ห้าวเป้งจ๋า

ห้าวเป้งจ๋า ซูเปอร์สตาร์ตัวเป้งของวงการบันเทิงไทย มาร่วมสอนวิชาไอดอล

ห้าวเป้งจ๋า กลับมาบนถนนสายแกงในรูปแบบภาพยนตร์ของพี่เปิ้ล และพี่เป้

ห้าวเป้งจ๋า หลังจากที่หนังเรียลลิตี มูฟวีเรื่องแรกอย่าง ‘สาระแนห้าวเป้ง’ ออกฉาย ก็ดูเหมือนว่าแทบจะ ไม่มีหนังที่มีแนวการ แกล้งกัน
ออกมาให้เห็นเลย แน่นอนว่าด้วย กระแสข่าวก็ส่วนหนึ่ง แม้ ‘เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย’ และผู้กำกับคู่บุญเพื่อนซี้ ‘เป้-นฤบดี เวชกรรม’ ก็หมั่น
ทำหนังออกมาเรื่อย ๆทั้ง ‘สูบคู่กู้โลก’หรือหนังโรแมนติกคอเมดี้ผสมผีอย่าง สุขสันต์วันโสด’ แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เฉียดใกล้กับหนังแนว
แกง (แกล้ง) ที่พวกเขาเคยทำในอดีตสักเท่าไหร่สิบสามปีต่อมา

หลังจากความสำเร็จของ ‘สาระแนห้าวเป้ง’ ‘ป๊าเปิ้ล นาคร’ สายฮา และ ‘พี่เป้-นฤบดี’ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จกับการกำกับภาพยนตร์
สุขสันต์วันโสด’ อยู่ดี ๆ ก็ขอกลับมารีเทิร์นสู่เส้นทางแห่งการแกงอีกครั้ง พร้อมชักชวน 4 ตัวเป้งวงการบันเทิงทั้ง ‘แจ็ค แฟนฉัน’
‘น้าเน็ก’ ‘กันต์ กันตถาวร’‘ยังโอมและเพื่อน ๆ ‘รวมพลเป็น ‘ขบวนแกง’นำเอาความรู้และประสบการณ์ระดับห้าวเป้ง ไปสอนให้กับน้อง
ๆ สมาชิกวงไอดอลน้องใหม่หมาด ๆแน่นอนว่าพอเป็นการกลับมาบนถนนสายแกงในรูปแบบภาพยนตร์ของพี่เปิ้ล และพี่เป้ หลายคนคงคาด
หวังในใจลึก ๆ

แน่นอนว่า จะสามารถสู้ได้เทียบเท่าหรือฮาสะใจได้เทียบเท่ากับที่เคยทำไว้ในอดีตหรือไม่ แม้ว่าทั้งสองเรื่องเป็นหนังที่บันทึกการแกล้งกัน
แบบจัดหนักจากสถานการณ์จริง ผสมสถานการณ์เซ็ตถ่ายอินเสิร์ตอีกเล็กน้อย แต่สิ่งที่แตกต่างจาก ‘สาระแนห้าวเป้ง’ อย่างชัดเจน คง
เป็นเรื่องของน้ำหนักในการแกล้งกัน และวิธีการเล่า การแกงในรูปแบบต่าง ๆ ให้ออกมาลงตัวนี่แหละครับในขณะที่ ‘สาระแนห้าวเป้ง’
คือหนังแคนดิตดิบ ๆ ที่มุ่งเน้นการแกล้ง 2 หนุ่มพนักงานใหม่

ห้าวเป้งจ๋า

ซึ่งเป็นการแกล้งที่ค่อนข้างเน้นผลลัพธ์ทางภาพยนตร์มากกว่า พูดง่าย ๆ ก็คือ เน้นแกล้งฮา ๆ ให้สะใจ และเพิ่มความแรงในการแกล้ง
ไปเรื่อย ๆแบบไม่มีเกรงใจเพื่อเน้นอารมณ์ให้หนักหน่วงขึ้น ทั้งฮา เศร้า เครียด ฯลฯ แถมยังเป็นหนังที่แกล้งกันแบบแมน ๆ แรง ดิบ
สด ที่เป็นภาพลักษณ์ห้าวๆ ห่าม ๆ สไตล์สาระแนอยู่แล้วแต่ใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ นั้น ต้องบอกและออกตัวแรง ๆ ดริฟต์
เบิร์นล้อไหม้ก่อนเลยนะครับว่า ถ้าจะดูเพื่อหวังว่า พี่เปิ้ลจะคิดอะไรแรง ๆ เพื่อแกล้งน้อง ๆ หรือแม้แต่แกงพี่ ๆ และหวังว่าจะได้ลูก
ฮาจากความโกรธเคือง หรือโดนแกล้งจนร้องไห้ หรือไม่ก็แกล้งกันแบบเฉียดตายแบบพี่หม่ำ จ๊กม๊ก ในตำนาน

คงต้องให้เวลาทำใจนะครับเพราะหนังเรื่องนี้มีความเป็นสารคดี กึ่งหนังแนว ที่สร้างสถานการณ์ในการแกง และการถูกแกงแบบห้าวเป้ง
สไตล์พี่เปิ้ลที่มีการสร้างสถานการณ์การแกงเข้าไปสอดแทรก คอหนังแฟนตัวยงที่หวังว่า อยากดูหนังสไตล์ห่าม ๆ ตลก ๆ แกล้งแรง
ๆ แบบพี่เปิ้ล อาจไม่ถูกรสถูกชาติกับการแกงสไตล์พี่เปิ้ลในยุคนี้ ที่คราวนี้เน้นความฟีลกู้ด มีการวางการแกงให้กับน้อง ๆ และพี่ ๆ
ดาราที่มาสอนน้อง ๆ มากกว่าจะ เป็นแกงแบบขยี้ซ้ำ ๆ หรือแกล้งให้เคือง เพื่อหวังผลลัพธ์ความฮาแบบสะใจซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้

