เตรียมปาดน้ำตา

เตรียมปาดน้ำตา มูฟทูเฮฟเว่น ซีรีส์ที่ถ่ายทอดความสวยงามและก็ความหมายของการมีชีวิต

เตรียมปาดน้ำตา มูฟทูเฮฟเว่น (เน็ตฟลิกซ์) ธุรกิจกวาดสิ่งของผู้เสียชีวิตที่สื่อความหมายลึกซึ้งถึงคนเป็น

เตรียมปาดน้ำตา มูฟทูเฮฟเว่นซีรีส์ประเทศเกาหลีเน็ตฟลิกซ์10 ตอนสุดท้ายฤดู เรื่องราวของผู้ชายที่เป็นแอสเพอร์เกอร์ (ออทิสติกส์แบบหนึ่ง) กับธุรกิจบริการตระเตรียมปัดกวาดจุดเกิดเหตุคนตาย ที่ช่วยส่งต่อความจริงจังของคนเสียชีวิตไปพบคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซีรีส์ประเทศเกาหลีออริจินัล เน็ตฟลิกซ์แท้ ๆ ที่สร้างมาเพื่อฉายในระบบไม่ได้ลงช่องทีวีประเทศเกาหลี ทำให้มารวดเดียวจบ 10 ตอนฤดูแรก และเพราะว่าไม่ได้อิงกับการฉายทางโทรทัศน์

ทำให้ตัวเนื้อหาของซีรีส์เรียกว่าหลุดกรอบจากสูตรสำเร็จมาตรฐานประเทศเกาหลีไปได้หลายแบบ เรียกว่าคนที่คร่ำครวญหาซีรีส์ประเทศเกาหลีที่ผิดแผก น่าจะจำต้องทดสอบรับมองดูเลย แม้กระนั้นเพราะว่าเนื้อหาเกิดเหตุราวของอาชีพปัดกวาดจุดเกิดเหตุคนตายหรือเก็บข้าวของผู้เสียชีวิตไปทิ้ง ทำให้เป็นซีรีส์ที่แปลกรวมทั้งเฉพาะทางสำหรับการรับมองอยู่เยอะแยะด้วยเหมือนกัน

มูฟทูเฮฟเว่นเล่าถึง “ฮันกือรู” เด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่ทำงานปัดกวาดจุดเกิดเหตุคนเสียชีวิตกับพ่อ “ฮันจองอู” โดยที่เขาเป็นโรค แอสเพอร์เกอร์ ที่บกพร่องทางพัฒนาการกลุ่มเดียวกับออทิสติก มีลักษณะมีข้อบกพร่องสำหรับในการเข้าสังคมปกติ ไม่สามารถทราบเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ ทำให้ตอบโต้กลับไปไม่ถูกจำเป็นต้องเหมือนคนเดินดิน

คนที่เป็นโรคนี้มักหมกหมุ่นอยู่กับบางสิ่งมากกว่าคนเดินดินหลายเท่า ทำให้ฮันกือรูเองมีลักษณะพิเศษที่เหมาะสมกับงานนี้โดยตรง เพราะพ่อของเขาไม่ได้เพียงแต่ทิ้งของผู้เสียชีวิตแบบที่อื่น ๆ กลับสะสมสิ่งของที่มีความจำเป็นของผู้ตายเพื่อส่งต่อไปยังเป้าหมายที่ผู้ตายยังค้างคาไว้ทำไม่เสร็จ ซึ่งเป็นการปะติดปะต่อข้าวของเครื่องใช้ที่เหลือเพื่อตามหาคีย์สำคัญที่ทิ้งไว้ให้เจอ ข่าวหนังใหม่

