจกต์ห้าวเป้งในตำนาน พร้อมสร้างเสียงหัวเราะแก่ผู้ชม

ที่นึกถึงความสนุกสนานร่าเริงในสไตล์แคนดิตจากเจ้าตำรับตัวจริงอย่าง เปิ้ล-นาคร หินชัย รวมทั้ง กระเป๋า-นฤบดี เวชศาสตร์ ที่ใช้เวลาถ่ายทำมากยิ่งกว่า 1 ปี 3 เดือน ช่วงเวลาสำหรับการตัดต่อจำพวกผ่านปี เรียกว่าทั้งยังยาก และก็เต็มไปด้วยความท้าสำหรับการไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในทุกนาที

ซึ่งนี่เป็นเสน่ห์ของหนังสไตล์ห้าวเป้ง โดยเฉพาะการแกงไอดอลสมาชิกใหม่ CGM48 พร้อมทีเดียว 25 คน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การแกง ซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อน เนื่องจากว่าทุกคนตั้งแต่คณะทำงานจนกระทั่งนักแสดงจำเป็นที่จะต้องไม่มีผู้ใดทราบ เรื่องราวถูกเก็บบันทึกตั้งแต่เข้ามาออดิชั่นก่อนเป็นพวกวง

แม้กระทั้งบรรดาพี่ตัวเป้งที่ได้รับภารกิจให้มาสอน(แกง)น้องอย่าง น้าเน็ก, ตัด, แจ็ค แฟนฉัน, ยังโอม (YOUNGOHM), ยังเรา(YOUNGGU), ฟิกส์ (FIIXD) และก็ ไดมอนด์ (Diamond MQT) ก็ไม่มีช่องทางได้เตรียมตัวเตรียมใจ แถมงานนี้ยังถูกซ้อนแผนโดนเองอีกด้วย

ยังไม่รวมกับเหล่าคณะทำงานนับร้อยชีวิตกับสารพันวิธี และก็กลยุทธ์ รวมถึงปริมาณกล้องถ่ายภาพที่ถูกประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการบันทึกภาพ กระทั่งโลเกชันตั้งแต่กลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปจนกระทั่งเข้าป่าขึ้นภูเขากันอย่างยิ่งจริงๆ เพื่อได้มาซึ่งอรรถรสในเหตุการณ์ต่างๆตามกลยุทธ์แกงบริบูรณ์ แล้วก็พอดีที่สุด

โดยในทุกขั้นตอนล้วนถูกปิดบังเป็นความลับขั้นยอดเยี่ยมจำพวกที่ว่าจำต้องไม่ระแคะระคาย ด้วยเหตุว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างล้วนไม่อาจจะเทก หรือถ่ายใหม่ได้ เพราะเหตุว่าไม่มีบท ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่ทันรู้ตัว กำเนิดเป็นความสดใหม่อย่างแท้จริง ที่เป็นส่วนสำคัญดังที่ กระเป๋า นฤบดี ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ห้าวเป้งค่ะอย่าแกงน้องตั้งมั่น

“ห้าวเป้งจ้ะอย่าแกงน้องหมายถึงเรียลลิตี้ด้วยเหตุผลดังกล่าว มันก็ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแบบธรรมชาติ ไม่มีบท พวกเรามีเพียงแค่เหตุการณ์โดยประมาณว่าผู้แสดง หรือน้องๆCGM48 ที่พวกเราตามอยู่ ไปพบกับอะไร

แล้วก็จะกำเนิดอะไรขึ้น มันจำเป็นต้องคำนวณว่าเขาไปพบเหตุนี้แล้วจะมีอารมณ์อะไรออกมา พวกเราก็จำเป็นต้องรอคิดเป็นสเต็ปๆไปว่า ภายหลังจากนี้แล้วพวกเราจำเป็นที่จะต้องทำอะไรต่อ ผู้แสดงจำเป็นต้องไปทางไหนต่อ ซึ่งมันสดมากมาย เสน่ห์ของมันเป็นคนทำก็ตื่นเต้น อะดรีนาลีนหลั่งตลอดระยะเวลาว่าจะกำเนิดอะไรขึ้น

กับเรื่องที่เกิดขึ้นในหน้าจอ มันเป็นภาพจริงๆที่ได้มา โดยคราวนี้จำต้องกล่าวว่าก็ถือเป็นการแกงครั้งใหญ่ภายหลังที่มิได้ทำมานาน 12 ปี ซึ่งโปรดักชั่นมันค่อนจะใหญ่โตกับการที่จะจะต้องใช้กล้องถ่ายรูปติดตามเด็กทั้งยัง 25 คน

และก็มันก็มีแผนในการจริง แล้วก็แผนหลอก ด้วยเหตุนี้มันค่อนข้างจะวุ่นวายสำหรับในการที่จะจำเป็นต้องเตรียมงาน แล้วบางครั้งบางคราวไอ้แผนที่พวกเราจะจัดเตรียมสำหรับในการแกงน้องมันจะได้ไหมได้ มันก็จะต้องลุ้นกัน ตื่นเต้นตลอดระยะเวลา รวมทั้งที่สำคัญทุกอันที่เกิดขึ้น ทำเป็นเพียงแค่เทกเดียว”