เพื่อสกัดกั้นแผน

เพื่อสกัดกั้นแผน เอาท์ไซด์ เดอะ ไวร์ สนามรบนอกลวดหนาม

เพื่อสกัดกั้นแผน หนังสงครามในสมัยอนาคตของ เน็ตฟลิกซ์

เพื่อสกัดกั้นแผน ที่ถือจับเอาเรื่องราวปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งดินแดนของยูเครนในขณะนี้มาเป็นเบื้องหลังเรื่อง โดยมีทหารเหนือมนุษย์ที่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ลับเพื่อยับยั้งชนวนเหตุการศึกสุดยอดจากหัวข้อนี้ กับนักบินโดรนที่จำต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามจริงหนแรก หนังแนวการทำศึกแอ็กชั่นไซไฟที่ได้เน็ตฟลิกซ์

แอนโธนี่แม็คคี่ ดาราขาประจำที่มักสวมบทแนวไซไฟที่คุ้นกันดีเป็นบท ฟาลคอน ในหนังของ มาร์เวล ต่อด้วย อัลเทอร์ด คาร์บอน ฤดูกาล2 และมาเล่นตอนหนึ่งใน แบล็ก มิร์เรอร์ ฤดูกาล5 ตอน สสามกิ้ง ไวเปอร์ส ที่ยังคงเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกมต่อสู้ล้ำๆรวมทั้งมาประเด็นนี้เขาก็รับบทบาทเป็น “ลีโอ” นายทหารที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่ว่าราวกับมนุษย์

แล้วก็มีความรู้ความสามารถเหนือมนุษย์ ที่ในเรื่องเรียกว่า “เทคโนโลยีชีวภาพ รุ่นที่ 4” ในสมัยอนาคต ปี 2034 ที่มีหุ่นยนตร์ทหารใช้งานกันปกติแล้วในทุกประเทศ โดยเล่นคู่กับ ดามสัน ไอดริส ศิลปินที่ค่อนข้างจะโนเนม ส่งผลงานจาก แบล็ก มิร์เรอร์ ฤดูกาล5 ในตอน สมิเธอรีนส์ มาในหัวข้อนี้

เขารับบทบาทนักบินโดรนนามว่า “ฮาร์ฟ” ที่ถูกส่งมาตามติดคู่ทำภารกิจกับลีโอ เพื่อสกัดกั้นแผนของผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายครั้งใหญ่ในรัสเซีย หนังตอบปัญหาคอแอ็กชั่นหนังสงครามได้แน่นอนหนังโชว์ฉากรบในอนาคตในแบบเรียล ๆ ตลอดในตอนครึ่งแรก ก่อนที่จะช่วงหลังจะกลับเป็นอีกแนว ข่าวหนังใหม่

แม้กระนั้นสิ่งที่หนังอุตสาหะเป็นมากกว่านั้นเป็นการเอ๋ยถึงเจาะลึกถึงความนึกคิดของชีวะจักรกลประดิษฐ์ของผู้แสดงนำในเรื่อง ซึ่งทำออกมาเจริญเลย แล้วดาราหนังอย่างเน็ตฟลิกซ์แอนโธนี่แม็คคี่ ก็ถนัดกับบทอย่างนี้มากมาย ปัญหาเปลี่ยนไปเป็นตัวเอกร่วมอีกผู้ที่เป็นศิลปินโนเนม แม้กระนั้นถูกดันขึ้นมาคู่กับเขา โดยบทที่เขียนออกมาบากบั่นให้เขาเป็นอเมริกันวีรบุรุษแบบไม่น่าเชื่อถือ กระทั่งผลักให้ส่วนของแอนโทนี ดูอ่อนยวบตามไปด้วยอย่างโชคร้ายจริง ๆ

เพื่อสกัดกั้นแผน

เพื่อสกัดกั้นแผน ตัวหนังเริ่มขึ้นด้วยฉากโชว์การสู้รบไฮเทคในสมัยนั้น

ที่มีหุ่นทหารแนวหน้าออกฝ่าแทนมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ส่วนฮาร์ฟเองเป็นนักบินโดรนฆ่าที่ฝ่าฝืนคำสั่งผู้บัญชาการ โดยคิดตกลงใจเองว่าการปล่อยจรวดกระหน่ำอีกข้างเพื่อช่วยทหารฝ่ายที่เหลือ แม้ว่าจะมีทหารฝ่ายอเมริกาตายจากลูกหลงนี้ไป ก็จัดว่าช่วยทหารโดยมากออกมาจากสนามรบปิดตายนี้ได้

