เรื่องราวของก็อดซิลล่า ก็อดซิลล่า ปฐมบทวิบัติโลก เน็ตฟลิกซ์รีวิว การกลับมาของตำนานสัตว์ประหลาดไคจูที่ทรงอำนาจที่สุด
เรื่องราวของก็อดซิลล่า รีเมกเป็นอนิเมะซีรีส์รอบนี้ ไม่ราวกับทุกภาคที่เคยผลิตขึ้นมา สำหรับก็อดซิลล่า เป็นสัตว์ประหลาด หรือ ไคจู ที่ประเทศญี่ปุ่นผลิตขึ้นมาตั้งแต่สมัย 50 จากนั้นก็ถูกเอามาสร้างภาคต่อ แปลความใหม่ รีเมก อีกทั้งในแบบอย่างภาพยนตร์ฉายโรง หนังเด็กแนวต่อสู้กับสัตว์ประหลาด มังงะ หนังอนิเมชั่น แล้วก็ปัจจุบันก็มาในลักษณะของอนิเมะซีรีส์ เรียกว่าสร้างหลายครั้งเอามาก ๆ
ซึ่งแต่ละภาคก็มักมีจุดเชื่อมโยงกัน หรือมี ไข่อีสเตอร์ หลบซ่อนเอาไว้ สำหรับภาคปัจจุบันนี้ที่ชื่อว่าก็อดซิลล่า ปฐมบทย่อยยับโลก เวอร์ชั่นอนิเมะซีรีส์ปัจจุบันชุดนี้ เป็นงานสร้างด้วยกันระหว่างสตูดิโอ พลิกซากปมมรณะ ที่สร้างผลงานมีชื่อล้นหลาม ร่วมกับ ออเรนจ์ ที่ดูแลในด้านสามมิติ ลิขสิทธิ์โดย เน็ตฟลิกซ์ซึ่งก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นนี้ผลิตขึ้นมาโดยมิได้มีการอ้างอิงจากภาคก่อน ๆ ก่อนหน้านี้
แม้กระนั้นเป็นการ “รีเมก” หรือ เล่าราวบทใหม่ขึ้นมาเลย อนิเมะซีรีส์ ทั้งสิ้น 13 ตอน ความยาว 24 นาทีต่อตอน จบหนึ่งซีซัน ฉายแล้วใน เน็ตฟลิกซ์เรื่องราวเริ่มขึ้นในปี คริสต์ศักราช 2030 เมื่อ ยุน อาริคาวะ คนที่มีหน้าที่เขียนโปรแกรมหน้าเฉยสุดชิลที่เป็นบุคลากรของ บริษัทโอทานิแฟคทอรี่ ที่รับสารพัดสารพันงานทางด้านเทคโนโลยี ระบบซอฟแวร์ โปรแกรมมิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ และก็สารพันอื่น ๆ สุดแต่จะถูกจ้าง ข่าวหนังใหม่
เขาได้รับงานว่าจ้างแปลก ๆ ให้มาตรวจตราเรื่องพิลึกที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ข้างหลังหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นก็ตรงเวลาเดียวกับที่ เม คามิโนะ นิสิตปริญญาโทสาวน้อยหัวยุ่งซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่เป็นที่ปรึกษาให้กับที่ทำการศึกษาค้นคว้ามิซากิโอคุ เนื่องด้วยเธอครูของเธอไปยังต่างประเทศ เธอเลยจะต้องมารับหน้าที่เฉพาะกิจวิเคราะห์ปัญหาบางสิ่งบางอย่างให้กับที่ทำการนั้น รวมทั้งได้เจอเรื่องแปลกประหลาดบางสิ่งบางอย่าง
