เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ

เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ ฟีล ไลค์ อิช คือ…ความรัก หนังสั้นแนวรักปุบปับเก๋ ๆ ล้ำสมัยของเน็ตฟลิกซ์ ประเทศอินเดีย

เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ ฟีล ไลค์ อิช คือ…ความรัก หนังสั้นเน็ตฟลิกซ์ ประเทศอินเดีย 6 ตอน รวมเรื่องรักแบบปุบปับของวัยรุ่นทุกวัยที่ล้ำสมัย

เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ โดยมีคอนเซ็ปต์ความรักแบบไว ๆ ในเวลาสั้น ๆ ให้ผู้ชมได้ยิ้มนิด ๆ กับเรื่องราวพวกนี้ ซีรีส์ศูนย์รวมหนังรักสั้น ๆ เข้าไว้ด้วย 6 เรื่อง ตอนละราวครึ่งชั่วโมงเท่า ๆ กัน โดยมีคอนเซ็ปต์เป็นความแบบเจอหน้ากับทันทีเริ่มกำเนิดความรักกันเลย ซึ่งความยากของเรื่องราวอย่างนี้เป็นจะทำยังไงให้ผู้ชมอินได้ในเวลาสั้น ๆ แม้กระนั้นตัวเรื่องทั้งยัง 6 ตอนก็นับว่าทำออกมาก้าวหน้าในระดับหนึ่งเลย

เรื่องแรกเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่ตามหาเจ้าสาวที่หายไปก่อนงานสมรส โดยมีชายหนุ่มผู้ครอบครองรับงานจัดแต่งช่วยตามหา จำต้องกล่าวว่ากับตอนต้นมิได้มีความรู้สึกว่าดีเยี่ยมเท่าใด โดยเรื่องจุดโฟกัสไปที่ความพิเศษของฝ่ายหญิงที่เป็นคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักในโลกโซเชียลผู้เชื่อในเรื่องความรัก แล้วก็มานะทำให้งานมงคลสมรสนี้เสร็จ ในช่วงเวลาที่ข้างชายรับจัดงานแต่งเป็นอาชีพ แต่ไม่อินอะไรก็ตามกับเรื่องรัก

รวมทั้งเห็นว่าการที่เจ้าสาวหนีไปเป็นการวินิจฉัยของเธอเอง เป็นสิ่งที่ถูกแล้วดียิ่งกว่าทนอยู่เพื่อความรักฝ่าฝืน ๆ ภายหลังจากงานมงคลสมรส ในเรื่องเป็นการคัดค้านกันเพื่อหาสิ่งพิสูจน์ว่าผู้ใดคิดถูกกันแน่ กระทั่งเปลี่ยนเป็นทั้งสองเริ่มสนิทกันในเวลาอันเร็ว และแอบปิ๊งกันนิด ๆ ในตอนสุดท้าย ซึ่งเรื่องเกือบจะมิได้ทำให้คนอินอะไรก็จบแล้ว มันช่างสั้นซะอย่างมากกับหนังรักปุบปับอย่างงี้ ข่าวหนังใหม่

แม้กระนั้นภายหลังจบทีแรก ๆ ถ้าหากมองถัดไป ผู้ชมอาจจะเริ่มต้นรู้เรื่องคอนเซ็ปต์แล้วเนื่องจากเค้าเรื่องมันคล้ายกันหมด ซึ่งมันเป็นธีมตามชื่อ คือ…ความรัก หรือ ความรู้สึกที่ราวกับความรัก อีชในภาษาเปอร์เซียที่หมายความว่า “ความรัก” หรือ “ความคลั่งไคล้” ซึ่งใช้กันอย่างมากมายในภาษาอื่น ๆ ของโลกชาวมุสลิมแล้วก็ประเทศอินเดีย

ซึ่งนี่เป็นพ้อยท์หลักของประเด็นนี้เมื่อทุกคู่เริ่มพบปะสนทนากันโดยบังเอิญ และก็ดูเหมือนจะเบา ๆ รักกันขึ้นมา มันยังไม่ถึงกับเป็นคนรักหรือตอบกระจ่างแจ้งว่าตกลงรักกันแล้ว แม้กระนั้นมันราวกับความรักแน่นอนซึ่งเพียงพอพวกเรารู้เรื่องอย่างนี้การดูในเรื่องต่อ ๆ ไปก็บางทีก็อาจจะเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าตอนต้น

เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ

เรื่องรักแบบปุ๊บปั๊บ ตัวเรื่องตอนสองเป็นหนุ่มน้อยที่เจอรักสาวบ้านตรงกันข้ามที่มากักบริเวณตอนวัววิด

