สมชื่อทนายมาเฟีย

สมชื่อทนายมาเฟีย วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย ดาร์คคอมเมดี้เข้มข้นพร้อมดราม่าสุดชอกช้ำใจ

สมชื่อทนายมาเฟีย วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย ซีรีส์ประเทศเกาหลีแนวดาร์คคอมเมดี้ ที่เข้มข้นเผ็ดร้อนรุนแรงกับการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมในสังคม

สมชื่อทนายมาเฟีย โดยทนายมาเฟียสุดต่ำช้าจากอิตาลี ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองแบบฝืนแปลงมาเป็นผู้รักษาปกป้องความเที่ยงตรง เรื่องราวของวินเชนโซ่ (รับบทบาทโดย ซง จุง กิ) ทนายความที่ปรึกษา มาเฟียชาวอิตาลีกลับไปยังหลักแหล่งของตนเองที่ประเทศเกาหลี เพื่อค้นหาทองคำแท่งที่ฝังอยู่ใต้อาคารในโซล

ทำให้เขาเข้ามาพัวพันสำหรับในการต่อสู้ทางด้านกฎหมายกับกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ และจำนนต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม โดยร่วมกับทนายสาว ฮงชายอง (เล่นบทโดย จอนยอบิน) ตกลงประเด็นนี้ย้ำขำขันหรือดาร์คชั่วร้าย ๆ กันแน่? วินเชนโซ่ ซีรีส์ที่มองดูจากรูปหน้าข้างนอกมีความรู้สึกว่าจะเลวร้าย แต่พอเพียงเริ่มเรื่องสองช่วงแรกแปรไปเป็นแนวตลกโอเวอร์แอ็กติ้งของเหล่านักแสดง ซึ่งทำเอาผิดจากที่คิดไปมาก

หลาย ๆ คนบางครั้งก็อาจจะผิดหวังที่เรื่องราวเน้นตลกขบขันเบาสมองมากกว่าซีเรียสเป็นบ้าเป็นหลัง (มีเพียงแต่ตอนเปิดเรื่องที่อิตาลีที่มองดูเลวทราม) แถมมุกขำก็ไม่ค่อยครื้นเครงอะไรเยอะแยะ ฝืด ๆ ซะมากมาย ไปย้ำความโอเวอร์แอ็กติ้งของนักแสดงต่าง ๆ แบบซีรีส์ญี่ปุ่นที่คนไม่ใช่น้อยก็ชิงชังจุดนี้อย่างเดียวกันถึงมาดูประเทศเกาหลี

โดยหลัก ๆ ความขำขันก็มาจากนักแสดงนำชายที่ทำเป็นนิสัยเนี๊ยบ ๆ วางท่าหล่อแบบมาเฟียอิตาลีมาใช้กับที่ประเทศเกาหลี และก็เจออะไรล้นหลามที่ขัดใจไม่เหมือนกับตอนอยู่อิตาลี แถมยังจำเป็นต้องมาขจัดปัญหาให้ผู้เช่าพลาซ่ากำลังถูกรื้อถอน ซึ่งเป็นที่เเขาเอาทองมาแอบไว้ และต้องหาทางขนออกมาโดยไม่ให้คนไหนกันรู้ ซึ่งเพศผู้เช่าแต่ละคนก็มีนิสัยบ๊อง ๆ ต่าง ๆ นา ๆ

เป็นมุกให้พระเอกจำเป็นที่จะต้องปวดหัวกับความประพฤติปฏิบัติเลอะเลือน ๆ เหล่านี้ โดยที่ตัวเองก็ทำอะไรรุนแรงแบบตอนอยู่ที่อิตาลีไม่ได้ แม้ว่าต้องพูดว่าสองช่วงแรกเป็นเพียงแต่ออเดิร์ฟ เมื่อไปสู่ตอน 3 เรื่องราวเริ่มไต่ระดับ ตัวพระเอกเองจากที่นิสัยอวดดี ๆ ก็เริ่มเผยให้เห็นมุมดี ๆ ที่ปกปิดไว้ จนตราบเท่าตอนสุดท้ายอีพี3 เรียกว่าเป็นจุดแปลงครั้งใหญ่ของเรื่อง ข่าวหนังใหม่

