เอเลี่ยนฟอร์มยักษ์ เดอะ ทูมอโร วอร์ การสู้รบที่อนาคต หนังแอ็กชั่นไซไฟกระหน่ำที่มาลงในแอมะซอนไพร์ม
เอเลี่ยนฟอร์มยักษ์ พร้อมด้วยความมันส์ที่ประกันได้ระดับหนังบล็อกบัสเตอร์ของฮอลลีวูด โดยมี คริส แพร็ตต์ แสดงนำ ทหารในอนาคตเดินทางผ่านเวลามาจากปี 2051 เพื่อบอกใจความเร่งด่วน อนาคตในอีก 30 ปี มนุษยชาติกำลังจะแพ้การทำศึกสำหรับในการสู้กับเอเลี่ยน จนถึงพลเมืองบนโลกเหลือแค่ 5 แสนคนความมุ่งหวังเดียวสำหรับในการมีชีวิตรอดเป็นการส่งทหารและก็ข้าราชการไปอนาคตเพื่อร่วมต่อสู้
ตัวนำ ดินแดน ฟอเรสเตอร์ อดีตกาลทหานที่เคยผ่านการรบจากอิรักถูกหลักเกณฑ์ร่วมรบในศึกที่อนาคต ก่อนที่จะเจอความลับบางสิ่งที่มีเพียงแต่เขาแค่นั้นที่จะหยุดการศึกคราวนี้ได้ หนังแอ็กชั่นไซไฟจากค่าย พาราเมาต์ พิกเจอส์ ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญที่แอมะซอน ทุ่มทุนซื้อมาลงในระบบเป็น เอ็กส์ครูสซีฟ แอมะซอนไพร์มเจ้าเดียว ซึ่งภายหลังจากรับดูก็จำเป็นต้องบอกเลยว่าคุ้มมากมาย
นี่เป็นงานสร้างภาพยนตร์แอ็กชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ไม่ค่อยมีบ่อยมากนัก มีความเหมือนเอจออฟทูมอโร หนังปี 2014 ของทอมครูสที่เล่นกับเรื่องลูปเวลาในตอนเอเลี่ยนบุกกระหน่ำโลก แม้กระนั้นประเด็นนี้เป็นการย้อนเวลามาจากอนาคต และบู๊กระหน่ำเอเลี่ยนในเหมือนกัน พร้อมยังคงมีเงื่อนเรื่องเส้นเวลาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับในการจบการสู้รบคราวนี้เช่นกันอีกด้วย บางทีอาจจะเรียกว่าได้แรงผลักดันมาก็ได้ ข่าวหนังใหม่
เนื่องจากพล็อตเรื่องเอเลี่ยนกระหน่ำโลกยับแล้วมีตัวเอกเป็นกุญแจระงับการทำศึกเช่นกันมากมายจริง ๆ แต่พอสมควรในเนื้อหาของเรื่อง ถึงแม้เค้าโครงเรื่องย่อจะมองโหล ๆ แบบผู้ใดอ่านก็ทายใจได้ แม้กระนั้นเรื่องราวจริง ๆ เมื่อเริ่มสตาร์ทจากจุดทีแรก ๆ ที่เปิดมาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็มีสถานะการณ์ที่ทหารจากอนาคตย้อนเวลามาปรากฎต่อสายตาชาวโลก ผ่านการถ่ายทอดสดบอลโลก จนถึงทำให้ทั้งโลกจะต้องหยุดทั้งหมดทุกอย่างแล้วก็หันมาพร้อมใจเกณฑ์ทหารไปรบในการสู้รบที่อนาคต
แต่ว่าเรื่องกลับมิได้ให้พระเอกจะต้องกระเหี้ยนเตียนกระหือไปรบในทันทีทันใดเหมือนอย่างที่คิด แม้ว่าจะมีเกริ่นนำแล้วว่าเขาเป็นหัวหน้าสมัยก่อนทหานที่เคยผ่านการรบอิรักที่มีฝีมือเลยก็ตาม ตอนครึ่งชั่วโมงแรกเรื่องราวกลับเลือกปูพื้นความเกี่ยวข้องครอบครัวดารานำชายกับบุตรสาว “มูริ” ที่คุณเป็นเด็กวิทย์ตัวน้อยที่ทราบดีว่าบิดาจำต้องจากไป กับอีกหัวข้อเป็นบิดาของดินแดน ที่ดินแดนเองไม่เคยพูดถึงให้ลูกทราบดีว่ามีปู่คนนี้อยู่