จากเรื่องทั้งคู่แห่งที่เกิดขึ้น ก็ทำให้คนทั้งคู่และก็ผู้คนปริมาณหนึ่งได้มาเกี่ยวข้องกันแบบสับสน ๆ มึน ๆ เมื่อเมได้ถูกพาไปเกี่ยวกันพันกับงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่สุดล้ำเกินจินตนาการของศาสตราจารย์อาชิฮาระ ผู้ค้นพบปัญหารวมทั้งจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วกับโลก แล้วยังแปลงเป็นว่าพวกเขาทั้งสิ้นได้ศึกษาและทำการค้นพบความลับสุดแปลกประหลาดที่ไปเกี่ยวเนื่องกับสัตว์ประหลาดในตำนานท้องถิ่นโบราณอย่าง โกจิร่า หรือ ที่ถูกตั้งชื่อในยุคนี้ว่าก็อดซิลล่า แล้วทำให้ผู้คนทั้งหมดทั้งปวงจำต้องช่วยกันเพื่อต่อสู่คุ้มครองโลกจากการตื่นของตัวประหลาดทรงประสิทธิภาพนี้เอาไว้
เรื่องราวของก็อดซิลล่า ถูกทำเป็นภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดสุดคลาสสิกของประเทศญี่ปุ่น โดยสร้างคราวแรกในสมัย 50
ซึ่งพูดกันว่าเป็นภาพสะท้อนความหวาดกลัวต่อระเบิดนิวเคลียร์ของชาวญี่ปุ่น และก็แอบแฝงการวิพากษ์วิจารณ์ การจิกกัดสังคม รัฐบาล การรักษาสภาพแวดล้อม และก็การใช้พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ของญี่ปุ่น โดยผ่านทางตัวสัตว์ประหลาดก็อดซิลล่า และมีการสร้างภาคต่อ ภาคแยก การตีความหมายต่าง ๆ นานาออกมาหลายเวอร์ชั่นตลอดเวลาหลายสิบปี ทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็น ก็อดซิลล่า 2: ราชันแห่งมอนสเตอร์ ของหนังแนวนี้ไปโดยปริยาย
เนื่องจากมีความที่มันทรงประสิทธิภาพและก็มีพลังงานปรมาณูอยู่ในตัว แถมฆ่าไปก็ไม่ตายอีกต่างหาก สำหรับเวอร์ชั่นนี้ ก่อนที่จะมองมีคำเสนอแนะว่าให้เตะตรรกะเหตุผลต่าง ๆ และก็ภาพลักษณ์เก่า ๆ ที่เคยมองเกี่ยวกับก๊อตสิลล่าออกไปให้หมดก่อนนะครับ เพราะเหตุว่านี่เป็นการเอาการราวของ กลุ่มของผู้คนสุดฟั่นเฟือน สุดติส สุดชิล ที่จำเป็นต้องมารวมพลังกันแล้วต่อสู้กับเหล่าสารพัดสารพันตัวประหลาดรวมทั้งอตสิลล่าด้วยพลังด้านวิทยาศาสตร์ในแบบบ้า ๆ ด้นสด
มีทั้งยังประดิษฐกรรมที่ไม่น่าใช้การได้ หุ่นยนต์เก่า ๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังซุปปอร์โรบอตสมัยเก่า แล้วก็ปัญญาประดิษฐ์สุดน่ารักน่าเอ็นดู ที่ดูแล้วมันไม่น่าจะมารวมกันอยู่ในหนังก็อดซิลล่าได้ เรียกว่าอะไรที่ผู้ชมมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะได้มองเห็นในหนังก๊อตซิลล่า ประเด็นนี้จัดมามากเลย แถมการวางแบบของนักแสดงก็ดูไม่ได้กับเรื่องตั้งแต่ทีแรกเลยด้วย เพราะเหตุว่าดีไซน์นางเอกเอกมาแนวโมเอะ เพิ่มความสลับซับซ้อน
ส่วนดารานำชายนี่ก็เหมือนล้อเลียนมาจากเรื่องรับประทานทามะซะอย่างงั้น ที่ตรงนี้ถ้าจะวิพากษ์สาระที่ซ่อนเร้นมาในเรื่อง ก็บางทีอาจจะอยากได้สื่อถึงกล่มคนสมัยใหม่ กับตัวตนของก็อดซิลล่าในฐานะภาพผู้แทนความหวาดกลัวต่อปรมาณู ว่านี่เป็นสมัยที่คนรุ่นหลัง ที่มีความเป็น เด็กเนิร์ด ชำนาญทางด้านเทคโนโลยี เครือข่ายสังคม รวมทั้งวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่สั่งสมกันมา ได้หาทางที่จะต่อกรและก็ต่อสู้กับภัยจากก็อดซิลล่า ด้วยวิธีการใหม่ ๆ รวมทั้งการมองโลกที่ไม่ดังเดิมอีก แล้ว
