แนวสอบปากคำ

แนวสอบปากคำ ลอว์สคูล (เน็ตฟลิกซ์) นิสิตกฎหมายที่เปลี่ยนมาเป็นสายลับต้อง

แนวสอบปากคำ ซีรีส์ประเทศเกาหลี เน็ตฟลิกซ์ เรื่องใหม่ ลอว์สคูล ชื่อไทย ชีวิตผู้เรียนข้อบังคับ

แนวสอบปากคำ เรื่องราวของศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายที่แข็งกระด้างแล้วก็บรรดาลูกศิษย์ จำต้องมาสืบคดีการฆาตกรรมในสถานศึกษาชั้นแนวหน้าของพวกเขาเอง ซีรีส์แนวสืบคดีการฆ่าที่เปลี่ยนแปลงแนวผู้แสดงนำอาชีพเดิม ๆ อย่างตำรวจ สายสืบ มาเป็นอาจารย์กับผู้เรียนข้อบังคับ ซึ่งนับว่ามีความแปลกใหม่น่าติดตาม ฉีกกฎเดิม ๆ ออกไป

โดยตัวเรื่องเริ่มด้วย “ยางจองฮุน” (สวมบทบาทโดย คิมมยองมิน) สมัยก่อนอัยการที่ผันตัวมาเป็นคุณครูสอนข้อบังคับคดีอาญาในมหาวิทยาลัยข้อบังคับฮันกุกที่มีชื่อ ในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำลังเปิดศาลเลียนแบบคดีแรกให้เหล่าเด็กนักเรียนได้ร่วมว่าความในตำแหน่งต่าง ๆ “ซอพย็องจู” อาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่นี้กลับตายปัญหาในห้องเช่าตนเอง เหล่าผู้เรียนที่เกี่ยวแปลงเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ในคดีรวมทั้งบากบั่นแสวงหาความเป็นจริงด้วยตัวเอง

โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็น ยางจองฮุน อาจารย์ของพวกเขาเองที่มีสมัยก่อนมีความขัดแย้งกับคุณครูที่ตายไป และก็ยิ่งสืบลึกมากเพิ่มขึ้นเยอะแค่ไหน คดีนี้ยิ่งสลับซับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับหลายท่านในมหาวิทยาลัยที่นี้มากเพิ่มขึ้นซีรีส์เป็นแถวสอบสวนหาฆาตกรในคดีการฆาตกรรมรวมทั้งอาชญากรรมที่เกี่ยวโยงกับคดีในเรื่องโดยกระจ่างแจ้ง ข่าวหนังใหม่

แม้กระนั้นเลือกดำเนินเรื่องด้วยผู้แสดงที่ทราบข้อบังคับ อีกทั้งจากอาจารย์ยางจองฮุนเองที่เป็นตัวละครหลักที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัย จำเป็นต้องติดตะราง รวมทั้งคิดหาทางออกในทางข้อบังคับ กับพ่วงสืบคดีในแบบที่เป็นได้ด้วยตัวเองจากการคาดการณ์จากหลักฐานต่าง ๆ ในจุดเกิดเหตุ ด้วยความเป็นอัยการเก่าเก๋าข้อบังคับด้วย

ตัวเรื่องก็เลยให้ตัวนำมีกลเม็ดเด็ดพรายเล่เหลี่ยมในทางข้อบังคับกับตำรวจรวมทั้งอัยการที่มาทำคดีของเขาแบบปักธงไว้ก่อนเลยว่าเขาเป็นคนร้าย โดยข้างดารานำชายมีตัวละครหลักอีกคนเป็นอาจารย์สาวสอนคดีแพ่ง “คิม อึนซุก” (สวมบทโดย อีจองอึน) ซึ่งอุตสาหะกีดกันการปลดจองฮุนออกจากมหาวิทยาลัย ด้วยการพยายามกล่าวโทษจริงในคดีนี้เหมือนกัน (แม้กระนั้นบทในเวลานี้ ตอน1-4 ยังไม่เด่นมากมาย ทั้งที่เป็นตัวละครหลักในแผนผังเรื่อง)

แนวสอบปากคำ

แนวสอบปากคำ หัวข้อนี้เป็นแถวไต่สวนหรือแนวข้อบังคับกันแน่?