ซึ่งพ่อของฮันกือรูสอนเขาไว้ก่อนที่จะเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (ในตอนแรกของประเด็นนี้) และเขียนพินัยกรรมฝากฝังให้ทนายไปพบกับน้องชายต่างพ่อ “โจซังกู” ผู้ต้องขังต้องหาคดีฆ่าผู้เสียชีวิตที่พึ่งพิงแต่งงานจำ และในพินัยกรรมนั้นมอบหมายให้เขามาดูแลหลานคนนี้ในฐานะผู้ดูแล แม้กระนั้นมีเงื่อนไขว่าต้องทดสอบ 3 เดือนเพื่อเห็นว่าโจซังกู สามารถดูแลช่วยเหลือฮันกือรูได้ใช่หรือเปล่า

ในขณะโจซังกูเอง กลับรำลึกถึงแม้กระนั้นเงินในพินัยกรรม รวมทั้งเขาเองยังรังเกียจพี่ชายสุดกำลัง แต่การได้มาปฏิบัติหน้าที่กลับเบา ๆ แปลงเขาไป พร้อมด้วยอดีตสมัยเรื่องราวทั้งหมดที่ค้างคากับพี่ชายก็เบา ๆ แจ้งชัดขึ้น ต้นเหตุของโปรเจ็กต์เรื่องนี้จากเน็ตฟลิกซ์ไม่ใช่เรื่องแรกที่เน็ตฟลิกซ์ทำซีรีส์ลงโดยตรง ถึงแม้ว่าประเด็นนี้มีความพิเศษหน่อยจากเรื่องราววัววิด 19 ที่ระบาดทั้งโลกผ่านปี ตอนแรกโปรเจ็กต์เรื่องเป็นภาพยนตร์ในปี 2020 ก่อนถูกหยุดไว้ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงกลายเป็นซีรีส์เรื่องราวในปี 2021

ซึ่งเรื่องต้นฉบับเป็น บทความชื่อ “ทิงค์ เลฟ บีไฮ” คนเขียน คิมอร่อยยอล มาจากประสบการณ์ในสายงานอาชีพชำระล้างจุดเกิดเหตุโดยตรง ซึ่งเขาถือได้ว่าเป็นสเปเชียลลิสต์ในสายงานนี้ มีความพิเศษกว่าปกติ รวมถึงถ่ายทอดเรื่องราวที่เผชิญอย่าง คนสันโดษ กักตัวอยู่ในบ้าน คนป่วยติดเตียงคนเดียว ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดเหตุสะเทือนใจและจากนั้นก็มีปัญหาที่คนตายค้างไว้เสมอ ซึ่งความพิเศษเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีผู้ใดกันแน่รู้ในด้านนี้ ก็ถูกนำมาผลิตเป็นซีรีส์หัวข้อนี้ลงโดยผู้กำกับ คิมท่อนซุงโฮ ที่ผ่านงานสร้างหนังมาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้เป็นซีรีส์ยาวเรื่องแรกของเขา ซึ่งก็คงมาจากการเปลี่ยนหนทางจากหนังมาเป็นซีรีส์จากปัญหาวัววิดในตอนแรกนั่นเอง

เตรียมปาดน้ำตา

เตรียมปาดน้ำตา อาชีพปัดกวาดจุดเกิดเหตุที่มีจริงและส่วนที่มากขึ้นมา

ซีรีส์พรีเซนเทชั่นอาชีพที่แปลก แม้กระนั้นมีจริง รวมถึงสื่อความหมายเท่า ๆ กับอาชีพในสายงานเดียวกันอย่างช่วยเหลือ ซึ่งตัวเรื่องในตอนแรกเป็นการบอกถึงรายละเอียดรูปแบบการทำงาน ของบริษัทมูฟทูเฮฟเว่น (ย้ายที่สู่สวรรค์) ที่พ่อของผู้แสดงนำชายตั้งมา ซึ่งเราจะได้เห็นรายละเอียดจริง ๆ ของขั้นตอนการปัดกวาดสิ่งต่าง ๆ แม้ไม่มีศพเหลว ๆ อะไรให้เห็น แต่คนเดินดินก็ไม่ต้องการหรือไม่กล้าจะเข้ามาทำ การกวาดมีอีกทั้งเลือด น้ำหนอง ขยะ กำจัดสิ่งสกปรกทุกสิ่งทุกอย่างในห้องให้กลับมาปกติ แล้วก็กลิ่นก็จำเป็นต้องไม่ให้เหลือ