ขณะนี้อะไร ๆ มองลื่นไหลถูกกันดีเยี่ยม มีทั้งหมดลง อีกทั้งการแสดงของชายหนุ่มแขกซิกข์โพกหัวที่แอบหล่อน่ารัก แม้กระนั้นเป็นคนเขินอายไม่กล้าจีบเธอตรง ๆ เลยจะต้องโกหกผ่านแชทในโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่าเป็นป้าเอาของกินกับของสำคัญอื่น ๆ ไปให้เพื่อเจอกับเธอ ซึ่งอีกข้างก็กักบริเวณขมักเขม้นเกือบจะไม่อยากที่จะให้ผู้ใดกันใกล้ แต่ว่าแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดใจติดต่อคุยกับเขาผ่านการเล่นกีต้าร์หากัน

รวมทั้งจรวดกระดาษที่ร่อนไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้าน ดูแล้วเป็นอะไรที่สวยดีเยี่ยม ก่อนที่จะมีผลสรุปนิด ๆ ว่าในที่สุดเรื่องจริงก็ปรากฎ เธอจะยังคบเป็นเพื่อนกับเขาได้ไหม ซึ่งนี่เป็นในช่วงเวลาที่นักเขียนถูกใจสูงที่สุดในเรี่องนี้ แถมยังได้มองเห็นภาวะคนวิกลจริตนเขาในตอนโควิดจริง ๆ ว่าทำอะไรกันด้วย แม้กระนั้นก็จำต้องเห็นด้วยว่าตัวเรื่องจบไวแบบสั้น ๆ ไปหน่อยแค่นั้น ตอนสามเป็นชายหนุ่มที่บิดามารดาปลดปล่อยบ้านว่างไว้บนเขางามไกลห่างเมืองใหญ่

เขาต้องการหารายได้ท่องเที่ยวขั้วโลกมองแสงสว่างเหนือ ก็เลยเอาบ้านนี้มาเปิดแอร์บีเอ็นบี ต้อนรับแขกมาพักทีแรก ก่อนที่จะข้างหญิงที่มาพักพึ่งจะโดนแฟนนอกใจมา รวมทั้งเขายังรับเงินแฟนที่นอกใจของเธอเพื่อดูแลเทคแคร์ให้หายโกรธ แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่าท้ายที่สุดเขากลับมาตกหลุมรักเธอซะเอง เดี๋ยวนี้จำต้องบอกเลยว่าฉากทัศนียภาพต่าง ๆ ในเรื่องงามมากมาย ๆ งามขนาดที่ว่าดูแล้วอยากท่องเที่ยวประเทศอินเดียอย่างนี้เลย ภาคแยกจากคิงดอม

ซึ่งมีขุนคีรีสูงลิบลิ่ว ทะเลหมอก ทะเลสาบบนเขา ภาพก็ถ่ายออกมาเป็นมุมกว้างกับมุมสูงเก็บความสวยของโลเคชั่นในเรื่องได้กว้างไกล จนกระทั่งแปลงเป็นในตอนนี้ที่ฉากดูดีกว่าตัวเรื่องซะอีก แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ห่วยแตก เพราะเหตุว่าหลักสำคัญในเรื่องเป็นการเจอรักจากพักดวงใจก็ทำเป็นดี แล้วก็ยังโยงไปถึงรีวิวในแอร์บีเอ็นบี โดยตรงอีกด้วยจนถึงมาเป็นชื่อตอน ยอดเยี่ยมเจ้าของบ้าน นั่นก็คือเรื่องเล่าจากรีวิวของแอร์บีเอ็นบี ที่หนังประยุกต์ใช้ได้อย่างพอดีเลย

ภาคแยกจากคิงดอม

ตอนสี่เกิดเรื่องแนวใหม่ของประเทศอินเดียเช่นเดียวกัน เมื่อเล่นหัวข้อแอลจีบีที

โดยตัวนำเป็นหญิงสองคนภายในบริษัทประชาสัมพันธ์ที่เป็นเควียร์ สรรพนามเรียกเพศใหม่ที่ไม่ระบุตัวตนชัดว่าเป็นหญิงหญิงรักกันจะต้องเป็นเลสเบี้ยน เพราะว่าทั้งสองก็มิได้มีความรู้สึกว่าตนเองจะต้องเป็นหญิง แต่ว่าเป็นเควียร์ เอาว่าถ้าหากคนไหนกันแน่งวยงงก็ไม่แปลก ด้วยเหตุว่าคำนี้มันครอบคลุมกว้างไปหมด แต่ว่าในเรื่องก็คือการที่หญิงคนหนึ่งเผยออกมาว่าตนเองเป็นเควียร์ รวมทั้งมีเสน่ห์เย้ายวนใจทางเพศมากมาย

