แฟนตาซีเสี่ยงภัย

แฟนตาซีเสี่ยงภัย อาร์ทิมิส ฟาวล์ (ดิสนีย์พลัส) หนังผลิตมาจากนิยายโด่งดังที่ย่อยยับอีกหัวข้อ

แฟนตาซีเสี่ยงภัย อาร์ทิมิส ฟาวล์ ผจญภัยสายลับใต้พิภพ ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์แฟนตาซีเสี่ยงอันตราย

แฟนตาซีเสี่ยงภัย ดัดแปลงแก้ไขจาก อาร์ทิมิส ฟาวล์ นิยายชุดในชื่อเดียวกันในปี 2001 โดยคนเขียนชาวไอริช ออย โคลเฟอร์ ที่ฉายไปแล้วละเว้นเมืองไทยตั้งแต่ปีกลาย รวมทั้งโดนคำติชมในทางลบอย่างเสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่อ่านหนังสือมาแล้วถึงการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวเล็กน้อย แล้วก็เป็นภาพยนตร์ที่ถูกเคลื่อนย้ายจากโรงหนังมาลงในดิสนีย์พลัสอีกด้ว

ย เรื่องราวของอาร์ทิมิส ฟาวล์นั้นบรรยายถึงมหาการทำศึกระหว่างมนุษย์ แฟร์รี่รวมทั้งพิกซี่ผ่านนักแสดงของอาร์ทิมิส ฟาวล์ที่ 2 ชายหนุ่มผู้ฉลาดเกินวัยที่ครอบครัวนั้นเป็นจ้าวแห่งอาชญากรรมที่โหดเหี้ยม และก็ดูท่าการล่องหนไปของบิดาเขาบีบคั้นให้อาร์ทิมิส ฟาวล์โอบรับมรดกของครอบครัวด้วยการลักพาตัวกัปตันฮอลลี่ ชอท

แฟร์รี่สาวอายุแทบร้อยปีที่บังเอิญมาอยู่ในเขตพื้นที่ของคฤหาสน์ของเขา ก่อนที่จะเจอความลับครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งสามารถทำลายโลกอีกทั้งใบได้ ทำให้เขาจะต้องแปลงเป็นจอมคนร้ายเพื่อประมือกับเหล่าศัตรูความคาดหวังเข้ามาทำลายชีวิตเขาแล้วก็คนรอบกาย โดยหนังสือชุดนี้ได้รับข้อวิพากษ์วิจารณ์ในทางบวกว่าเป็น ดายฮาร์ด ผสม แฮร์รี่พอตเตอร์ ข่าวหนังใหม่

จนกระทั่งมีค่ายหนังมากไม่น้อยเลยทีเดียวพึงพอใจที่จะดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขนิยายชุดนี้ให้เป็นภาพยนตร์แต่ว่าก็จะต้องเจอกับปัญหาล้นหลามจนกระทั่งสุดท้ายดิสนีย์ก็รับไม้ต่อปลุกชีพภาพยนตร์โดยได้ผู้กำกับมือแม่นอย่าง เคนเนธ บรานาห์ ที่ฝากผลงานมาแล้วในทุกด้าน ทั้งยังหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้า, หนังแอ็คชั่นอย่าง แจ็ค ไรอัน: สายลับไร้เงา หนังเจ้าฟ้าหญิงดิสนีย์ทำเงินสูงอย่าง ซินเดอเรลล่า หนังสอบสวนที่ดีจนกระทั่งมีภาคต่ออย่าง การฆ่าบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส มาถ่ายทอดเรื่องราว

โดยรวมนำผู้แสดงใหม่และก็เก่ามาปะทะกันอย่าง เฟอร์เดีย ชอว์, ลาร่า แมคดอนเนลล์, จอช แกด, คอลิน ฟาเรล รวมทั้ง จูดี้ เดนช์ ดาราดังความสามารถจัดจ้านที่ฮอลลีวู้ดที่ผู้คนจำนวนมากคุ้นตาจากหนังประสิทธิภาพเยอะแยะ กล่าวได้ว่าคณะทำงานสร้างก็ประสิทธิภาพสุด ๆ แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่หนังหัวข้อนี้จะออกมาห่วยแตกเลย จนตราบเท่าผมได้เปิดมอง

แฟนตาซีเสี่ยงภัย

แฟนตาซีเสี่ยงภัย คุณความดีนั้นพังทลายลงเมื่อมาพบกับการเล่าเรื่องที่โคตรสูตรสำเร็จหนังเสี่ยงภัยแฟนตาซี