ซึ่งอาชีพนี้จะมาดำเนินการคราวหลังตำรวจเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว หรืองานหลายทีก็เป็นห้องของคนเสียชีวิตที่อื่น ๆ ไม่ใช่จุดเกิดเหตุ แต่คนในบ้านไม่ได้อยากต้องการเก็บเอง ซึ่งโน่นเป็นงานทั้งมวลของอาชีพนี้ แต่สิ่งที่ซีรีส์ใส่เพิ่มเข้ามาเป็น เรื่องราวการค้นหาส่งต่อของสำคัญของผู้ตายไปยังจุดมุ่งหมายที่ค้างคาไว้ ซึ่งฮันกือรูเป็นแอสเพอร์เกอร์ที่หมกหมุ่นกับการค้นหาเดาเรื่องราวที่คนเสียชีวิตค้างติดอยู่ไว้

สำหรับตัวเขาเหมือนกับเป็นการต่อตัวต่อปัญหา ซึ่งรูปแบบของผู้เป็นโรคนี้เมื่อตั้งใจทำอะไรจำเป็นจะต้องทำให้เสร็จจนกระทั่งเกินคนปกติ ซึ่งซีรีส์เองจับเอาความพิเศษที่ตรงนี้มาใส่รับกับเรื่องราว และทำให้นักแสดงตัวเอกเป็นเช่นเดียวกันกับอัจฉริยะด้านการปะติดปะต่อข้าวของเครื่องใช้ที่เหลืออยู่ให้เกิดเหตุราวชี้แจงกลับมาได้ ซึ่งบางโอกาสก็กลายเป็นการช่วยงานสืบสาวราวเรื่องตามจับคนร้ายไปในตัวด้วย

ถึงแม้จุดนี้ไม่ใช่เรื่องราวหลักของซีรีส์ เรื่องนี้ย้ำไปที่ดราม่าการคลี่คลายเงื่อนที่เหลืออยู่ของคนเสียชีวิตเป็นหลัก ถึงแม้ไม่ได้เป็นแบบจบในตอน แต่ว่าเกิดเหตุราวต่อเนื่องกันยาว ๆ อย่างกับหนังขนาดยาวเกือบจะ 10 ชั่วโมงจบมากกว่า (มี 10 ตอน) ส่วนมากแต่ละเคสจะใช้เวลาเกือบจะสองตอนถึงจบคลี่คลายหมด ตัวละครหลักกับอาการแอสเพอร์เกอร์สมหน้าที่หรือไม่?

บทฮันกือรูกับอาการแอสเพอร์เกอร์เป็นส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องราวนี้ ทั้งยังในด้านความสมจริงของกิริยาท่าทางท่าทาง ความสามารถพิเศษที่เป็นไฮไลท์ของเรื่อง อีกทั้งยังต้องมีบทดราม่าเรียกความเห็นใจตามมาด้วย (แม้กระนั้นตามที่เป็นจริงดาราหนังนี้แค่เพียงพิการทุพพลภาพมีข้อบกพร่องทางสมองในแบบหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับในการดำรงชีพหลักตามปกติเท่าไรนัก) เกี่ยวกับกีฬาหมากรุก