แม้กระนั้นในช่วงเวลาที่อีกคนไม่กล้าเผย คนภายในสถานที่ทำงานไม่รู้เรื่อง มานะบอกอ้อม ๆ ไปยังอีกคนก็ไม่ได้เรื่อง นี่ก็เลยเป็นความรักแบบชุลมุนนิด ๆ ของเควียร์ที่มีปัญหามากยิ่งกว่าคนธรรมดารักกันซะอีก ซึ่งในประเทศอินเดียเองก็มิได้มองเห็นสถานะหรือหนังอย่างงี้บ่อยมาก ถือว่าประเด็นนี้เป็นความกล้าฉีกท้าอย่างยิ่งจริง ๆ

แม้กระนั้นด้วยความเป็นหนังสั้นมันก็เลยมิได้มีอะไรมากมายนอกเหนือจากจูบกันเฉย ๆ เพียงแค่นั้น เรียกว่าพอใช้ได้ยิ้มนิด ๆ กับเรื่องราวในอีกมุมที่ต่างไปจากเพศธรรมดาแค่นั้น ตอนห้าเกิดเรื่องการเจอกันของวัยรุ่นในตอนคอยสัมภาษณ์งานเซลขายอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยฝ่ายชายเป็นชายหนุ่มชนบทที่ไม่ค่อยเข้าใจในเมืองใหญ่นัก แล้วก็ตื่นเต้นกับการสัมภาษณ์ในคราวนี้

ส่วนข้างหญิงเป็นผู้มีความชำนาญสำหรับการสมัครงาน มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง ด้วยคำขอให้ช่วยของข้างชายเธอก็เลยได้สอนวิธีสำหรับเพื่อการสัมภาษณ์ให้ โดยการนำไปดูเซลขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในร้านค้าจริง ๆ ก่อนที่จะความลับจะเปิดเผยว่าข้างหญิงมีเงื่อนถูกแฟนทิ้งหนีไปเนื่องจากหางานมิได้ ซึ่งในที่สุดการที่เธอช่วยเหลือเขาคนนี้ก็ราวกับการได้คลายเงื่อนในใจของเธอเอง

เป็นตอนที่ราวกับจะไม่มีอะไรเพราะเหตุว่าเป็นเพียงแค่ตอนรอคอยสัมภาษณ์งานสั้น ๆ แต่ว่าหนังก็ทำออกมาได้เรียบง่าย มองบันเทิงใจ มีจุดกลับอะไรบางส่วน ๆ ในช่วงท้ายเพิ่มเติมอีกแบบสวยพอสมควรเลย ตอนหก ตอนสุดท้ายของเรื่องที่เวลาสั้นกว่าเรื่องอื่น แล้วตัวเรื่องก็ไม่มีอะไรมากมายด้วยเป็นเพียงแค่เรื่องราวของเพศชายที่นัดหมายเดทกับสาวระยะไกลหนแรก แต่ว่าดันพบสาวผู้รักความถูกต้องพาไปคัดค้านทางการประเทศอินเดียในม็อบ

เขาก็เลยเหวอเลยว่าโดนหลอก ก่อนจะเกิดเหตุสลายม็อบถัดมาแล้วก็ถูกจับจับด้วยไปด้วยกับกลุ่มของเธอ โดยตำรวจเอาปลดปล่อยไว้ที่ชายแดนไกลห่างให้เดินกลับเอง จนถึงเปลี่ยนเป็นกลางทางเดินกลับนั้นเองที่เขาก็เบา ๆ พิสูจน์ตนเองว่ามีดีอะไรหลายแบบเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ในแนวเดียวกับที่เธอมานะต่อสู้เพื่อโลก ในขณะนี้ขายความแปลกด้วยการเป็นรักจากม็อบ บางทีอาจจะไม่มีอะไรมากมาย

แม้กระนั้นก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรพอใช้ได้เฉย ๆ โดยรวมบางทีอาจจะมิได้ดีเยี่ยม แม้กระนั้นก็เหมาะกับการดูเพลิดเพลิน ๆ สำหรับคนถูกใจหนังประเทศอินเดียเป็นหลัก เสนอแนะว่าทดลองดูตอน 2 กับ 3 ที่มีจุดขายมากมายสุดคงจะโอเค แม้กระนั้นเวลาที่เหลืออย่างไรก็ได้ หากถูกใจสองในเวลาที่ว่า ตอนอื่นก็ให้อารมณ์คล้ายกัน ข้างหลังเผชิญทุกตอน เป็นแถวเบา ๆ มิได้มีดราม่าอะไรมากมาย แล้วหลังจากนั้นก็ตัดจบในจุดที่กำลังจะปรับปรุงไปเป็นมากกว่านั้น จัดว่ามองได้พลิน ๆ กับคนถูกใจหนังประเทศอินเดีย