โดยที่บิดาของดินแดนเป็นวิศวะที่ต้านทานรัฐบาล เลือกเฟดตนเองออกมาดำเนินชีวิตลับ ๆ ซึ่งการปูเรื่องไปลำดับที่สองคนนี้เป็นพิเศษทำให้ผู้ชมทราบเลยว่า หนังประเด็นนี้มีอะไรมากยิ่งกว่าฉากแอ็กชั่นยิงกระหน่ำเอเลี่ยนแน่นอน
เอเลี่ยนฟอร์มยักษ์ ยิ่งกว่านั้นในขั้นแรกเรื่องยังอุตสาหะเลียนแบบความน่าจะเป็นไปได้ของเหตุการณ์จริง
ถ้าเหตุอย่างงี้ขึ้นมา องค์การสหประชาชาติจะเป็นอย่างไร อเมริกาแล้วก็ประเทศอื่น ๆ จะมีทีท่าอย่างไร สังคมที่จู่ ๆ มีคนถูกส่งไปตายอย่างหมดหวังเรื่อยจะกำเนิดอะไร (ในเรื่องเป็นผ่านมา 1 ปีแล้วจากจุดแรก) หมายคือการเลียนแบบตอนสมัยการรบจริง ๆ ราวกับยุคการสู้รบเวียดนามที่พลเมืองมีความคิดว่ารัฐบาลส่งคนวัยหนุ่มวัยสาวไปตายในการสู้รบที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ในกรณีของประเด็นนี้ก็คือการศึกในอนาคตอีก 30 ปีที่ยังมาไม่ถึง
แม้ว่าจะมีคำกล่าวอ้างว่าสู้เพื่ออนาคตบุตรหลานของตนเอง แม้กระนั้นสังคมในตอนนี้กลับใกล้ล่มสลายก่อนจะถึงเวลาที่เอเลี่ยนจะมาบุกโลก ซึ่งหัวข้อนี้สะท้อนไปถึงนิสิตในชั้นเรียนของดินแดนเองที่ห่อเหี่ยว ไม่มีผู้ใดต้องการศึกษาต่ออีกแล้วเนื่องจากทราบว่าโลกในอนาคตใกล้ดับสิ้น ซึ่งพาร์ทเสริมกลุ่มนี้เองที่หนังแทรกสอดไว้ภายในระยะแรกแบบมีความนัยยะสำคัญ รวมทั้งจะนำมันกลับมาใช้ในตอนองค์ในที่สุดของเรื่องอีกรอบ
ถึงแม้หนังจะใช้เวลาปูหลายแบบนานถึงเกือบจะครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะผ่านเวลาไปอนาคต แม้กระนั้นพอเพียงเข้าเนื้อหาส่วนนี้ตัวเรื่องก็จุดติดขับเคลื่อนแบบเกือบจะไม่สัมผัสเบรค ไปสู่โลกตอนหายนะด้านหลังการรบเอเลี่ยนในทันที แม้กระนั้นก็ยังอุตสาหะปกปิดหน้าตาเอเลี่ยนในเรื่องไว้อีกครู่หนึ่ง ซึ่งตั้งแต่ต้นเริ่มก็ไม่มีฉากไหนให้มองเห็นตัวจะ ๆ เลย (มีแต่ไกลลิบตา ๆ ) ปูทางไปภาคต่อ
ซึ่งจุดนี้ถูกชี้แจงเหตุผลเอาไว้ภายในระยะแรกว่า หากสังคมในขณะนี้ได้มองเห็นเจ้านี่จะไม่มียอมเป็นทหารเกรฑ์มารบแน่นอนซึ่งการปกปิดหน้าเอเลี่ยนก็ทำให้ผู้ชมเองรู้สึกอึดอัดกับการเห็นครั้งละนิด ๆ ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วจะร้ายกาจขนาดกระหน่ำโลกอย่างนี้ได้จริง ๆ หรือ ซึ่งพอสมควรเรื่องเปิดให้มองเห็นพวกเราก็รู้เรื่องในทันทีทันใดว่า เอเลี่ยนในประเด็นนี้โหดเหี้ยมจริง ๆ ในระดับเดียวกับมิมิคเอจออฟทูมอโร