แน่ใจว่าผู้ชมทุกคนก็คงช็อคที่เรื่องราวกลับจากแนวตลกโปกฮาเปลี่ยนแปลงมาเป็นโศกการแสดงที่เกิดกับคนที่เขาเริ่มผูกพันรวมทั้งตัวเขาเองก็โดนหางเลขไปด้วย ซึ่งเพียงพอเรื่องราวกลับแม่ร์คสุดความสามารถ ทำให้เราได้เห็นเลยว่า ซีรีส์หัวข้อนี้มีของ และก็เรื่องราวถัดจากนี้ก็คือของจริงสมชื่อทนายมาเฟีย และก็ยังเดินเรื่องด้วยความรวดเร็วล้นหลาม ๆ ถึงขั้นที่ว่าพล็อตที่ปูไว้ในตอนสุดท้ายอีพี3 ใหญ่มหึมา ถูกจัดแจงภายในตอนต่อมาอีพี4 ในทันทีทันใด

ทั้ง ๆ ที่จะยืดเรื่องไปก็ยังทำเป็น แม้กระนั้นซีรีส์จัดแจงจบแล้วก็เปิดตัวร้ายหลักของเรื่องในทันทีทันใดตอนสุดท้ายอีพี4 ชี้ให้เห็นเลยว่าเรื่องราวภายหลังจากนี้จะยิ่งดาร์คขึ้นไปอีกแน่นอนโดยหัวข้อนี้มีลำดับการเล่าเรื่องแบบจัดแจงคดีอาทิตย์แล้วก็เคส ที่ถูกเปิดเงื่อนมาเรื่อย ๆ

แล้วมีส่วนเชื่อมโยงกับอดีตของผู้แสดงนำฝ่ายชายโดยตรง ซึ่งบางเคสก็เฮฮาจำนวนมาก บางเคสก็ดุเด็ดเผ็ดมันเหี้ยมโหดสุด ๆ แต่ทุกตอนก็ยังคงความขำขันไว้ตามเคย แต่ว่าก็มองดูพอดิบพอดีดีมากยิ่งกว่าสองตอนแรกจำนวนมากครับผม

สมชื่อทนายมาเฟีย

สมชื่อทนายมาเฟีย ได้เห็นจุงกิในหลายหน้าที่สุดรั่ว

นอกจากบททนายมาเฟียทำหน้าเข้ม ๆ จองหองหล่อเนี๊ยบตลอดเวลาแล้ว ในแต่ละตอนผู้แสดงนำชายของเรายังได้เปลี่ยนลุคไปบ่อยไม่ซ้ำกัน โดยเป็นแผนที่เขาคิดขึ้นเพื่อแสดงบทหลอกเหยื่อผู้มีอำนาจเพื่อล้มบาเบล (บริษัทตัวร้ายในเรื่อง) แม้นักแสดงนำชายจะคิดแผน แต่ก็ไม่ได้ว่าจะเล่นเอง อุตสาหะหาทางให้คนอื่น ๆ มารับบทนั้น

แม้ว่าในที่สุดก็กลายเป็นเขาต้องมารับหน้าที่นี้ทุกคราว ซึ่งบอกเลยฮามาก ๆ ผู้ชมจะได้เห็นจุงกิในบทแปลก ๆ ที่หาดูไม่ใช่ง่าย ๆ แน่ ๆ อย่างตอนหนึ่งในอีพี8 ที่ฮาสุด ๆ เป็นจำเป็นที่จะต้องเอาอย่างเป็นเกย์ไปจีบหนุ่มน้อยประธานแบงค์เพื่อชักพาให้เขาหลงใหล ซึ่งนักแสดงที่มาเล่นบทสมทบพวกนี้ก็เข้าขากันดีกับผู้แสดงนำชาย

จนกระทั่งกลายเป็นตอนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงกันมากไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ๆ เลยที่ซีรีส์ประเทศเกาหลีจะมีบทเกย์ ออกมาอย่างนี้ รวมทั้งประพฤติชอบด้วย ถึงแม้ผู้ชมจะขำขี้แตกขี้แตนก็ตามขอรับ ดาราสมทบเสริมความตลกขบขันเยอะมาก หัวข้อนี้เต็มไปด้วยตัวละครสมทบสายฮากันทั้งเรื่อง หลัก ๆ เลยก็คือเหล่าผู้เช่าพลาซ่าที่ผู้แสดงนำชายจึงควรประมือไปด้วยแอบหลอกไปเหตุว่าจะช่วยย้ายที่ให้ดี ๆ (ซึ่งจริง ๆ จะเอาทองในตึกออกมา)

อย่างผู้แสดงพระที่มาเช่าที่ไว้และนั่งทับประตูห้องลับเข้าทองของผู้แสดงนำชาย หรือเชฟที่เปิดร้านอาหารอิตาลี แม้กระนั้นถูกผู้แสดงนำชายจับได้ว่าเป็นเชฟเอาอย่าง ตัวตลกไม่เว้นแม้แต่คนในหน่วยงานความมั่นคงยั่งยืนมือจับตามองผู้แสดงนำชายอยู่คนเดียวตั้งแต่กลับมาประเทศเกาหลี

