เรื่องจริงสู่หนังสือ

เรื่องจริงสู่หนังสือ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์สุดโหด

เรื่องจริงสู่หนังสือ ทำให้เรื่องราวการสมรู้ร่วมคิดที่ไม่มีใครคาดคิดถูกแฉให้โลกรู้

เรื่องจริงสู่หนังสือ บอกเล่าชีวิตของ มูฮาเหม็ดดู อูล สลาฮี (ทาฮาร์ ราฮิม) ซึ่งถูกรัฐบาลสหรัฐฯ จับตัวไปและจำคุก เป็นเวลาหลายปี
โดยไม่มีการพิจารณา คดีในศาลในคุกสุดฉาว อ่าวกวนตานาโม เรื่องราวของเขา กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการเอาชีวิตรอดจาก
สถานการณ์สุดโหด ในขณะที่มูฮาเหม็ดดู พยายามต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เขาได้เจอ แนนซี ฮอลแลนด์ ทนายฝ่ายจำเลย (โจดี้ ฟอสเตอร์)
และผู้ช่วยเทอรี ดังแคน (เชลีน วูดลีย์)

ซึ่งให้คำแนะนำ เขาตลอดช่วงเวลา ที่ยากลำบาก และการค้นพบหลักฐาน ใหม่โดยพันโท สจวร์ต เคาช์ (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์) อัย
การทหารสุดโหด ทำให้เรื่องราวการสม รู้ร่วมคิดที่ไม่มีใคร คาดคิดถูกแฉให้โลกรู้ ไอเดียในการดัดแปลงหนัง เรื่องนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2015
ในช่วงเวลาที่มูฮาเหม็ดดู อูล สลาฮียังถูกจองจำอยู่ ในคุกอ่าวกวนตานาโม และผู้อำนวยการ สร้างทั้งสาม (ลอย, บีทริซ และไมเคิล
บรอนเนอร์) เดินทางไป อัลบูเคเรส เพื่อพบกับทนาย ความของ มูฮาเหม็ดดูนั่นคือ แนนซี่ ฮอลแลนเดอร์ และ เธเรซ่า

เรื่องจริงสู่หนังสือ

ดังแคนและหลังจาก ชั้นหนังสือบันทึก ความทรงจำของ มูฮาเหม็ดดูเรื่อง ถูกซื้อลิขสิทธิ์โดย ลอย, บีทริซ, มาร์ค และ คริสติน โฮลเดอร์
ในนามบริษัท ภายหลังจากทีม งานได้อ่านหนังสือ ก็พบว่างานเขียนของ ตัวมูฮาเหม็ดดู อูล สลาฮี เองเต็มไปด้วย ความเป็นบทกวีและภูมิ
ปัญญาในการเขียน จนเกิดความประทับใจ ในเรื่องราวที่อ่าน อีกทั้งยังทำให้ตัวผู้ อ่านรู้สึกถึงความเป็น มนุษย์ของมูฮาเหม็ด จนนำมาซึ่งคำ
ถามที่ว่าทำไมเราถึง ต้องแบ่งแยกความเป็น มนุษย์ระหว่างเขาและเรา เช่นเดียวกันกับ แนนซี่ ฮอลแลนเดอร์ทนาย ความด้านการป้องกัน
อาชญากรรมระหว่างประเทศ

ผู้ซึ่งต่อสู้อย่างไม่ลดละ เพื่อให้ทางการปล่อย ตัวโมฮาเหม็ดดู มาหลายปีเล่าว่า โปรดิวเซอร์ทั้งสามคน มาที่สำนักงานของฉันและ
เราเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ ภาพยนตร์ในขณะที่ โมฮาเหม็ดดู ยังอยู่ในคุก” เมื่อเขาได้รับการปล่อย ตัวในวันที่ 17 ตุลาคม 2016 ทีมงานก็
ได้เดินทางไปยังมอริเตเนียทันที เพื่อเริ่มต้นการทำงานสำหรับ ภาพยนตร์เรื่องนี้หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ คนสำคัญของหนังคือนักแสดงชื่อดัง
อย่างเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ที่ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือ ในปี 2015

ทันทีที่เขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เขาก็ตกหลุมรักมันเข้าอย่างจัง และนำไปสู่แรงบันดาลใจที่ว่า