การพิสูจน์อีกทางหนึ่งเป็นเหล่านักแสดงลูกศิษย์ของยางจองฮุน ที่นำโดยนักแสดงหลัก คังซอล เอ (รับบทบาทโดย รยูฮเยยอง) ผู้เรียนสาวที่มีความเชื่อมั่นในตัวคุณครูของคุณอย่างมากว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ถึงแม้ตนเองจะมิได้แม่นข้อบังคับมากมายก็ตาม

อีกคนเป็น “จุนเฮวี” (เล่นบทโดย คิมบ็อม) เด็กนักเรียนเก่งเก่งข้อบังคับที่สอบเนตำหนิรอบสองผ่าน (สอบกฎหมายทนาย) ที่มาช่วยสืบคดีนี้อีกคน โดยที่ตัวเขาเองก็มีเงื่อนเกี่ยวพันกับคุณครูที่ตายไปเหมือนกัน ซึ่งทั้งยัง 2 คนนี้เป็นผู้แสดงเมนหลักข้างศิษย์ที่มีความรู้ความสามารถคนละด้าน อย่างคังซอลหากแม้มองเป็นคนไม่เก่งข้อบังคับ แต่มีความหลักแหลมสำหรับการขจัดปัญหาเฉพาะหน้าได้ดิบได้ดี แล้วก็เห็นบางจุดที่ผู้อื่นไม่เห็น

เวลาที่จุนเฮวีเก่งข้อบังคับมากมายอยู่แล้ว ก็บากบั่นใช้ตนเองเป็นตัวล่อเพื่อช่วยอาจารย์ตามหาเรื่องจริงว่าฆาตกรเป็นคนใดกัน ยิ่งไปกว่านี้ก็มีตัวละครรองอื่น ๆ อีกคนไม่ใช่น้อยที่ปฏิบัติภารกิจไม่ตรงกันหรือส่งเสริม ที่เด่น ๆ ในระยะแรกก็คือ จิโฮ (สวมบทโดย เดวิด ลี) ที่ในเรื่องเป็นผู้ที่เก่งข้อบังคับรองจากจุนเฮวีเพียงแค่นั้น และเป็นเพื่อนร่วมหอพักกับเขาอีกด้วย เตรียมปาดน้ำตา

เมื่อนักแสดงเป็นคนทราบข้อบังคับทั้งปวง การสอบสวนในประเด็นนี้ก็เลยใช้ข้อบังคับนำ สืบไปในทางที่ข้อบังคับระบุ เป็นควรมีหลักฐาน ผู้เห็นเหตุการณ์ แล้วสืบสาวไปในทางที่ทำให้ได้ประโยชน์ในทางข้อบังคับกับจองฮุนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ซึ่งการที่เรื่องใช้ข้อบังคับนำก็ทำให้ผู้แสดงทุกตัวในเรื่องจะต้องกล่าวแบบท่องข้อบังคับมาตราต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้ฟังกันตลอดระยะเวลา จนกระทั่งแปลงเป็นความยาก

สำหรับการอ่านซึมซับที่มารัวยิบให้ทัน แต่ว่าถึงอ่านทันก็อาจจะจำต้องมึน ๆ อยู่บ้างกับการถกข้อบังคับโต้เถียงกันในเรื่องที่แม้ว่าจะเป็นหลักฐานเริ่มเข้าใจ แม้กระนั้นเรื่องก็มีมุมใจความสำคัญทางด้านกฎหมายที่จะต้องอาศัยการคิดตามอยู่เสมอเวลา ซึ่งคนคิดตามไม่ทันก็มองได้ แต่ว่าอาจไม่สนุกหรือรู้เรื่องทันไปกับเรื่องได้มาก ก็เหลือเพียงตอนกลับเงื่อนไป ๆ มา ๆ ว่าคนใดกันแน่เป็นคนร้ายเพียงแค่นั้นที่บางทีอาจจะยังย่อยง่ายและก็น่าติดตามอยู่

