แนวสอบสวนค้นหา

แนวสอบสวนค้นหา ดิส อิส อะ ร็อบเบอรี่ เดอะ เวิลด์ เกรทเทส เอ สารคดีปล้นงานศิลป์บรรลือโลก

แนวสอบสวนค้นหา ดิส อิส อะ ร็อบเบอรี่ เดอะ เวิลด์ เกรทเทส เอ ปล้นงานศิลป์บรรลือโลก หนังสารคดี เน็ตฟลิกซ์

แนวสอบสวนค้นหา คดีชิงทรัพย์งานศิลป์จำนวนมากราคากว่า 200 ล้าน จากพิพิธภัณฑสถานศิลป์ในบอสตัน ที่เรื่องราวผ่านมากมายว่า 30 ปีก็ยังไม่คลี่คลาย สารคดี 4 ตอนสุดท้าย ตอนละ 50 นาที หัวข้อนี้เกิดเรื่องราวเจาะลึกคดีปล้นงานศิลป์จำนวนหลายชิ้นไปจากพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์อิซาเบลลา สจวต การ์ดเนอร์ ในเมืองบอสตัน

โดยรูปภาพโดยมากเป็นของแร็มบรันต์ ช่างวาดภาพคนดังเยอะที่สุดคนหนึ่งของโลก ซึ่งคดีเริ่มเมื่อปี 1990 จนกระทั่งมาถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะตามหาภาพกลับมาได้ แม้กระนั้นในสารคดีชุดนี้จะสืบเสาะหาเรื่องราวสถานะการณ์ใหม่ รวมทั้งลำดับให้มองเห็นความน่าจะเป็นว่าคนใดกันแน่เป็นฆาตกรในคดีนี้

ตัวหนังสารคดีเริ่มที่การเลียนแบบเหตุในคืนวันที่รูปภาพถูกปล้นไป โดยผู้ร้ายปลอมตัวเป็นตำรวจบอสตัน 2 คน และก็บุกแจ้งข้อกล่าวหาเลียนแบบแก่ รปภ. ที่ดูแลประตูอยู่ แล้วก็เลยจับเขากับคู่ซี้ผูกไว้ภายในห้องใต้ดิน ก่อนจะใช้เวลาลักขโมยรูปภาพกับงานศิลป์ะแบบอื่นสิบกว่าชิ้นไปจากที่นี่ และดูราวกับว่าเป็นงานเฉพาะเจาะจงตามใบสั่ง มิได้ลักขโมยตามราคาของภาพ เนื่องจากว่าหลายภาพที่มีมูลค่ามากยิ่งกว่ามิได้ถูกลักขโมยไปด้วย

ก่อนจะมีการแถลงข่าวใหญ่มโหฬาร เนื่องจากว่าเป็นคดีความลักงานศิลป์ที่มีมูลค่าสูงสุดในอเมริกาต่อจากนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ซึ่งตัวเรื่องจะตัดภาพฟุตเตจวิดีโอกับภาพนิ่งที่มีบันทึกเอาไว้ภายในสมัยนั้นมาลงให้มอง สลับกับการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวเนื่องในขณะนี้ ซึ่งมีตั้งแต่ว่า รปภ. ที่ถูกผูกและก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยมาตลอด จากการถูกผูกด้วยเทปกาวแบบแปลกประหลาด ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานในสมัยนั้นที่พึ่งพิงเข้ามารับตำแหน่งไม่ถึง 6 เดือน รวมถึงขโมยชิงทรัพย์งานศิลป์โด่งดังในสมัยก่อนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มาร่วมให้ข้อมูลด้วย