แต่เพียงพอรายงานเบื้องบนไปกลับไม่มีผู้ใดแน่ใจว่ามาเฟียตัวเอ้นี้มีปัญหา ก็เลยลงทุนมาสืบเอง กลับต้องมาพบว่าผู้แสดงนำชายดันปฏิบัติดีกับคนไปทั่ว ก็เลยแปลงมาเป็นอยู่ข้างผู้แสดงนำชายซะงั้น ซึ่งดารากลุ่มนี้ไม่ได้ถูกใส่มาเพื่อความตลกเพียงอย่างเดียว แนวสอบปากคำ

หากแม้เป็นตัวละครที่มีสกิลส่วนตัวไม่เหมือนกัน แล้วก็จะมาร่วมมือทำภารกิจกับผู้แสดงนำฝ่ายชายในหลังจากนั้น (แบบฮา ๆ ไปด้วย) ทุกคนในพลาซ่ามีความลับ ที่เซอร์ไพรซ์อีกอย่าง เหล่าผู้เช่าที่ดูต๊อง ๆ ในตอนแรก แทบทุกคนมีเบื้องหลังอีกด้านที่ร้ายกาจเกินคาด อย่างเถ้าแก่ร้านรับซักผ้าก็มีสกิลต่อยตีจากการเป็นอันธพาลเก่าในระดับดีที่สุด แล้วก็ไม่ได้ทำออกมาในแนวขำขัน เป็นแอ็กชั่นมันส์ ๆ ไม่แพ้ฉากบู๊ของวินเชนโซ่เลย

ซึ่งเรื่องราวจะเบา ๆ เผยความลับของผู้เช่ามาบ่อยและจากนั้นก็เป็นจุดหักมุมที่มีส่วนกลับเรื่องทุกหน ซึ่งทำให้ผู้ชมรอคอยติดตามว่าต่อไปคนใดกันแน่จะเปิดตัวออกมาอีก ซึ่งจนตราบเท่าข้างหลังเรื่องก็ยังเผยออกไม่หมดเลยจ๊าขอรับ ฮงยูซาน แสดงบทบาทโดย ยูแจมยอง ที่คนบางทีอาจจำกันได้จากเรื่องอีเทวอนคลาส รับบทบาทประธานชางกา ตัวร้ายของเรื่องที่เล่นได้สมหน้าที่มากมายจนถึงคนชิงชังสุด ๆ

แต่มาประเด็นนี้เขาเป็น ทนายผู้เที่ยงธรรม ช่วยเหลือคนตรากตรำโดยไม่เห็นแก่เงิน แล้วก็เป็นตัวละครที่เชื่อมกับอดีตสมัยของ วินเชนโซ่ โดยตรง ซึ่งเรื่องผูกกันไว้แบบบรรเจิด กลายเป็นเงื่อนดราม่าซึ้ง ๆ เล่าถึงอดีตที่เจ็บของผู้แสดงนำชาย ผ่านสายตาทนายฮงที่เห็น และก็แปลงเป็นดาราที่ทำให้ผู้แสดงนำชายพลิกกลับจากความเย็นชากับความไม่เป็นธรรม มาเป็นปีศาจร้ายผู้ต่อสู้กับเหล่าภูติผีปีศาจด้วยกันเองตอนท้าย

แนวสอบปากคำ

เหล่าตัวร้ายของเรื่อง

เรื่องราวถูกวางไว้ว่าผู้แสดงนำชายควรต้องสู้กับความไม่ชอบธรรมแบบจำยอม ซึ่งเหล่าตัวร้ายในประเด็นนี้ก็คือ กลุ่มคนเหลวแหลกทุกระดับในข้างเมือง ที่ร่วมมือกับบริษัทยาในเรื่องเพื่อหาผลประโยชน์ บทจับจับเอาการจริงของบริษัทยาที่โกง ผลิตยามาเพื่อทำให้คนเสพติดแบบไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งก็ต้องผ่านหมอรับรอง ที่ทำงานทนายความใหญ่ที่ช่วยสะสางทางกฎหมายให้ขายได้