เตรียมปาดน้ำตา

คดีหลักมีคดีเดียวหรือหลายคดี

ประเด็นนี้เปิดมาเป็นคดีความการฆาตกรรมปิดบัง แม้กระนั้นถัดมาเพียงพอเรื่องสืบไปเรื่อยตัวเรื่องเริ่มผูกคดีเก่าที่ค้างคาไว้ของตัวนำจองฮุนเข้ามาเกี่ยวด้วย ซึ่งก็มีคดีชนเด็กแล้วหนีที่เขาปิดมิได้คดีเดียว รวมทั้งคดีนี้ยังมีที่มาจากคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กของ “อีมันโฮ” ผู้กระทำผิดกฎหมายตัวร้ายที่ถูกปล่อยตัวปล่อยใจด้วยทานบน

รวมทั้งจะต้องใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว มาเป็นตัวละครที่รอรบกวนรวมทั้งจัดแจงก่อคดีอีกรอบ โดยตอนนี้เจ้าตัวเรียนข้อบังคับมาอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งมักใช้เล่เหลี่ยมตามกฎหมายมาให้ท่านกับตน และก็งัดข้อกับข้างตัวนำจองฮุนกับลูกลูกศิษย์ด้วย นอกเหนือจากนั้นแล้วตัวเรื่องก็ยังมีคดีตลอดจากคดีแรกแตกหน่อเพิ่มมาอีก ในแต่ละอาทิตย์

โดยเบา ๆ เปิดตัวละครที่มองไม่เกี่ยวข้องในตอนแรก ให้เปลี่ยนมาเป็นผู้ต้องสงสัยที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีคนร้ายรรม ซอพย็องจู เพิ่มมาอีก สำหรับผู้ที่คาดหมายว่าประเด็นนี้มีพาร์ทโรแมนติก เนื่องจากว่าผู้แสดงหลักก็สวยกันทั้งหมด โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงในเรื่อง แม้กระนั้นจำต้องพูดว่าเท่าที่มองมาเวลานี้ ตอน1-4 ยังมิได้มองเห็นวี่แววเลิฟไลน์อะไรอย่างงั้น มีเพียงการชอบกันไป ๆ มา ๆ ในกรุ๊ปสหาย ของผู้เรียนสาว

คังซอลเอในเรื่องมีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันของคุณอีกผู้ที่เป็นคู่ต่อสู้ชื่อเดียวกันเลยถูกเรียกว่าคังซอลบี (เล่นบทโดย ลี ซู คยอง) ที่ถูกวางไว้ให้ถูกใจจุนเฮวีทั้งสอง ซึ่งบทที่ตรงนี้มีไว้เพื่อนักแสดงนั้นรู้สึกต้องการเข้าข้างลบล้างกับคดีที่เกิดขึ้นเพียงแค่นั้น ยิ่งผู้แสดงนำอย่างจองฮุนยิ่งเป็นไปไม่ได้มีบทอย่างนี้ เพราะว่านักแสดงนี้แข็งกระด้างออกแนวโหดเหี้ยม ๆ คิดกับทำทุก ๆ อย่างโดยชอบด้วยกฎหมาย และก็ไม่มีผู้แสดงหลักในแผนผังที่เป็นนางเอกรุ่นใหญ่เลย

เว้นเสียแต่ปัญหาของแนวทางการทำความหัวใจตามในเรื่องข้อบังคับที่ผู้แสดงบอกออกมารัว ๆ จนกระทั่งตามอ่านก็ทุกข์ยากลำบากแล้ว ที่เห็นกระจ่าง ๆ เป็นการที่บทมานะให้ทุกผู้แสดงนอกจากกรุ๊ปตัวหลักเป็นพวกทราบข้อบังคับกันไปหมด กระทั่งมองเกินธรรมดาออกแนวเฟค ๆ ไป ๆ มา ๆ ก อย่างน้องสาวของคังซอลเอ ที่เป็นนักเรียนประถมก็กลับทราบข้อบังคับ มองฉลาดหลักแหลมเกินวัย

ผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างอีมันโฮก็แม่นข้อบังคับเพื่อป้องกันภัยเสียอย่างมาก คนทำสำเนาในสถานที่เรียนก็เก่งรู้เรื่องข้อบังคับทันเด็กนักเรียนหมด เปลี่ยนเป็นทุกนักแสดงในเรื่องพากเพียรวางมาดอวดรู้วิชาความรู้ข้อบังคับกันตลอดระยะเวลาในบทสำหรับพูดกระทั่งมองเกินจริงไป ๆ มา ๆ ก แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่คิดอะไรมากมาย เห็นว่าซีรีส์เพียรพยายามจุดโฟกัสให้มีบทข้อบังคับจากคนหลาย ๆ แบบมาทุกเพศทุกวัยมาประกอบเรื่องก็รู้เรื่องได้ ราวกับที่มักบอกกันว่าพลเมืองทุกคนจำต้องทราบข้อบังคับ

จะมากล่าวถึงว่าไม่เคยรู้มิได้เวลาโดนคดี อีกจุดเป็นตัวเรื่องปูความสามารถเกี่ยวกับข้อบังคับไว้กับข้างผู้แสดงนำเพียงแค่นั้น เพียงพอมาเป็นข้างตำรวจ อัยการ ทนายความแผ่นดิน คุณครูที่อยู่ตรงกันข้ามกับผู้แสดงนำ ทั้งสิ้นเปลี่ยนไปเป็นตัวละครที่ใช้การไม่ได้ ไม่ค่อยทราบเรื่องราวข้อบังคับ ตามไม่ทันใช้ข้อบังคับของข้างตัวนำไปทั้งสิ้น ซึ่งมองเป็นบทแบบยัดให้เป็นตัวละครทึ่ม ๆ อ่อนข้อบังคับไปซะทั้งผอง

แทนที่จะเป็นการต่อสู้ด้วยข้อบังคับแบบเข้มข้นจากทั้งคู่ฝั่งอย่างสมเหตุผล นอกนั้นเรื่องยังพากเพียรกลับหักมุมทุกสัปดาห์ต่อยอดจากคดีแรกให้มีผู้ต้องสงสัยเพิ่ม และอุตสาหะหักมุมกลับอีกครั้ง จนถึงเปลี่ยนเป็นเสมือนเพียงแค่อุตสาหะตั้งมั่นหลอกผู้ชม โดยการทำให้ผู้แสดงมองน่าสงสัยเกินจริงไป เปลี่ยนเป็นบทที่วาดแบบคิดจะให้เรื่องกลับอย่างไรก็กลับได้

โดยไม่ค่อยมีแหล่งที่มาให้รู้เรื่องได้ด้วย อย่างการที่ผู้แสดงนำจองฮุนจู่ ๆ ก็ไปพบหลักฐานใหม่ในจุดเกิดเหตุง่าย ๆ ในตอนสอง ก็เป็นอะไรที่เชิญชวนงงงวยแบบไม่มีคำชี้แจงที่สมเหตุผลได้เลย บทสนทนารัวเรื่องข้อบังคับยากที่คนสามัญจะตามทัน จนกระทั่งตัวเรื่องราวกับมองการบลัฟกันทางประเด็นข้อบังคับให้มองสนุกสนานแบบผ่าน ๆ ไปแค่นั้น

ความสนุกสนานร่าเริงของเรื่องที่ผู้ชมพึงพอใจตามทันย่อยง่ายก็เลยเหลือเพียงแค่การเปลี่ยนเงื่อนผู้ร้ายในคดีที่สลับซับซ้อนแตกย่อยเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เรื่อยจากคดีแรก แต่ว่าบทก็ยังมีจุดที่ขาดความสมเหตุผลสำหรับการกลับเรื่องราวด้วยด้วยเหมือนกัน แล้วก็มองเป็นสูตรสำเร็จเยอะเกินไปสำหรับการใส่ผู้ต้องสงสัยรายใหม่ ๆ มาทุกสัปดาห์แตกหน่อเพิ่มมาเรื่อยแต่ว่าก็มิได้เป็นฆาตกรจริง ๆ สักครั้ง