แนวสอบสวนค้นหา

แนวสอบสวนค้นหา ส่วนข้อมูลอีกด้านเป็นจากเอฟบีไอ ที่เป็นเจ้าของคดีตั้งแต่ตอนแรก

แนวสอบสวนค้นหา แต่ไม่สามารถที่จะไขคดีได้ แม้ว่าจะตั้งเงินรางวัลไว้สูงหลายล้านดอลล่าห์สำหรับผู้บอกข้อมูล และก็ตัวเอฟบีไอ เองก็แทบจะมิได้เปิดเผยกรรมวิธีการสอบปากคำให้มองเห็นมากมายสักเท่าไหร่ ในหัวข้อนี้ก็เลยมีเพียงแค่บางสิ่งประกอบ โดยมาจากคดีอื่น ๆ ของเอฟบีไอ ที่เกี่ยวพันกับมาเฟียในสมัยนั้น และก็ดูอย่างกับว่าเชื่อมโยงมายังคดีนี้

โดยที่เอฟบีไอ คาดว่าขโมยที่มีความเกี่ยวข้องในคดีนั้นได้ตายลงแทบหมดแล้ว จากการโดนเก็บปิดปาก แม้กระนั้นเอฟบีไอ ก็ยังตามแสวงหาภาพที่หายไปตลอดมาเรื่อยจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ถัดไป ลักษณะเด่นของสารคดีหัวข้อนี้ไม่ใช่การวินิจฉัยว่าผู้ใดเป็นผู้ร้าย เนื่องจากว่าหลักฐานเรื่องราวต่าง ๆ ยังไม่มีการันตีกระจ่างแจ้งว่าผู้ใดกันทำ เป็นเพียงแค่การตั้งข้อสมมติ แล้วก็ผู้ต้องสงสัยรายในที่สุดก็จำคุกจากคดีอื่น รวมทั้งพึ่งถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาในปี 2019

ด้วยเหตุนี้ตัวเรื่องก็เลยพรีเซนเทชั่นสิ่งจูงใจสิ่งที่ทำให้เกิดแวดวงใต้ดินที่มีความเกี่ยวข้องกับการขโมยงานศิลป์ ที่ว่ากันว่ามีขนาดใหญ่มากมายพันล้านดอลล่าห์ต่อปี และก็งานศิลป์เหล่านี้ก็ถูกยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนมือไป ๆ มา ๆ ทั้งโลก ผ่านทางแวดวงใต้ดินที่ตีราคางานศิลป์จากบนดินเหลือเพียงแค่ 20-30% แล้วก็มิได้มีมูลค่าเพียงแค่เงิน แต่งานศิลป์เหล่านี้ยังเป็นเสมือนใบรับรับรองต่อรองผ่อนปรนคดีต่าง ๆ ของผู้กระทำผิดกฎหมายตัวเอ้ทั้งหลายแหล่ด้วย

ซึ่งเป็นส่วนที่คนสามัญเกิดคาดว่างานศิลป์เหล่านี้มีมูลค่าในหลายแบบใต้ดิน ซึ่งไม่สามารถให้คนไหนดูหรือประมูลบนดินได้อีกเลย แต่ว่ามันก็ยังล้ำค่าในสายตาของผู้กระทำผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่ดี ถึงแม้เค้าเรื่องราวจะมีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างน่าดึงดูด แต่ว่าข้อด้อยของสารคดีหัวข้อนี้ตรง ๆ เลยก็อาจจะเพราะเหตุว่าพวกเราทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าคดียังผิดคลี่คลาย ข่าวหนังใหม่

เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่องเลยเปลี่ยนเป็นเสมือนอ้อมโลกไป ๆ มา ๆ วนกลับไปอดีตกาลในฉากเดิม ๆ มาถึงบทสัมภาษณ์ผู้ที่ยังอยู่ในขณะนี้ แต่ว่าแทบจะมิได้เข้าใจอะไรเสริมเติมขึ้นมาเลย เรียกว่ามองไปมีแม้กระนั้นน้ำมากมายกว่าเนื้อ เว้นแต่จุดเชื่อมโยงไปยังมาเฟียที่ถูกคาดว่าชิงทรัพย์งานศิลป์นี้แล้ว ส่วนอื่นก็มิได้มีอะไรน่าดึงดูด