ถ้าหากดูจากการออกแบบนักแสดงที่เจตนามากมาย จะพบว่ากรุ๊ปผู้แสดงหลักมิได้มาแนวฟูมฟายดราม่าอะไร แต่ว่าเป็นพวกที่ใช้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ กับการจินตนาการแบบสุดขั้วในด้านต่าง ๆ เพื่อหาทางขจัดปัญหาในเรื่อง ในตอนที่ตัวหุ่นยนต์อย่าง เจ็ตจากัวก์ ก็วางแบบมาล้อเลียนการ์ตูนคลาสสิกอย่าง หุ่นเหล็กเลขลำดับ 28 เรียกว่าเป็นการผสมความเป็นหนังอสูรกาย กับหนังซุปเปอร์โรบอตสมัยเก่า หรือเหมือนกับอยากเคารพตัวตนของหนังพวกนี้ในอดีตกาลก็เป็นไปได้
ด้านงานภาพและก็เพลงประกอบของเรื่องเข้าขั้นมาตรฐานสูง เรียกว่าเกือบจะไม่มีการเผาเลย
ถึงแม้ว่าบรรดาสัตว์ประหลาดในเรื่องจะใช้สามมิติ เข้ามาช่วยดูเหมือนจะทั้งหมด แม้กระนั้นก็มิได้มองขัดอะไรมาก ขณะที่เพลงประกอบเรื่องก็เป็นการเอาเพลงจากหนังก็อดซิลล่ามาใช้ใหม่ ส่วนเพลงเปิดปิด ก็เพราะเหตุว่ามากมาย ๆ เรียกว่าฟังนได้หลายรอบ ส่วนที่ดูแล้วอาจจะสับสนของเรื่องเอามาก ๆ ก็คือการชี้แจงแนวความคิดต่าง ๆ ด้านวิทยาศาสตร์และก็แนวความคิดแบบไซไฟเชิงอภิปรัชญา เต็มไปด้วยการใช้ศัพท์ต่าง ๆ ที่เป็นคำศัพท์วิทยาศาสตร์สาย กี๊ก คละเคล้าเนิร์ดโอตาคุ
ถึงแม้หนังจะมีความเพียรพยายามชี้แจงแนวความคิดหลายสิ่งหลายอย่างให้เข้าใจง่าย แต่ว่ามันก็ยังเข้าใจยากมากมายอยู่ดี ถึงอย่างงั้นการได้ฟังน้องนางเอกอย่างเมรวมทั้งเปโระทู พินิจพิจารณาแนวคิดต่าง ๆ ก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินดี ซึ่งคงจะจำต้องขอดูเสียงบรรยายน้องเมรวมทั้งเปโระทูด้วยซึ่งสามารถบรรยายไทยออกมาได้ชวนรื่นหูดีเยี่ยม มีอีกหนึ่งนักแสดงที่สร้างสีสันให้เรื่องมากก็คือ เปโระ ทู
ซึ่งแต่ก่อนเรียกว่า นาราทาเกะ ปัญญาประดิษฐ์เอไอชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวที่ยุนผลิตขึ้นมาแล้วแจกฟรีทางเน็ต แต่ว่าเมื่อสาวน้อยสติเฟื่องอย่างเมดาวโหลดมาใช้ เธอกลับสามารถดึงเอาสมรรถนะรูปแบบการทำงานของมันออกมาได้อย่างถึงขีดสูงสุด โดยตั้งชื่อให้มันว่า เปโระ ทู แล้วระหว่างนั้นเมก็ใช้มันสำหรับการหาข้อมูลแล้วก็ไขปัญหาของพวกตัวประหลาดหรือไคจูที่แห่กันออกมา