ศิลปินที่เล่นบทนี้ก็เลยถูกจับตามองและถูกมุ่งหมายสูงที่สุด ซึ่งก็เป็นนักแสดงเด็กวัย 18 แทงจุนซัง ที่เคยเล่น ปักหมุดรักรีบด่วน มาก่อน ถึงแม้ว่าการมาแสดงบทนี้ได้บางทีอาจจำเป็นต้องถูกคัดต้มมาเป็นอย่างมาก ควรต้องบอกว่าผู้เขียนให้ผ่านในภาพรวมของการแสดง แม้กระนั้นยังไม่ได้ถึงขั้นดีงามอะไรมากสักเท่าไรนัก บางครั้งอาจจะด้วยความที่เคยมองดูซีรีส์แนวนี้อย่าง เอทิปปิคอล ที่ดารารับบทบาทได้เหมือนจริงกว่านี้ล้นหลาม

ซีรีส์ไต้หวันที่ดารานำเป็นแอสเพอร์เกอร์เหมือนกัน หรืออย่างซีรีส์ประเทศเกาหลีด้วยกัน เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝ่าฝืน ในบท “มุนซังแท” (รับบทบาทโดย โอจองเซ) ซึ่งถือว่าขึ้นหิ้งไปแล้วในบทนี้ ตัวแทงจุนซัง เองยังแสดงออกแบบเสมอเหมือนมุมานะเป็นแอสเพอร์เกอร์ นิ่ง ๆ กล่าวจำนวนมาก แต่ไม่ค่อยมีลักษณะอาการลุกลี้ลุกลนในหลาย ๆ

ส่วนของร่างกายที่คนแบบนี้จะเป็นไปเองเกือบจะตลอดเวลา และอาการทำร้ายตัวเองที่เราเห็นกันเป็นประจำจากคนเป็นออทิสติกส์ก็ดูไม่ได้มีอะไรผิดแผกไปมาก เว้นเสียแต่เอาหัวชนผนัง (เทียบกับมุนซังเทที่มีนานัปการอาการพร้อมกรีดบ้าคลั่งได้สมจริงสมจังกว่าเยอะแยะ) ทำให้นักแสดงฮันกือรูยังดูไม่เนียนหรือมีเสน่ห์ให้รู้สึกอินอะไรเยอะแยะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ผ่าน ก็ต้องเรียกว่าเยี่ยมเลยกับภาพรวม ถ้าหากไม่ได้คิดมากอะไร ก็ไม่รู้เรื่องสึกชื่นชอบอะไรส่วนนี้จำนวนมากขอรับ

เกี่ยวกับกีฬาหมากรุก

จุดแข็งสุดของเรื่องเป็นความเกี่ยวข้องของอากับหลาน

ก่อนดูอาจจะคิดว่าเรื่องราวบางทีอาจเป็นตอน ๆ กับงานปัดกวาด รวมทั้งจำเป็นต้องเน้นดราม่าในแต่ละเคสหนัก ๆ ซึ่งโดยรวมก็ยังเป็นอย่างงั้น แม้กระนั้นแปลงเป็นว่าเรื่องราวของอาผู้แสดงนำชาย “โจซังกู” ที่ออกมาจากตาราง โดยไม่ชอบโกรธเคืองพี่ชายตัวเองอย่างไม่เคยทราบเหตุ และยังไม่สนใจพอใจหลาน มาอยู่ด้วยเพียงแค่อยากได้มรดกที่พี่ชายทิ้งไว้ให้ฮันกือรูเท่านั้น

ส่วนนี้กลายส่วนที่เบา ๆ ขยายลงลึกเรื่องราวลงไปหลายส่วนใหญ่ อีกทั้งเงื่อนในอดีตสมัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตัวนิสัยห่วยแตก ๆ ของโจซังกู ในตอนแรกก็เบา ๆ มีความรุ่งโรจน์เป็นผู้เป็นคนดีขึ้นบ่อยแถมด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอย่างไม่คาดฝันจากการเป็น คนดีที่น่างงงัน ซึ่งฮันกือรูมีความเห็นถึงอาของตนไว้ อีกทั้งศิลปินโจซังกู เป็นนักมวยเก่าที่มีชีวิตในสมัยเก่ากับมวยไม่สุภาพใต้ดิน