อุตสาหะที่จะยัดคำคม ปัญหาแบบเท่ มองมีอะไรกระทั่งดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ ด้วยการเล่าเรื่องแบบรวบรัดก่อนที่จะไปสู่เรื่องราวใหญ่ที่เกือบจะสัมผัสมิได้ถึงการเสี่ยงอันตรายอะไรเลย แถมบางสิ่งบางอย่างก็มาแบบดื้อรั้น ๆ ไม่มีคำชี้แจงอะไร แถมพอเพียงจะชี้แจงเนื้อหาก็งงมากอีก เสมือนหนังไม่รู้เรื่องว่าหนังต้องการจะสื่ออะไร

การปูเรื่องที่ราวกับใส่เข้ามาเพื่อพูดว่าตัวละครที่เป็นตัวละครเอกอย่างอาร์ทิมิส ฟาวล์เป็นผู้ที่หลักแหลมจริง ๆ แม้กระนั้นดันใส่มาด้วยกาคอยธิบายว่าเขาเล่นหมากรุกได้ด้วยไม่กี่ก้าว หรือสามารถดีไซน์งานสถาปัตยกรรม อ่านหนังสือหรือฟังบทกลอนของบิดา แต่ว่าพอเพียงจนตรอกพบเจอปัญหาใหญ่ ไอ้เด็กตัวนำคนนี้ดันแปลงเป็นเด็กเบียวตื่นตูมที่พากเพียรจะประมือกับการทำศึกด้วยแนวทางแบบเด็ก ๆ และไม่มองเห็นความฉลาด มิหนำซ้ำการส่งเสียงร้องเรียกบิดาตนเองที่ล่องหนกำเนิดสิ่งที่จำเป็น ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมความไม่มีราศีหรือเสน่ห์ของความเป็นตัวเอกหลักของเรื่อง จนถึงโดนผู้แสดงอื่นแย่งซีนไปเลย คอนเซปต์เรื่องราวก็ดูดีใช้ได้เลย

การตามล่าสิ่งอัศจรรย์เพื่อช่วยเหลือบิดาของตนจนถึงจำเป็นต้องเปิดศึกกับแฟร์รี่ มีเงื่อนของนักแสดงแต่ละคนว่าเป็นมาอย่างไร ไม่ตรงกันอย่างไร แต่ว่าก็นั่นแหละมีเท่านั้นจริง ๆ แถมบางผู้แสดงก็ไม่ทราบใส่เข้ามาเพราะเหตุใด ไม่เป็นประโยชน์กับหนังแล้วยังส่งผลให้หนังน่าระอาเข้าไปอีก คาร์แร็คเตอร์ก็เสียของ เอาผู้แสดงดังมาทำอะไรก็ไม่รู้เรื่อง

มีความจำเป็นก็จริงแถมบทก็น้อย เอาผู้แสดงระดับฝีมือยอดเยี่ยมมาเล่นในหนังประเด็นนี้เพราะอะไร ถ้าหากมาเล่นเพียงนี้ ยิ่งฉากส่วนท้ายเป็นความวอดวายของแวดวงภาพยนตร์ด้วยงานซีจีที่โคตรเผา รวมทั้งการต่อสู้ที่ระดับบ้านระเบิดแม้กระนั้นก็ชักชวนให้งงเต็กอย่างไม่มีเหตุผล ความดราม่าตอนผู้แสดงพบสภาพการณ์ฉุกเฉินก็มีเพียงแค่ชั่วครู่และกลับมาอย่างเดิม ราวกับดิสนีย์ไม่กล้าทำให้มันไปไกลได้กว่านี้ บทสรุปซามูไรพเนจร

แถมมุมกล้องถ่ายภาพยังเสียสายตามากมาย ๆ ปราศจากความสะดุดตาหรือละลานตาอะไรเลย เป็นหากจะมองแบบเอาเพลิดเพลิน ๆ ในดิสนีย์พลัสมันก็ได้ แม้กระนั้นถ้าหากเอาไปฉายโรงไทย ผมว่าอาจจะมีสวดมนตร์ยับแน่นอนหนังไม่ตอบปัญหาอะไรเลยสักอย่าง ทั้งยังในด้านการเสี่ยงอันตราย คาร์แร็คเตอร์ที่ขาดมิติไม่น่าสนใจอีกทั้งฝั่งตัวการฝั่งตัวร้าย แถมคนไม่เคยอ่านหนังสือคงจะมึนงง นักอ่านหนังสือก็บางทีอาจจะบ้าได้เลยก็ได้ เสียของสุด ๆ