แม้กระนั้นมาในชื่อ ไวท์สไปก์ เดือยแหลมสีขาว ชื่อมาจากตัวเอเลี่ยนในเรื่องยิงเดือยแหลมมาเป็นอาวุธระยะไกลได้) รวมทั้งมาเป็นฝูงเมืองนรกพรั่งพร้อมเหมือนกัน (ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนคลื่นซอมบี้ มหาวิบัติสงคราม ซี ในบางฉากอีกด้วย) ซึ่งเพียงพอเรื่องเปิดเผยให้มองเห็นเอเลี่ยนนี้และถึงเวลาจัดเต็มฉากแอ็กชั่นระดับหนังบล็อกบัสเตอร์กันจริง ๆ ในชั่วโมงแรก
แอ็กชั่นที่เรียกว่าลุ้นต่อเนื่องกันขนาดลืมหายใจได้เลย แถมยังเพียงแค่ครึ่งเรื่อง ฉากแอ็กชั่นต่อจากนี้ก็มีตามมาติด ๆ มีไปบุกรังเอเลี่ยนในป่า มีฉากฝูงเอเลี่ยนมารุมกระหน่ำฐานที่ตั้งเครื่องย้อนเวลาในทะเล ซึ่งแต่ละฉากจัดเต็มกันในระดับพีคแล้วพีคอีกไม่มีหยุด โดยมีความเถื่อนเลือดสาด ตัวขาด องค์ประกอบอวัยวะมนุษย์หลุดว่อนกันตลอด แต่ว่าก็ไม่อุจาดเพราะว่าเพียงแค่มองเห็นแวบ ๆ เท่านั้น
ในขณะที่ฉากแอ็กชั่นใส่กันมาตูม ๆ แบบไม่ยั้ง ตัวเรื่องก็มีตอนกั้นพักสั้น ๆ
เป็นดราม่าของดารานำชายกับผู้พันทหารหญิงที่นำรบในคราวนี้ และเกี่ยวกับเงื่อนเส้นเวลาของเรื่องที่จะเป็นกุญแจสำคัญระงับการทำศึก ซึ่งผู้ชมแม่น้ำคงคาดทายใจได้บ้าง เนื่องจากพล็อตแบบงี้ก็มิได้แปลกใหม่ซะทีเดียว แม้กระนั้นในความโหลของพล็อตนี้สิ่งที่ดี ๆ ก็คือการที่เรื่องผูกปมจัดการเงื่อนทุกสิ่งทุกอย่างได้หมดถึงทุกรายละเอียด
ตั้งแต่ต้นเหตุของเอเลี่ยนว่ามาจากไหน การหยุดยั้งการสู้รบนี้จะต้องทำเช่นไร การเดินทางผ่านเวลาของผู้แสดงนำชายใช่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า รวมทั้งเงื่อนดราม่าครอบครัวของผู้แสดงนำชายที่คริสก็เล่นได้ดิบได้ดีกับบุตรสาวตัวน้อย ไปจนกระทั่งตัวสหายร่วมกลุ่มที่เป็นบทสมทบตอนตอนรบก็ยังนำใช้เป็นกลุ่มสำคัญที่จะส่งไปถึงองค์ในที่สุดของเรื่อง ที่จำเป็นต้องบอกเลยว่า คนไหนกันแน่ที่รู้สึกว่าหัวข้อนี้จบลงในสมัยอนาคตนี่ไม่ใช่เลย
เพราะว่าหนังประเด็นนี้มีตอนจบ 2 ก็อก อนาคตกับปัจจุบันนี้ ที่ตัวเรื่องในองค์ในที่สุดเป็นการกลับมาขจัดปัญหาในสังคมที่ใกล้ล่มสลายก่อนเอเลี่ยนบุกด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเรื่องแม้ว่าจะสเกลแอ็กชั่นเล็กลงจากในอนาคต แม้กระนั้นก็เป็นความระทึกอีกแนวในแบบเอเลี่ยน 2 หรือแอบคล้าย ไอ้ตัวเขมือบโลก อยู่เช่นกัน แต่ว่าก็เป็นความสนุกสนานสนุกจบท้ายเรื่องไปอีกในลัษณะหนึ่ง ได้ไม่แพ้ฉากฝูงเอเลี่ยนกระหน่ำในอนาคตเลย