ซึ่งประเด็นนี้เองทำให้พวกเราได้ทราบว่า นี่ไม่ใช่หนังสงครามหรือบู๊ผลาญโดยตรง เนื่องจากเปิดเรื่องด้วยปัญหาสำนักงานเอื้อเฟื้อคนส่วนน้อยเพื่อคนจำนวนมากถูกหรือเปล่า? ซึ่งฮาล์ฟเองแน่ใจว่าตกลงใจไม่ผิด แม้กระนั้นเขาก็ถูกต้องโทษที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และก็ถูกส่งไปพบลีโอ ซึ่งเขามารู้ถัดมาว่าลีโอไม่ใช่มนุษย์ และไม่ใช่เครื่องจักรการทำศึก

มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากมนุษย์ แล้วก็ปัญญาความรู้สึกของตน ซึ่งเป็นอะไรที่เหนือล้ำเกินคาดทายใจได้ ตัวหนังดำเนินเรื่องด้วยฉากแอ็กชั่นสงครามกลางเมืองในยูเครน ซึ่งสหรัฐเข้ามามีเกี่ยวข้องเพียรพยายามลดหน้าที่ของรัสเซียไม่แปรไปจากปัจจุบันนี้ ซึ่งเรื่องก็ไม่รีรอที่จะใส่ฉากแอ็กชั่นเข้ามาเรื่อยไม่หยุด บ้านที่น่าสยดสยอง

ผู้ใดที่คาดหวังฉากแอ็กชั่นการศึกไซไฟไม่น่าจะผิดหวังเลย คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ เนียนตา ถึงแม้บางครั้งก็อาจจะไม่ล้ำแบบมีเลเซอร์ยิงกัน แม้กระนั้นเทคโนโลยีด้านทหารในเรื่องก็เป็นอะไรที่มองเป็นได้ รวมทั้งมีฉากโชว์หุ่นการสู้รบอีกทั้งอเมริกากับรัสเซียพอกัน แม้กระนั้นบางครั้งอาจจะไม่ถึงกับขนาดอมตะอะไรมากมายแบบคนเหล็ก

เนื่องจากยังเป็นเพียงแค่หุ่นรบแนวหน้าแทนมนุษย์ที่ถูกยิงทำลายด้วยอาวุธหนัก (หน่อย) ได้อยู่ดี แต่ว่าฉากเหล่านี้ก็นับว่าเป็นจุดขายหลักของเรื่องที่ดีเลย โดยมีฉากโชว์ความรู้ความเข้าใจจากร่างชีวะจักรกลของลีโอเสริมเข้ามาทำให้เรื่องมองล้ำเข้าไปอีก แม้กระนั้นสิ่งที่หนังต้องการขายแล้วก็เป็นหัวใจหลักของเรื่องเป็น ปัญหาในตอนแรกที่เรื่องเริ่มไว้กับการตัดสินใจของฮาร์ฟว่าถูกไหม?

เมื่อมาอยู่กับลีโอที่เป็นเครื่องจักรการสู้รบที่ถูกผลิตขึ้นมา แต่ว่ากระทำนอกกรอบชนิดเดียวกันกับฮาล์ฟ ฉากแอ็กชั่นแต่ละครั้งที่เรื่องใส่เข้ามาชอบควรจะมีปัญหาในทางคุณธรรมตามมา เมื่อลีโอไม่แคร์ที่จะปลดปล่อยให้อีกข้างตายอย่างทรมาน แม้กระนั้นก็ช่วยเหลือผู้คน และก็ตั้งมั่นในภารกิจกู้โลกจากผู้ก่อเหตุร้ายแรงคลั่งที่คาดหวังได้จรวดหัวรบปรมาณูจากในอดีตกาลมาถือครอง

แปลงเป็นฮาร์ฟเองที่กลับเริ่มรู้สึกไม่ถูกจากการตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในฐานะนักบินโดรนฆ่าของเขา เมื่อมาอยู่ภายในเขตพื้นที่สนามรบภาคสนามด้วยตัวเองหนแรก ทำให้เห็นภาพความทรุดโทรมจากการรบที่เขาเคยก่อขึ้น โดยมีข้าราชการเป็นจำนวนมากถูกลูกหลงที่เขาไม่เคยนึกถึง ซึ่งนี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้หนังมองมีอะไรมากยิ่งกว่าฉากแอ็กชั่นการศึกยิงกันทั่วๆไป แล้วก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ เอาท์ไซด์ เดอะ ไวร์ สนามรบนอกลวดหนาม

บ้านที่น่าสยดสยอง

ตัวข้อเท็จจริงๆเริ่มขึ้นในชั่วโมงข้างหลัง เมื่อฮาร์ฟเองเริ่มแปลงเป็นคนละคนกับตอนต้น