เมื่อมองไปครู่หนึ่ง จำต้องสารภาพว่าเส้นเรื่องของเมแล้วก็เปโระทูที่เต็มไปด้วยบทสำหรับพูดตอบโต้น่ารักน่าเอ็นดู ๆ และก็การพูดจาที่แอบกวนใจน้อยของเปโระทู ก็นับว่าเป็นสีสันที่น่าติดตามมากมายของเรื่องไปซะงั้น รวมทั้งคาแรคเตอร์ออกแบบของน้องหนูเม ก็เชิญชวนให้มองสบายตา สวย และก็เป็นนางเอกในหนังสัตว์ประหลาดที่มีท่าทางน่าดึงดูดและไม่ค่อยจะได้มองเห็นกันเท่าไร หรือจะกล่าวว่าไม่เคยมีเลยก็ได้ เพราะว่าคาแรคเตอร์ที่ดูแล้วขัดกับความเป็นหนังสัตว์ประหลาดเอามาก ๆ
พูดได้ว่าเป็นเส้นเรื่องที่เชิญให้เบรกอารมณ์ได้แบบแปลก ๆ ดี แม้กระนั้นในเวลาเดียวกัน อนิเมะหัวข้อนี้ก็สร้างมาราวกับเจตนาปรับเรตลงให้เด็กสามารถมองได้ เนื่องจากว่าแม้ว่าจะมีฉากหายนะ ฉากทำลายประเทศ ฉากไคจูฆ่าคน แต่ว่าพวกเราจะมองไม่เห็นแบบจะ ๆ แม้กระทั้งฉากเดียว เป็นไม่มีฉากเลือดสาดเลยแม้แต่น้อย แถมการเล่าเรื่องก็เน้นย้ำแนว ฟีลกู้ด ให้กำลังใจ ถึงแม้ผู้แสดงจะพบเหตุการณ์ลำบากอย่างไร ก็ไม่ค่อยมาดราม่าหรือเศร้าโศกอะไรกันแบบเรื่องอื่น แต่ว่าเดินหน้ามุ่งจัดการกับปัญหากันสิ่งเดียว
นี้เลยอาจจะก่อให้ความรู้สึกเหมือนจริงของการที่จะต้องต่อสู้กับก็อดซิลล่าและก็เหล่าไคจูที่กำลังทำลายโลก มองเหมือนจริงลดลงไปหน่อย ถ้าหากผู้ใดกันคาดหมายมองอะไรที่เป็นดราม่า หรือมาแนว เซอไวเวิล บางทีก็อาจจะผิดหวังหน่อยครับ แต่ว่าปกหนังก็อดซิลล่าภาคนี้เขาก็เสมือนบอกผู้ชมไว้แล้วว่า นี่ไม่ราวกับทุกเวอร์ชั่นที่เธอมองพยายาม
ด้านวางแบบของก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นนี้มีความนับถือต้นฉบับ ผสมกับไอเดียเพิ่มเติมอีกบางจุด แต่ว่าโดยภาพรวมและก็นับว่าทำออกมาได้ดียิ่งไปกว่าหนังของฮอลลีวูด แล้วตามคอนเซปต์ของชื่อ ปฐมบทวิบัติโลก จุดเอกฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายกฎฟิสิกส์ของโลก แล้วมีผลนำมาซึ่งการก่อให้เกิดหายนะต่าง ๆ ประเด็นนี้ยังมีการเอ่ยถึงแนวความคิดเกี่ยวกับ เวลา การหมุนลูป การคั่นแซงสมัยก่อนเพื่อปรับแก้อนาคต หรือวิธีการทำให้อนาคตที่น่าจะกำเนิดมิได้เกิดขึ้นจริง ที่ตรงนี้บางครั้งอาจจะเข้าใจยากไปบ้าง
แม้กระนั้นในรูปภาพรวมและจากนั้นก็เกี่ยวพันกับการไขปัญหาสำหรับการต่อสู้กับก็อดซิลล่า ที่ตรงนี้สปอยเป็น ในเรื่องยังมี ไข่อีสเตอร์ ของก็อดซิลล่าภาคเก่า ๆ แอบไว้อยู่ในรูปภาพประกอบของเพลง เอ็ด ซึ่งหากคนไหนเป็นแฟนก็อดซิลล่าแล้วได้มองภาพพวกนั้นก็คงจะเก็ตครับผมว่า มันปรารถนาชี้แจงถึงก็อดซิลล่าภาคดัง ๆ ตั้งเพียงแค่ภาคแรกสุดฉบับคลาสสิก รวมทั้งภาคอื่น ๆ ซึ่งพวกเราจะได้มองเห็นเหล่าไคจูที่คุ้นตามากันเกือบจะครบเลย คาแรคเตอร์นางเอกสวย ตัวเอไอลักขโมยซีนสุด ๆ