รวมทั้งเรื่องก็จบลงแบบมิได้รับรองหรือเข้าใจอะไรเพิ่มเยอะแยะเหมือนอย่างที่คิด ทั้งการเลียนแบบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็มีไม่กี่ฉากวนไป ๆ มา ๆ ทำเป็นภาพเบลอ ๆ ตลอดระยะเวลา เพราะเหตุว่าไม่สามารถระบุตัวฆาตกรได้ชัดว่าเป็นคนใดกัน รวมทั้งปราศจากความตื่นเต้นสำหรับในการเดินเรื่องเลยแม้แต่น้อย เพราะเหตุว่าเรื่องเน้นย้ำตัดสลับเล่าเทียวไปเทียวมาแบบสารคดีเป็นจริงเป็นจัง จนถึงแอบสับสน ๆ เพราะว่าที่เล่าอยู่นี้เป็นช่วงไหน ถึงแม้เรื่องจะมีเส้นเวลาให้มองตลอด แต่ว่าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเพราะเหตุใดจะต้องย้อนวกวนไม่เรียงลำดับเรื่องให้สม่ำเสมอมองเข้าใจง่ายกว่านี้

ความฮาเต็มสิบแน่นอน

ดิสอิสอะร็อบเบอรี่เดอะเวิลด์เกรทเทสเอ ที่จะกล่าวถึงเรื่องราวของสารคดีชิงทรัพย์งานศิลป์

เกิดเรื่องราวที่จะกล่าวถึงเรื่องราว ของการสอบปากคำสอบปากคำการ ติดตามคดีชิงทรัพย์งานศิลป์จำนวนมากค่ากว่า 200 ล้าน ตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ที่แก่การใช้แรงงานแล้วก็การสอบสวนไต่สวนของเจ้าหน้าที่รัฐในอเมริกากว่า 30 ปี ก็ยังไม่คลี่คลาย

จนถึงทำให้เป็นหัวข้อทางด้านสังคม ที่ออกจะมีความน่าดึงดูดใจว่างานสิ่งพวกนั้น ไปอยู่ที่ใดและก็เจาะลึกเข้าไปในตลาดใต้ดิน ที่ดูเหมือนจะเป็นตลาดที่อยู่ในมุมมืดที่ไม่มีผู้ใดสามารถ สัมผัสได้แต่แปลงเป็นว่ามัน ยังคงเป็นหลักสำคัญสำหรับในการเล่าเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ อยู่พอเหมาะพอควรอย่างยิ่งจริง ๆ

แล้วก็ประเด็นสำคัญ ของประเด็นนี้เป็นคดีจากการขโมย ที่พิพิธภัณฑสถานศิลป์ที่บอสตันกับเรื่องราวก่อนหน้านี้นานยาวนานหลายปีแล้ว แต่ว่ายังไม่อาจจะแตะต้องอะไรได้เลย ลักษณะเด่น สำหรับคุณลักษณะเด่นของซีรีส์ หัวข้อนี้ที่มองเห็นได้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้วก็ชัดแจ้ง อย่างมากมายเลยก็คือเรื่องราวที่มีความน่าดึงดูดใจ กับการปล้นงานศิลป์ในอดีตกาลจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

มีการเชื่อมโยงไปถึงแวดวงรับอย่างแวดวงมาเฟียใต้ดิน และก็คิดถึงยิ่งคุยยิ่งเผชิญกับเรื่องราว ที่เรียกว่าออกจะเป็นใจความสำคัญทางด้านสังคมแต่ว่าไม่อาจจะเผยได้ และก็ส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ออกจะน่าดึงดูด กับส่วนต่าง ๆ กลุ่มนี้ที่ยังคงเป็นจุดที่ค่อนข้างจะมีความเด่นชัด ในส่วนประกอบรวมทั้งส่วนประกอบ ที่ออกจะมากมาย จุดบกพร่อง