รวมทั้งลีโอเองก็เปิดเผย ให้มีความเห็นว่าอันที่จริงแล้ว เขาเป็นอย่างไร ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่ถึงกับ หักมุมอะไร เพราะเหตุว่าเรื่องค่อนข้าง จะเปิดเผยมาเป็นช่วง ๆ ว่ามิได้จบที่ภารกิจ ตามล่าผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง อย่างที่เรื่องวางเอาไว้ในช่วงแรก จำต้องพูดว่าจุดนี้ เป็นจุดที่ดีสุดของเรื่องแล้ว เมื่อหนังเอาการจริยธรรม ความไม่ลงรอยกันในใจ ความเป็นคนในจักรกลชีวะ ของลีโอมาเล่นขมักเขม้น

หากแม้บางครั้ง อาจจะมิได้สมเหตุผล และมองง่ายไปเช่นกัน ที่ลีโอเปลี่ยนมาเป็นอย่างนี้ แต่ว่านี่ก็คือสิ่งที่หนังทำเป็นดีสุด ในด้านของหนังสงครามไซไฟ ที่มิได้มีเพียงแค่ฉากแอ็กชั่น ยิงกันจนถึงสิ้นเรื่องไปเฉย ๆ ทำให้เรื่องมองมีอะไรน่ากล่าวถึงลึก ๆ มากยิ่งกว่าที่มองเห็นด้านนอก แต่ว่าปัญหาของเรื่อง ก็เริ่มมาปัจจุบันนี้พร้อม ด้วยการดันบทให้ฮาร์ฟ กลายมาเป็นตัวนำเรื่อง เต็มกำลังกระจ่างแจ้ง

โดยที่ฐานรากผู้แสดง ที่ปูมาไม่น่าแปรไปได้ขนาดนี้ ซึ่งเวลาในเรื่องเป็นวันเดียว การเปลี่ยนตัวละคร จากนักบินโดรน ข้างหลังหน้าจอ เปลี่ยนมาเป็นทหารวีรบุรุษ ภาคสนามบุกช่วยคน รวมทั้งกู้โลก แบบง่าย ๆ ด้วย

มันเปลี่ยนเป็นอะไร ที่มองไม่สมเหตุผล ตลอดตอนช่วงหลัง ซึ่งบารมีของดาราหนังเอง ก็ยังไม่ถึงขนาด เป็นผู้แสดงนำชาย ให้คนเชื่อด้วย เลยเปลี่ยนเป็น เรื่องมองไม่น่าเชื่อ แถมบทยังเล่นง่าย ให้ฮาร์ฟคิดอะไร ทำอะไรก็เสร็จ แบบง่าย ๆ ไปหมดแบบผู้แสดง นำชายวีรบุรุษ ยิ่งซ้ำเติมให้การขึ้นมา นำในตอนหลัง เป็นอะไรที่ไม่อินไม่สมเหตุผล เอามาก ๆ

ตัวเรื่องแม้ว่าจะฉีก ให้มองมีอะไรมากมาย ไปกว่านั้นได้ตรงส่วนของลีโอแล้ว แต่ว่าท้ายที่สุด บทก็เป็นไปตามสูตรสำเร็จ หนังทหารวีรบุรุษอเมริกา ปกติกระทั่งเหลือเกิน ในตอนสุดท้ายของเรื่อง ยิ่งกับประโยคเชย ๆ อย่างมนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ ที่ไม่ว่ากี่เรื่อง ๆ ก็มักถือมาใช้ ให้คนพูดมองหรู แต่ว่าแปลงเป็นว่าหัวข้อนี้มองปกติไปเลย

เมื่ออุตส่าห์ถามกับสิ่งที่ฮาร์ฟทำในสเกลเล็กเมื่อเทียบกับลีโอทำเหมือนกัน เปลี่ยนเป็นหนังไม่กล้าเล่นนอกแนวคิดที่หนังปูมาเองไปโดยปริยาย และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งกันง่ายๆซึ่งแอบผิดหวังมากมายที่เรื่องจบอย่างงี้ (ทดลองนึกถึง วอชแมน ที่เรื่องตอนสุดท้ายเหมือนกัน แต่ว่ากล้าจบแบบมีอะไรให้คิดตกผลึกมากยิ่งกว่า)

หนังตอบโจทย์คอแอ็กชั่นหนังสงครามได้แน่ๆ หนังโชว์ฉากรบในอนาคตในแบบเรียลๆ ต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะพลิกเป็นอีกแนว แต่สิ่งที่หนังพยายามเป็นมากกว่านั้นคือการพูดถึงล้วงลึกถึงความคิดของชีวะจักรกลประดิษฐ์ของตัวเอกในเรื่อง ซึ่งทำออกมาได้ดีเลย