รวมทั้งตัวบริษัทยาในเรื่องเองก็ทำตัวเหมือนมาเฟียสุดป่าเถื่อน ฆ่าคนเป็นผักปลา เรียกว่าเรื่องใส่จุดนี้มาแบบร้ายกาจสะเทือนใจเยอะมากจริง ๆ ที่กลุ่มคนเหล่านี้รวมตัวกันทำผิด จนกระทั่งผู้แสดงนำชายต้องไล่เตรียมการคิดเงินให้หมดไปจากสังคม ด้วยวิธีการแบบมาเฟียอิตาลีที่เขาถนัด นอกเหนือจากนั้นแล้วตัวเรื่องยังซ่อนร้ายหลักบอสใหญ่ของเรื่องไว้อีกคน ซึ่งพูดได้ว่าเซอป่าส์ด้วยเหมือนกันที่มีบทบอสระดับนี้วางไว้อีกชั้น

พาร์ทความรักของเรื่อง ตัวเรื่องวางคาแรกเตอร์ให้วินเชนโซ่ค่อนจะเป็นคนเย็นชา และก็ดูไม่ใส่ใจในเรื่องความรักเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็สมเหตุผลกับเรื่องที่เขายึดมั่นกลับมาประเทศเกาหลีเพื่อหอบทองหนีไปประเทศอื่นเท่านั้นเอง โดยมีเวลาเพียง 1-2 เดือนจำเป็นต้องจัดแจงเรื่องนี้ให้ได้ และตัวทนาย ฮงชายอง ที่เป็นนางเอกก็เปิดตัวมาว่าเป็นสาวบ้างานบ้าเงิน ถึงขั้นยอมทำอะไรที่ผิดอย่างการเอาเงินจ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกข้างให้ป้ายความผิดพ่อของคุณ

ก่อนจะเรื่องจะกลับมาให้ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในเวลาต่อมา แต่บทในตอนแรกนี้ก็ยังไม่ได้สวีทอะไรเยอะแยะ แม้ว่าเรื่องก็ปูไว้นิด ๆ ว่าผู้แสดงนำชายก็มีความห่วงนางอยู่บ้าง ซึ่งภายหลังก็กลายเป็นส่วนที่เชิญชวนสวีทของเรื่อง (แต่เรื่องนี้เกือบไม่มีฉากจูบเลย) เล่าเงื่อนในอดีตสมัยของวินเชนโซ่ผ่านเรื่องราวของแม่ เรื่องเริ่มมาก็ไม่ได้มีเอ่ยเกริ่นถึงภูมิหลังของผู้แสดงนำชายเลย เว้นเสียแต่ทราบว่าพ่อเลี้ยงของผู้แสดงนำชายตายในตอนแรก

ซึ่งการกลับมาประเทศเกาหลีเพื่อเอาทองที่หลบซ่อนอยู่ ก็ดูท่าผู้แสดงนำชายจะเป็นแค่เพียงมาเฟียไม่มีหัวจิตหัวใจเฉย ๆ หากแม้เรื่องจะเบา ๆ ผูกปมกลับมาที่แม่ของผู้แสดงนำฝ่ายชายที่ยกเขาให้ครอบครัวอิตาลีไป ซึ่งเราจะเบา ๆ ได้รับรู้สมัยโบราณของวินเชนโซ่กับแม่ของเขาไปเรื่อย ๆ เป็นดราม่าแบบเบา ๆ ซึมลึกเกาะชอบใจผู้ชม เนื่องจากผู้แสดงนำชายไม่ยินยอมกล่าวบอกความเป็นจริงกับแม่

แม้ว่าจะถึงช่วงเวลาท้ายที่สุดของชีวิตแล้ว (แม่พระเอกเป็นโรคโรคมะเร็ง) ซึ่งนี่เป็นเงื่อนสำคัญหลักของเรื่องในจากนั้น และเป็นข้อเสียเดียวของนักแสดงนำชายที่มีอยู่ด้วย แต่ก็ยังคงความขำขันไว้อยู่ด้วย เรื่องราวมีจุดพีคหลายที แม้กระนั้นก็ต้องทำใจว่านี่เป็นซีรีส์แนวขบขันดาร์คคอมเมดี้ หลายแบบก็เลยไม่สมเหตุผลจำนวนมาก ผู้แสดงนำฝ่ายชายเก่งเทวดา ทั้งดวงดีครบสูตร ในขณะที่ตัวร้ายแรก ๆ ใกล้เคียงกับผู้แสดงนำชาย แต่มาต่อมาบทอ่อนลงยวบยาบ จนกระทั่งทำให้ตอนสุดท้ายของเรื่องนี้เล่นง่าย ไม่แปลกใหม่ ขาดความตรึงใจแบบช่วงแรกไปอย่างสิ้นเชิง