เป็นส่วนอาชญากรรมของเรื่องราวที่หากแม้ไม่จำนวนมาก แต่เข้มข้นจำนวนมาก ๆ เรียกว่าเป็นอีกด้านของซีรีส์ที่ดุเดือดเลือดพล่าน ร้ายแรง ดาร์ค และก็ยังพ่วงด้วยนักแสดงสมทบ อีแจอุค ผู้แสดงนำชายคนใหม่จากซีรีส์ โน้ตรักทำนองหวาน , ซึ่งเชื่อเลยว่าคนที่เคยมองดูผลงานของเขาต้องตลึงกับการแสดงที่สมบาทแล้วก็มีเสน่ห์สุด ๆ แล้วก็ในประเด็นนี้ถึงเป็นบทสมทบที่กว่าจะออกมาก็ตอน 6 ไปแล้ว แต่พอใช้แอร์ไทม์เต็ม ๆ พร้อมกับโจซังกู ในบทเด็กที่ถูกรังแกและแปลงมาเป็นนักมวยโดยมีโจซังกู เป็นคนฝีกสอน กลายเป็นตอนที่เรียกน้ำตาแล้วก็ดึงอามณ์ของเรื่องมาก

ผู้ชมจะได้เห็นโชคชะตาของโจซังกู ที่รันทดมากยิ่งกว่าหลานซะอีก รวมถึงยังแปลงเป็นบาปติดตัวกัดตื้นตันใจเขามาถึงในเวลานี้ และยังตามมาทำลายชีวิตในช่วงเวลาที่เขากำลังพยายามเป็นผู้ดูแลให้หลานอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นเงื่อนเรื่องราวอาชญากรรมวงการใต้ดินที่โจซังกู ไปเกี่ยวยังไม่จบในช่วงฤดูกาลนี้ จำเป็นต้องไปต่อกันที่ฤดูสอง รวมทั้งน่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่ขึ้นอีกเยอะมากด้วย

หากว่าไม่มีจุดนี้ไปซีรีส์เรื่องนี้บางทีอาจกลายเป็นแนวดราม่าธรรมดาไปเลย สูตรเส้นเรื่องเลิฟไลน์ยังมี หากแม้ไม่ได้ต้องย้ำและก็เป็นธรรมชาติน่ารักน่าชังมากมายก่ายกอง ซีรีส์นอกจากในขณะที่จับเอาการราวแฟนที่ตายเทียวไปเทียวมาใช้ธรรมดาอยู่แล้ว (มีตอนความรักของเกย์หนุ่มนักดนตรีกับหมอด้วย) เส้นเรื่องหลักมีตัวละครแยกคู่กันอย่าง ฮันกือรูกับ “นามู” สวมบทโดย ฮงซึงฮี ที่พึ่งพิงเล่นซีรีส์เรื่อง ดังผีเสื้อร่ายระบำ ของเน็ตฟลิกซ์ไปแบบเดียวกัน

คุณเป็นสาวบ้านตรงกันข้ามเพื่อนวัยเด็กตั้งแต่ 6 ขวบของผู้แสดงนำชาย และก็แอบชอบมาบ่อยพยายามประพฤติตัวใกล้กับนักแสดงนำชายทั้งที่บ้านกระทั่งการไปร่วมงานปัดกวาดด้วย เป็นตัวเอกนำอีกคนที่มีบทบาทตลอดเรื่อง แต่ไม่เชิงออกคบชู้สู่ชายสาวหรือมีหวาน ๆ อะไรทั้งหมด เนื่องจากฮันกือรูเป็นแอสเพอร์เกอร์ แต่เรื่องราวในแต่ละในช่วงเวลาที่นางปรารถนาดีผู้แสดงนำชายมากกว่าคนใด ก็ทำให้รู้ว่ามีปัญหารักจางคละอยู่ในเรื่อง