ตัวเรื่องจะต้องกล่าวว่าโคตรสนุกแล้วก็มองเพลิดเพลินบันเทิงใจมากมาย ๆ (จนถึงแอบรู้สึกเสียดายที่มิได้ลงโรงให้ผู้ชมในวงกว้างมากยิ่งกว่านี้) บอกตรง ๆ ว่าถ้าเกิดให้คิดข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องของเรื่องสำคัญ ๆ คงจะมีเพียงแค่ การที่เรื่องมีความคล้ายคลึงหนังดังหลาย ๆ เรื่องแบบขอยืมโน่นนี่มาผสมกันเพียงแค่นั้น จนถึงมองแอบโหลและก็ทายใจเรื่องได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งถ้าหากคนใดกันแน่ได้มองเอจออฟทูมอโร ก็คงจะรู้สึกได้เลยถึงความคล้าย แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องกล่าวว่าถ้าหากถูกใจ เอจแล้วคอยภาคสองอยู่ ประเด็นนี้ก็คือตอบแทนกันได้เลย อีกจุดที่รองลงมาเป็นพวกเหตุผลกับแนวความคิดเส้นเวลาต่าง ๆ บางครั้งอาจจะมิได้เน้นย้ำนัก เป็นตัวเรื่องก็พากเพียรชี้แจงหลาย ๆ อย่างให้มีเหตุมีผล แม้กระนั้นมันก็ยังพอเพียงช่องโหว่ให้โต้เถียงกันอยู่บ้าง
รวมทั้งเหตุการณ์ในช่วงท้ายเรื่องที่แอบจิกกัดอเมริกากับรัสเซียรวมทั้ง องค์การสหประชาชาติด้วย มันมองไม่ค่อยน่าไว้ใจไปหน่อยว่าประเทศมหาอำนาจของโลกในช่วงฉุกเฉินระดับสิ้นโลกนี้ยังมองโง่งมเหลือเกินหน่อยเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่คิดอะไรมากมาย นั่นก็คือเรื่องแบบเดิม ๆ ที่หนังแนววันสิ้นโลกใช้กัน ที่ให้ผู้แสดงนำได้ช่องช่วยโลกด้วยตัวเองมากยิ่งกว่าไปพึ่งรัฐบาลกลุ่มนี้
การมาลงสตรีมมิ่งของ เดอะ ทูมอโร วอร์ บอกเลยว่านี่เป็นความรื่นเริงใจที่มีความคิดว่าคุ้มสุด ๆ ตั้งแต่มองแอมะซอนไพร์ม มาเลย ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามพลาด ด้วยเหตุว่ามิได้มีบ่อยมากนักที่หนังฟอร์มยักษ์ระดับนี้จะมาลงในสตรีมมิ่งได้ รวมทั้งภาพก็จัดเต็มแบบ 4เค (แต่ว่าจะต้องมองในวัสดุอุปกรณ์ที่รองรับ) อีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคล้ายเอจออฟทูมอโร แต่ว่าก็ยังรับรองได้ว่าบันเทิงใจสนุกไม่แพ้กัน และไม่ใช่เพียงแค่แอ็กชั่น แต่ว่าตัวเรื่องก็มีการผูกปมดราม่ากับเส้นเวลาในแบบของตน บางครั้งอาจจะไม่ใหม่ แต่ว่าก็ทำให้ตัวหนังมีอะไรดี ๆ มากยิ่งกว่าฉากบู๊ผลาญแบบที่มองเห็นอีกด้วย