ใจความสำคัญความเชื่อมั่นและมั่นใจของตนเองที่เน้นตลอดทั้งตอนธรรมดา ตอนดราม่า ตอนแอ็คชั่น ซึ่งก็ไม่รู้เรื่องว่าใส่เข้ามาเพื่ออะไร ไม่มีอิมแพ็คยังเชิญชวนน่าเบื่อหน่ายอีกตะหาก แถมสิ่งมีชีวิตอัศจรรย์ในเรื่องก็ถูกวางแบบได้มองขบขันแล้วก็พิศดาร ไม่เข้ากันความนำสมัยด้านเทคโนโลยีที่เผ่าพันธ์กลุ่มนี้มี ยิ่งความฉลาดยิ่งแล้วใหญ่ มั่นใจว่ามองเห็นชื่อทั้งยังภาษาไทยแล้วก็ภาษาอังกฤษคนแม่น้ำคงคาดหวังการเสี่ยงอันตราย ไขปัญหา ระทึกสุดตื่นเต้น

แม้กระนั้นหนังดำเนินเรื่องสลับไป ๆ มา ๆ ระหว่างแฟร์รี่กับตัวละครที่เป็นตัวเอก กับตัวร้ายที่โผล่มาแบบไม่ถึงสิบนาทีแถมมองลิเก๊ลิเกมากมาย ตัวร้ายใส่ผ้าสำหรับคลุม ลึกลับจัง เสมือนไม่เคยมองเห็นมาก่อน แล้วพูดจาแม้กระนั้นคำเดิม “ฉันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่แกรัก” ให้มองน่าสะพรึงกลัว มองน่าเคารพแต่ว่ามองเฮฮามากยิ่งกว่า แบบมันตลกโปกฮาไม่ได้ตั้งใจ

แถมนักแสดงก็วนเวียนอยู่แต่ว่าในบ้านข้างหลังเดียวแม้ว่าจะเข้าประเด็นมานานโดยประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจู่ ๆ ก็ตัดไปสู่ความวุ่นวายรอบคฤหาสน์มีฉากหันหลังสู้กับแฟร์รี่เท่ ๆ รวมทั้งดนตรีที่เพียรพยายามอัดแน่นความอีพิคก็ไม่ช่วยเสริมให้เรื่องราวมองตั้งใจจริงขึ้นเลยนิดหน่อย หนำซ้ำมีแม้กระนั้นจะหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่าหนังไม่ยินยอมปฏิบัติหน้าที่ให้อินหรือชักชวนให้ลุ้นอะไรเลย พวกเราทายใจทางออกหมดว่าหนังจะไปทางไหน แถมยังเสมือนเขียนเรื่องไม่จบตั้งมั่นจะให้ไปต่อแบบเท่ ๆ แม้กระนั้นดูแล้วไม่น่าจะได้โอกาส

บทสรุปซามูไรพเนจร

ในส่วนของดาราหนัง ไม่เคยรู้ว่าเพราะว่าบทที่แย่หรือไม่

แม้กระนั้นส่วนตัวผู้แสดงทุกคนปฏิบัติภารกิจตามบทล่ะ แต่ว่ามันขาดความความเที่ยงธรรมชาติของผู้แสดง แปลงเป็นแสดงไม่ค่อยดีเลยสักคน อย่างผู้แสดงนำหลักที่ เฟอร์เดีย ชอว์ก็ตะคอกเอะอะตลอดทั้งเรื่อง มองไม่เห็นอารมณ์อะไรอื่น นอกเหนือจากหน้านิ่ง ๆ ตื่นตัวตลอดระยะเวลา ปราศจากความอ่อนโยนเสมือนที่หนังอุตสาหะยก นักแสดงพ่อบ้านผิวดำที่พากเพียรจะเท่เป็นวีรบุรุษผู้ช่วยของอาร์ธีมิส

หลานสาวของเขาที่ออกมาทำอะไรไม่เคยรู้นอกเหนือจากบทสำหรับพูดจาแข็งทื่อ ๆ ไม่กี่บทกับฉากแอ็คชั่นอย่างงงงัน ๆ คอลิน ฟาเรลที่แสดงดีเกินกว่าหนัง แล้วก็จูดี้ ดินซ์ที่ดูดีมากมายและก็สง่า แม้กระนั้นบทไม่ส่งอะไรเลยสักหน่อย ส่วนผู้แสดงที่เห็นว่าโอเคสุดอาจจะเป็น ลาร่า แมคดอนเนลล์ ที่สวมบทสาวแฟร์รี่ผู้เก็บงำความลับที่บทหนังมิได้รังแกคุณมากมายนะ