โดยมีเพื่อนเกลอตำรวจอีกคนที่เป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนดำเนินการตำรวจมาประทับใจนามูอยู่ด้วย ยิ่งไปกว่านี้ในตอนสุดท้ายของฤดูยังมีตัวละครใหม่เปิดขึ้นมา ซึ่งอาจจะแปลงเป็นนางเอกอีกคนในฤดูต่อไปก็ได้ (พอใจอ่านจากสปอยล์ด้านล่างหัวข้อ ฉากจบฤดูที่ค้างคาไว้หลายเรื่อง) คู่เด็กไปและมีคู่คนสูงอายุของโจซังกู กับ “ซนยูริม” รับบทบาทโดย ซู-ย็อง สมาชิกของวงเกิร์ลกรุปประเทศเกาหลีใต้ เกิลส์เจเนอเรชัน ที่พึ่งพิงเล่นเป็นนางเอกสมทบอีกเรื่อง วิ่งนำรัก ในบทประธานสาวสวย

มาในเรื่องเป็นสาวนักสังคมสงเคราะห์ที่พบได้มากเจอกับฮันกือรูกับโจซังกู จากบริการปัดกวาดของ มูฟทูเฮฟเว่นที่คุณเรียกใช้บ่อยจากความพิเศษตั้งมั่นที่ผิดแผกไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ซึ่งในหัวข้อนี้อาสจจะไม่สวยเด่นอะไรล้นหลาม แต่ก็มองดูสมหน้าที่กับนักสังคมสงเคราะห์ที่มีอุดมการณ์ช่วยคนจริง ๆ และจากนั้นก็มองโลกแบบงดงามไม่เหมือนกับโจซังกู ที่ติดตะรางมา ทำให้ทั้งคู่ฉะกันตั้งแต่ฉากแรกที่ออก

รวมถึงแปลงเป็นกีดกั้นเล็ก ๆ อยู่เรื่อยเมื่อความเห็นไม่ตรงกัน แม้กระนั้นเรื่องก็ชี้ให้เห็นว่าเลยว่าโจซังกู ที่มองดูร้ายแรง ๆ สกปรก กลับแอบปิ๊งเธอเต็ม ๆ ซึ่งมีเพียงฮันกือรูสสังเกตุเห็น และกล่าวแจกแจงอาการเขินของอาออกมาตรง ๆ แบบคนเป็นแอสเพอร์เกอร์ที่มักคิดอะไรก็กล่าวออกมาเลย ทำให้เรื่องราวในส่วนนี้แม้ว่าจะผิวเผิน แต่ก็น่ารักน่าชังน่าติดตามล้นหลามว่าจะมีความเจริญก้าวหน้าเช่นไรต่อไป

ซึ่งเรื่องไม่มีทิ้งส่วนนี้ไปแน่นอนเพราะเหตุว่าเป็นตัวละครที่จำเป็นต้องมาร่วมงานกันในเรื่องต่อไปบ่อย แต่เกิดเหตุราวของอาชีพกวาดข้าวของคนเสียชีวิต รวมทั้งส่งต่อของสำคัญให้คนที่ยังอยู่ ซึ่งเรื่องราวอ้างอิงมาจากเรื่องจริงของนักเขียนหัวข้อนี้โดยตรงด้วย ถึงแม้เรื่องจะเป็นแนวดราม่าโศกเศร้าทุกตอน แต่ว่าหัวใจของเรื่องเป็นความรุ่งเรืองความเกี่ยวพันของดาราหนังอากับหลานในเรื่องที่ทำออกมาได้ดีล้นหลามๆทั้งมีเงื่อนอาชญากรรมมวยร้ายแรงในโลกใต้ดินมาเป็นเส้นเรื่องที่ดุเดือดเลือดพล่านและก็ดิบมากไม่น้อยเลยทีเดียวๆและเป็นส่วนที่น่าติดตามที่สุดของเรื่องด้วย (แม้กระนั้นซีรีส์ไม่จบในช่วงฤดูกาลมีต่อ)