เขาจะต้องดัดแปลง มันให้กลายเป็นภาพยนตร์ให้ได้ ตัวเบเนดิกต์เล่าว่า “ผมหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านตั้งแต่ ต้นจนจบและรู้สึกประทับใจกับ
โมฮาเหม็ดดูจากความ เป็นมนุษย์และอารมณ์ขันของเขา ความอดทนที่ไม่ธรรมดาของเขากับ ความจริงที่ว่าเขาผ่าน เรื่องราวเหล่านี้มาทั้ง
หมด เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อสอนเรา ทุกคนเกี่ยวกับจิตวิญญาณ มนุษย์ที่เอาตัวรอดได้ทุกเรื่อง ผมหลงเสน่ห์เขาอย่างที่สุด และเรื่องราวของเขา
ก็สะเทือนใจ และหนักอึ้งด้วยอะไร ก็ตามที่ถูกดัดแปลงมาจากเรื่อง ราวในชีวิตจริงล้วนแล้ว แต่เป็นเรื่องยากเสมอ

เพราะการพาผู้ชมให้ สัมผัสเข้าใกล้กับ ประวัติศาสตร์คือความรับ ผิดชอบต่อบุคคลที่มีชีวิต อยู่จริงในทุกวันนี้ ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนจอ
ภาพยนตร์จึงเป็นเรื่อง ละเอียดอ่อนทั้งหมด ทีมงานจึงไม่ต้องการเล่า เรื่องราวจากตัวบุคคลฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แต่อยากให้มันมีความ เป็นมนุษย์
มากที่สุดเมื่อประสบ การณ์รอบตัวของ เหล่าตัวละคร จะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนและ เปลี่ยนแปลงพวกเขา และสามารถกลาย เป็นประเด็นที่
เกิดการพูดคุยในสังคมได้ หนังเรื่องนี้จึงถูกดำเนินเรื่องผ่าน โมฮาเหม็ดดู เรื่องจริงสู่หนังสือ

ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรับตัวเก่ง เป็นนักปรัชญา เขามีไหวพริบและมีความเห็น อกเห็นใจมาความท้าทาย อีกประการคือโครงสร้างของหนังเรื่อง
นี้มีความซับซ้อน เนื่องจากมันจะเล่าเรื่องราว เชิงประเด็นทางรัฐศาสตร์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยศัพท์ทางกฎหมาย และยังเกี่ยวโยงกับหลาก
หลายประเทศ สิ่งเหล่านี้ผู้ชมจะต้องเข้าใจได้ และยังสัมผัสได้ถึงความ เป็นหนังระทึกขวัญที่ผู้ชมจะต้อง ลุ้นใจสั่นและอยากรู้ว่าจะเกิด
อะไรขึ้นต่อไป ทีมเขียนบทยังบอกอีกว่าหนัง เรื่องนี้มีแรงกระตุ้นสำคัญที่ ขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด นั่นก็คือความหวาดกลัว

ซึ่งในยุคสมัย 9/11 นั้นความหวาดกลัวได้ครอบ งำจิตใจของชาวอเมริกัน และสหรัฐอเมริกาได้ใช้ นโยบายการต่างประเทศแทนที่จะใช้
กฎหมายในการพิจารณา คดีแบบเดิมโมฮาเหม็ดดู ซึ่งเป็นผู้ต้องขังคนแรกที่ตีพิมพ์ บันทึกความทรงจำ ขณะยังถูกคุมขังถูก เขาถูกห้าม
ไม่ให้รับสำเนาหนังสือของ เขาในขณะที่เขายังไม่ถูกปล่อยตัว แนนซี่ ฮอลแลนเดอร์ (ตัวจริง) กล่าวว่าแม้ว่าอดีตนักโทษกวนตานาโม
หลายคนจะเขียนหนังสือออกมา แต่โมฮาเหม็ดดูเป็นคน เดียวที่เขียนหนังสือด้วยตัวเอง เรื่องจริงสู่หนังสือ

เรื่องจริงสู่หนังสือ

“ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้มัน ไม่เหมือนใครเพราะมันเป็นเขา และเรื่องราวเหล่านี้เป็น สิ่งที่เขาได้ผ่านมาเอง และตอนนี้เราได้สร้างออก
มาเป็นภาพยนตร์แนนซี่มี ส่วนร่วมในบทภาพยนตร์ ตั้งแต่เริ่มต้น และเธอจำได้ว่า “ฉันให้หลักฐานการ พิจารณาทางศาลแก่ผู้สร้างภาพ
ยนตร์ ฉันอธิบายกฎหมาย และตัวคดีความให้พวกเขาฟัง และฉันบอกว่า

ฉันรู้ว่าคุณไม่สามารถรวมเอาทุก อย่างใส่ลงไปในภาพยนตร์ได้ แต่ฉันต้องการให้คุณมีข้อมูล และรู้ว่ามันมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่
คุณสามารถตัดสินใจ ได้ว่าคุณจะใส่สิ่งนี้ลง ในภาพยนตร์ได้อย่างไร เอหิปัสสิโก| ข่าวหนังใหม่