สิ่งหนึ่งที่มองเห็นได้อย่างเห็นได้ชัด กับข้อตำหนิเลยก็คือคดี ยังมิได้มีความขี้คลายอะไรเลยและไม่ได้มีเค้าเงื่อนอะไรมากมายก่ายกองนัก แต่เปลี่ยนเป็นว่าเอามาทำเป็นเรื่องเป็นราว ที่ดูอย่างกับว่าให้มีความกว้างใหญ่ขายที่นาหนังเสียอย่างงั้น แม้กระนั้นมองเขาจริงแล้วแทบไม่มีอะไรก้าวหน้า ให้มองเห็นเลยด้วยไปกับการตัดสลับไปสลับมา ความฮาเต็มสิบแน่นอน

สำหรับเพื่อการเล่าถึงเรื่องที่ผ่านไปผ่านมาหลายระยะเวลาออกจะ มีความขี้เหนียวละโมบวนอย่างใหญ่โตและไม่น่าติดตามอย่างยอดห่วยแตกอย่างยิ่งจริง ๆ ทั้งการเลียนแบบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วมาราวกับตั้งมั่นทำให้มันเบลอไปเฉพาะแค่นั้น แล้วก็ใช้ฉากเดิมเล่าซ้ำวนไป ๆ มา ๆ เรื่อยจนกระทั่งทำให้งงมากสำหรับผู้ชมไม่น้อย

ภายหลังจากรับดูทั้งนั้น 4 ตอนตอนละ 50 นาทีที่ได้มองเห็นเรื่องราวเจาะลึกกับการปล้นงานศิลป์จำนวนมาก ในพิพิธภัณฑ์อย่าง พิพิธภัณฑ์อิซาเบลลา สจวต การ์ดเนอร์ ที่เมืองบอสตัน ที่กำลังจะได้มองเห็นถึงงานสิ่งต่าง ๆ ซึ่งถูกขโมย แล้วก็หายไปในงานพวกนั้นมีนักแสดงที่ได้รับความนิยม แล้วก็ได้รับความชื่นชมและก็กิตติศัพท์อยู่พอเหมาะพอควรเลยก็ว่าได้

ก็เลยเป็นอีกหนึ่งต้นแบบในหน้าที่ ที่ค่อนข้างจะมีความมากมายหลายในองค์ประกอบและก็ส่วนประกอบ ที่ออกจะมีความแจ้งชัด โดยเหตุนี้ ก็เลยทำให้การรับดูในทั้งยัง 4 ในตอนนั้นดูอย่างกับว่าจะเกิดเรื่องราวที่มองวนไป ๆ มา ๆ ที่เพราะคดีมันยังมิได้คหลบคลาย ก็เลยทำให้ส่งผลสรุปที่แจ่มชัดนั้นเอง

ซีรีย์ ประเด็นนี้ ก็เลยเป็นอีกเรื่องหนึ่งราวของการพยายาม ที่จะคลี่คลายเงื่อนแล้วก็มีข้อสมมติฐานต่าง ๆ มากแต่เปลี่ยน เป็นว่าเป็นเพียงแต่การคาดการณ์เพียงแค่นั้น ที่ยังไม่อาจจะสรุปได้นั่นเองก็เลยทำให้การต่อว่าดตามเรื่องตามราวนี้เสมือน เป็นแค่เพียงการดูเปลือกข้างนอก หรือมองว่ากำเนิดอะไรขึ้นในขณะ 30 ปีให้หลังกับการไต่สวนสอบปากคำ ของเอฟบีไอ ที่ล้มเหลวอย่างสม่ำเสมอและไม่ได้ มีอะไรก้าวหน้าแม้แต่น้อยเลย

เป็นเพียงปัญหาแต่ว่าไม่สามารถที่จะไต่สวนหรือปิดคดีได้ หนังสารคดี 4 ตอนสุดท้าย ที่ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแวดวงขโมยงานศิลป์ว่ามีมูลค่าในแวดวงใต้ดินเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นในส่วนไขคดีเกือบจะมิได้มีอะไรให้สัมผัสเป็นหลักฐานบ่งชัดได้เลย ด้วยเหตุว่าตัวคดีจริงที่เอฟบีไอ ทำมากยิ่งกว่า 30 ปี ก็ยังไม่อาจจะปิดหรือการันตีผู้ร้ายได้เลยแม้กระทั้งผู้เดียว