เธอยังมีฉากเด่นมากยิ่งกว่าตนเองหลักซะอีก แถมด้วยการเซ็ตติ้งโลกในหัวข้อนั้นก็มองกระโดดไปกระโดดมาด้วยฉากของหนังที่ราวกับงบประมาณหมด มีฉากซีจีแบบลอย ๆ โผล่มาให้มองเห็นในเรื่อง วนเวียนอยู่เพียงแค่ฉากเมืองไม่กี่เมือง ฉากเมืองแฟร์รี่ใต้ดิน และก็ฉากคฤหาสน์เป็นเซ็ตติ้งหลัก ผสมกับอาวุธสุดไฮเทคที่ปราศจากความละลานตา น่าดึงดูด ซึ่งก็มองเห็นความอุตสาหะจะเล่าการขับเคี่ยวด้านจิตวิทยาระหว่างแฟร์รี่กับเหล่าผู้แสดงนำ

แม้กระนั้นปัญหาที่หนักที่สุดเป็นบทคำบอกเล่าแปลก ๆ สไตล์หนังดิสนีย์ที่ถูกใจพูดจาอะไรเท่ ๆ พาผู้แสดงทุกตัวโอเวอร์แอ็คติ้งกันหมด พอเพียงมาอยู่ในฉากเอาจริงเอาจังแปลงเป็นภาพยนตร์ตลกแบบไม่ได้ตั้งใจด้วย ทั้งยังฉากแอ็คชั่นที่ดูหนังทุนต่ำไม่สมกับนามสมมุติของภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าคำวิพากษ์วิจารณ์ยอดเยี่ยม

เป็นหนังแฟนตาซีที่หนีไม่พ้นคำแช่งหนังสร้างมาจากหนังสือขายดิบขายดีของดิสนีย์ กล่าวได้เต็มปากเลยว่านอกจากหนังที่ใช้ทรัพยากรจากตนเองอย่างมาเวลและก็ดิสนีย์ ดิสนีย์ไม่มีอะไรดีเลยสำหรับเพื่อการสร้างงานปรับเปลี่ยนหรืองานออริจินัล ด้วยความพังทลายแบบหมดท่าของหนังประเด็นนี้เป็นแบบอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ถึงส่วนประกอบหนังประเด็นนี้จะดีเลิศเพียงใด แต่ว่าเมื่อมันมาพบกับบทหนังที่แสนซ้ำ ๆ ซาก ๆ

นักแสดงที่กระทำตนแปลกแล้วก็ไม่น่าสนใจ ไม่สมกับการตีความหมายโลกของหนัง ช่วยเพิ่มความขาดความน่าดึงดูดใจจากคอนเซปต์ที่ดูดีมีความน่าติดตามให้เปลี่ยนเป็นความเบื่อหน่าย อาจจะมีแค่นักแสดงแค่นั้นที่หามหนังให้ผมยังทนมองได้กระทั่งมากระทั่งจบ หากรู้สึกว่าจะเป็นหนังเผชิญภัยสุดตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้น แล้วก็ครบทุกอารมณ์ อย่ามาดูหัวข้อนี้เลย

นักวิพากษ์วิจารณ์ต่างถิ่นว่ายังยังไง ว่าอย่างงั้นล่ะ สคิปได้ สคิปเลย อย่าเสียเวล่ำเวลามองเลย ดูแล้วอารมณ์เสียหัวใจเปล่า ๆ ยิ่งผู้ที่เคยอ่านหนังสือ ผมบอกได้เลย ถ้าเกิดคุณได้มองหัวข้อนี้จบ คุณแช่งชักหักกระดูกหนังหัวข้อนี้แน่ แม้กระนั้นหากไม่คิดมากมายต้องการหาอะไรมองผ่าน ๆ ให้มันมีอะไรบ้างในชีวิตก็ทดลองได้

ไม่มีการเสี่ยงอันตรายหรือปัญหา ปราศจากความตื่นเต้น บทแปลก การแสดงที่โอเวอร์แอ็คติ้งที่ทำให้ผู้แสดงไม่น่าสนใจ ซีจีลอยจนกระทั่งเข้าขั้นแย่ แล้วก็ดนตรีประกอบที่เพียรพยายามโหมความตระการตา แม้กระนั้นระดับของหนังมันมิได้พาไปถึงจุดนั้นเลยทำให้ไม่รู้เรื่องอินไปกับเรื่องราวในเรื่อง เปลี่ยนเป็นหนังที่มองผ่านตาได้อย่างยากเย็นแสนเข็ญอย่างยิ่ง