ทำให้หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้เป็น ‘หนังตลก’ จากการแกล้ง เหมือนอย่างที่เราเห็นจากหน้าหนังเสียทีเดียว

แต่ยังมีความเป็น ที่ฉายให้เห็นเรื่องราวการต่อสู้ของน้อง ๆ ที่มีความแตกต่าง สนุกสนาน ดูได้เพลิน ๆ ไม่ดึงดราม่า เป็นสารคดีตาม
ติดชีวิตน้องๆ ในช่วงแรกที่เข้าวง โดยเฉพาะอุปสรรคเพี้ยน ๆ แปลก ๆ ที่เข้ามาแกงน้องแบบหยอก ๆ ในสไตล์ “สอนไป แกงไป”
ที่ทำให้ได้เห็นรอยยิ้มน้ำตา การต่อสู้ และมิตรภาพของน้อง ๆ และเลือกไปแกงแรง ๆ กับพี่ ๆ ดาราทั้ง 4 คนซะมากกว่าตลอด
ทั้ง 1 ชั่วโมง 50 นาทีของหนังจริง ๆต้องบอกได้ว่าตัวหนังโดยรวมทำออกมาได้ดูเพลินดีทีเดียวนะครับ หลาย ๆมุกก็ฮาใช้ได้เลย

แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตใหญ่ ๆ เลยก็คือไดนามิกของตัวหนังทั้งเรื่องที่มีอาการแผ่ว ๆ เนือย ๆ บ้าง ซึ่งน่าจะเกิดจากการตัดต่อที่ต้อง
ปันเวลาส่วนหนึ่งไปกับการเล่าเรื่องน้อง ๆ ไหนจะแก๊กสไตล์พี้เปิ้ลอีก โดยเฉพาะพาร์ตการแกงดารา ที่จริง ๆ ทำเอาไว้ดีและฮา
มาก ๆ โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะยาวกว่านี้ได้ แต่หลายพาร์ตกลับโดนตัดสั้นห้วนจนอารมณ์ค้างเติ่งและเสียดายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
แต่เอาจริง ๆ ขนาดตัดเยอะขนาดนี้ หนังยังยาวเกือบสองชั่วโมงเลยนะเนี่ย 555และถ้าถามผู้เขียน ที่ดูในมุมของแฟนคลับน้อง ๆ
จริง ๆ ก็ต้องถือว่าเป็นหนังสารคดีที่ดีมาก ๆ

เรื่องหนึ่งเลยนะครับ เป็นหนังสารคดีน้ำดีที่ไม่เน้นดราม่า แต่แตกต่างด้วยความฮาและการแกงนี่แหละ ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนชอบ
ฉากเปิดมาก ๆนะครับ ถ้าดูกันผิวเผิน อาจรู้สึกว่านี่เป็นแค่เพียงการแกงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในเชิงแฟนคลับ ผู้เขียนรู้สึกชอบฉาก
ปิดนี้มาก ๆ ครับ เพราะนอกจากจะเล่าแก่นแกนเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ครบถ้วน ได้เห็นความเป็นไอดอลของน้อง ๆ ที่กำลัง
จะเริ่มฉายแววแล้ว ยังได้เห็นว่า จริง ๆแล้วคนที่รักน้อง ๆ ไอดอล ไม่ว่าจะวง และ

ห้าวเป้งจ๋า

ด้วยความเอ็นดูตะมุตะมิ และรักในตัวน้อง และผลงานของน้อง ๆ น่ะ มันมีอยู่จริง ๆ นะครับแน่นอนว่า หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่หนัง
ตลกที่ฮาที่สุดและอาจไม่ใช่หนังแนวแกงของพี่เปิ้ลที่หวังว่าจะไปดูเพื่อความตลกสะใจ ขำตัวโยนเพราะได้เห็นดาราโดนแกง แต่
มันเป็นหนังตลกฟีลกู้ดที่ดูได้เพลิน ๆ ดูแล้วได้ทั้งรอยยิ้มและเฮฮา ผสมความเป็นสารคดีที่ทำให้เราได้เห็นความน่ารัก และความ
ใจสู้ของน้อง ๆ ต่ออุปสรรคเพี้ยน ๆ ของพี่เปิ้ล ห้าวเป้งจ๋า

ที่คนเป็นแฟนคลับดูแล้วได้ฮาได้ซึ้ง ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ ดูแล้วอาจอินจนต้องระวังตัวเองไว้ให้ดี ๆเพราะไม่งั้นอาจโดนน้อง
ๆ ตกแบบไม่มีแกงแน่นอนครับเบากว่าห้าวเป้งแรกแน่ ๆ แต่สวยกว่าห้าวเป้งแรกมากมายมาจากประโยคที่พี่เปิ้ล นาคร ให้สัม
ภาษณ์หนุ่ย พงศ์สุข ในคลิป‘แบไต๋ห้าวเป้ง คุยแรงอย่าแกงน้อง’ เพื่อนกันตลอดไป | ข่าวหนังใหม่